|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ดันรถบีอาร์ทีเปิดซิงตัดหน้าต้นปี |
|
รถเมล์ด่วน "บีอาร์ที" แซงหน้ารถไฟฟ้าบีทีเอส ช่วงสถานีตากสิน-ถนนตากสิน ชิงเปิดให้บริการก่อนต้นปี"51 หลังโปรเจ็กต์รถไฟฟ้าของ กทม.เจอปัญหาซ้ำซาก ทั้งจัดซื้อระบบอาณัติสัญญาณที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ แถมโครงการส่อแววติดหล่มกฎหมายร่วมทุนฯ ด้านกรุงเทพธนาคมรับทรัพย์อื้อ บริหารจัดการบีอาร์ที ลอตแรก 48 ล้านบาท
นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า งานเร่งด่วนด้านการจราจรตามนโยบายของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. บริษัทจะทำหน้าที่ในการบริหารจัดการตามที่ กทม.ว่าจ้างให้ดำเนินการ ขณะนี้มีอยู่ 2 โปรเจ็กต์ คือ โครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม 2.2 กิโลเมตร จากสถานีตากสิน-ถนนตากสิน และโครงการรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษหรือบีอาร์ที สายแรกเขียว-เหลือง จากช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ ระยะทาง 16.5 กิโลเมตร
"ตอนนี้เราจะโฟกัสรถบีอาร์ทีมากขึ้น เพราะดูความเป็นไปได้แล้วจะเปิดบริการได้ก่อน โดยเริ่มก่อสร้างแล้วคาดวาต้นปีหน้าเปิดได้ ซึ่งทั้ง 2 ระบบ จะช่วยเสริมกันและกัน" นายดุสิตกล่าว
นายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม กล่าวว่า โครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอส 2.2 กิโลเมตร ยังติดปัญหาหลายอย่างที่อาจจะทำให้โครงการล่าช้าไป ตั้งแต่การจัดซื้อจัดจ้างหาผู้ผลิตมาวางระบบอาณัติ สัญญาณ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะผู้บริหารว่าจะเปิดประมูลแบบวิธีพิเศษหรือแบบประมูลทั่วไป เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ไม่ให้มีข้อครหา ภายหลังจากที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณจากระบบ ซีเมนส์มาใช้บอมบาร์ดิเอร์แทน ซึ่ง กทม.จะต้องคัดเลือกระบบให้สอดคล้องกับการเดินรถไฟฟ้าของบีทีเอส เพราะระบบจะต้องต่อเชื่อมกัน ถ้าไม่เชื่อมกันผู้ใช้บริการจะเกิดความลำบากได้
"แต่ที่เป็นปัญหาใหญ่คือ เรื่องการตีความ ของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าโครงการ รถไฟฟ้าบีทีเอส 2.2 กิโลเมตรนี้จะเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2535 หรือไม่ เพราะโครงการเกิน 1,000 ล้านบาท และ กทม.จ้างให้บริษัทกรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นวิสาหกิจมาบริหารจัดการ และให้เอกชนเข้ามาเดินระบบรถไฟฟ้า ซึ่งจะต้องมีเรื่องผลตอบแทนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย"
นายอมรกล่าวต่อว่าตอนนี้กำลังรอคำวินิจฉัยจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งถ้าเข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งทำให้โครงการนี้ล่าช้าไปอีก 1-2 ปีได้ นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการจัดหาเอกชนมาเดินระบบรถไฟฟ้า ซึ่งตอนนี้นโยบายเปลี่ยน ผู้บริหาร กทม.ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้บีทีเอสมาเดินรถไฟฟ้าเหมือนนโยบายตอนแรก ขณะนี้ผู้บริหารอยู่ระหว่างการพิจารณา
"บีอาร์ทีไม่เข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ เพราะ กทม. ใช้งบประมาณดำเนินการเองและขณะนี้เริ่มก่อ สร้างแล้วและใช้เวลาไม่นาน ตอนนี้กำลังจัดซื้อรถ ซึ่งทีโออาร์เสร็จหมดแล้ว รอประกาศเชิญชวนเอกชนอยู่ สเป็กรถที่มาวิ่งเป็นรถเอ็นจีวี นำเข้าจากต่างประเทศ จำนวน 30 คัน ประมาณเดือนธันวาคมนี้จะเริ่มนำรถบีอาร์ทีมาทดสอบวิ่ง ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณเดือนมีนาคมปี 2551 นี้"
นายอมรกล่าวต่อว่า สำหรับหน้าที่ของกรุงเทพธนาคมในโครงการบีอาร์ทีจะเป็นคนบริหารจัดการเรื่องของระบบรถที่จะมาวิ่งและภายในสถานี รวมถึงจัดหาบุคลากร จำนวน 200 กว่าคน ซึ่ง กทม.ได้ว่าจ้างบริษัทมาดำเนินการก่อนที่จะเปิดให้บริการ วงเงิน 48 ล้านบาท ซึ่งงานจะมีจัดตั้งสำนักงาน หาอุปกรณ์สำนักงานและประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนได้รับรู้
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 05-04-2550
|
|
|
|
|
