Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"ซีแพค"ต่อยอดนวัตกรรมรถโม่เล็ก รื้อระบบจัดส่งชูHub&Spokeลดต้นทุน |
|
"ซีแพค" มาถูกทาง เร่งผลิต "รถโม่เล็ก" เพิ่มเป็น 700 คัน รับความต้องการคอนกรีตผสมเสร็จขยายตัว วางจัดระบบจัดส่งสินค้าใหม่แบบ Hub& Spoke ใช้รถคันใหญ่ถ่ายสู่รถคันเล็กลดจำนวนเที่ยวในการวิ่งช่วยลดต้นทุน ชี้แนวโน้มตลาดระยะยาวยังขยายตัวได้อีกจากปัจจุบันมีสัดส่วนการใช้เพียง 20% จากความต้องการใช้ซีเมนต์ทั้งหมด ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 1.8 หมื่นล้านบาท โต 7%
นายอรรณพ เตกะจรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด ในธุรกิจเครือซิเมนต์ไทย ผู้ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ (เรดดี้มิกซ์) "ซีแพค" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากบริษัทได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีจากการพัฒนานวัตกรรม "รถโม่เล็ก" เพื่อให้บริการลูกค้าแบบทุกซอกซอย ปัจจุบันมีจำนวนเกือบ 500 คัน ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ สงขลา ภูเก็ต ชลบุรี นครปฐม ฯลฯ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา ในปีนี้ตั้งเป้าผลิตรถเพิ่มอีกกว่า 200 คัน รวมเป็น 700 คัน
"การคิดค้นรถโม่เล็กเหมือนกับว่าเราเกาถูกที่คัน คำว่าอินโนเวชั่นไม่จำเป็นต้องหรูหรา แต่ต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุด เพราะเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น จากเดิมเจ้าของบ้านอยากใช้แต่ไปส่งได้ไม่ถึงโดยเฉพาะตามต่างจังหวัด เชื่อว่าในอนาคตจะเห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใช้คอนกรีตผสมเสร็จมากขึ้น"
สำหรับเป้าหมายการเพิ่มจำนวนรถโม่เล็กในอนาคตจะอิงไปกับการขยายตัวของตลาดคอนกรีตผสมเสร็จที่เข้ามาทดแทนการใช้ปูนซีเมนต์ถุง เนื่องจากสะดวกรวดเร็วไม่ต้องผสมหิน ทรายจึงได้คุณภาพแน่นอน ประมาณการว่าปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้คอนกรีตผสมเสร็จเพียง 20 ล้านคิวบิกเมตร หรือคิดเป็นสัดส่วน 20% จากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในแต่ละปี หมายความว่าทุกๆ การใช้ปูนซีเมนต์ 100 ตัน เป็นการใช้ในรูปแบบคอนกรีตผสมเสร็จ 20 ตัน
แต่ถ้าเปรียบเทียบกับต่างประเทศถือว่ายังห่างไกล เท่าที่ทราบประเทศสิงคโปร์ หรือฮ่องกง มีสัดส่วนการใช้คอนกรีตผสมเสร็จถึง 80% แถบยุโรปประมาณ 50% แสดงให้เห็นชัดเจนว่าตลาดยังขยายตัวได้อีกโดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด จากช่วง 10 ปีก่อนซีแพคมีสัดส่วนการขายครึ่งหนึ่ง ปัจจุบันปรับเพิ่มเป็นกว่า 2 ใน 3
ทั้งนี้การทำกิจกรรมกับลูกค้าจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เข้ามาช่วยขยายตลาด ปัจจุบันบริษัทจัดตั้งโครงการ Help Desk ขึ้น มีวิศวกรประจำ 23 ศูนย์ กระจายตัวทั่วประเทศ คอยให้คำปรึกษาแก่ชาวบ้านไม่เฉพาะแต่เรื่องคอนกรีตเท่านั้น แต่รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับการก่อสร้างอื่นๆ เหมือนเป็นการทำซีอาร์เอ็ม (ลูกค้าสัมพันธ์) ขณะเดียวกันก็เปิดเว็บไซต์ www.cpacacademy.co.th เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลคอนกรีตให้ความรู้
นายอรรณพกล่าวต่อว่า สำหรับปีนี้ได้วางแผนพัฒนาประสิทธิภาพรถโม่เล็กแบบต่อยอดทางความคิด 2 ส่วน คือ 1) เสริมเพลาด้านท้ายเพื่อให้สามารถบรรทุกคอนกรีตจาก 1-2 คิวบิกเมตร เพิ่มเป็น 7 คิวบิกเมตร ใกล้เคียงกับรถโม่คันใหญ่ และ 2) จัดระบบการจัดส่งใหม่ โดยการสร้างฮับเปลี่ยนถ่ายจากรถใหญ่มาสู่รถเล็กเข้ามาใช้เพื่อช่วยลดต้นทุน หรือโครงการ Hub & Spoke ซึ่งจะเชื่อมโยงกับระบบตรวจจับตำแหน่งรถผ่านดาวเทียม (GPRS) ที่ติดตั้งกับตัวรถ
รูปแบบคือจะใช้รถขนาดใหญ่วิ่งตามเส้นทางหลักที่เป็นถนนใหญ่ แต่เมื่อต้องเข้าซอกซอยก็หาไซต์งานก่อสร้างในละแวกนั้นเป็นจุดเปลี่ยนคอนกรีตถ่ายใส่รถขนาดเล็ก วิธีการนี้จะช่วยลดจำนวนเที่ยวในการขนส่งสินค้าได้อีกทางหนึ่ง จากปัจจุบันใช้รถเล็กวิ่งตรงกับโรงงานไปส่งลูกค้า ขณะเดียวกันก็ช่วยลดจำนวนรถบนท้องถนนด้วย
"สิ่งที่ได้คือช่วยเรื่องต้นทุนและปัญหาจราจรไปพร้อมๆ กัน ขณะนี้อยู่ในช่วงการทดลองเพราะข้อจำกัดคือเรื่องเวลา แต่ถ้าทำได้เชื่อว่าเวิร์กแน่ และอาจช่วยให้เราลดราคาให้กับเอเย่นต์ลงได้อีก"
นายอรรณพกล่าวถึงแนวโน้มตลาดคอนกรีตผสมเสร็จในปีนี้ด้วยว่า น่าจะมีทิศทางชะลอตัวลง เนื่องจากภาคเอกเชนเบรกแผนพัฒนาโครงการออกไป รวมถึงงานก่อสร้างภาคราชการใหม่ๆ ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ก็มีจำนวนน้อยมาก ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าก็คงต้องใช้เวลาอีกระยะ ดังนั้นความต้องการใช้คอนกรีตในปีนี้น่าจะทรงตัวจากปีก่อน สะท้อนจากยอดขายซีแพคในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเมื่อเทียบปีก่อน
อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 1.8 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 7% ถือว่าค่อนข้างคอนเซอร์เวทีฟ จากช่วงก่อนหน้านี้ที่มีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% มาตลอด
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 19-03-2550
|
|
|
|
|