|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| กรมทางหลวงจุดพลุ ถนนวงแหวนรอบ 3 ผ่า 8 จังหวัดกระจายความเจริญ |
|
ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า มีการคาดการณ์ว่า ปริมาณการจราจรทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จะเต็มความจุอีกครั้ง แม้จะมีการขยายถนนรอบนอกกาญนาภิเษกหรือวงแหวนรอบที่ 2 ฝั่งตะวันออกเป็น 8 ช่องจราจร และมีการเปิดใช้โครงการวงแหวนด้านใต้ แล้วก็ตาม
ทำให้กรมทางหลวงควักกระเป๋า 40 ล้านบาท ศึกษาโครงการถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครรอบที่ 3 ตามแผนโครงการนี้จะตัดผ่านพื้นที่ 8 จังหวัด คือ สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพมหานคร ใช้ระยะเวลาศึกษา 15 เดือน ปลายปีนี้ผลการศึกษาจะแล้วเสร็จ เพื่อรองรับ การขยายตัวของปริมาณการจราจรในอนาคต
"ปีนี้ผลการศึกษาเสร็จ ปีหน้าเราจะของบฯออกแบบรายละเอียด และปี 2552-2553 จะของบฯก่อสร้าง โดยจะสร้างเป็นแบบทาง มอเตอร์เวย์ ขนาด 4-6 ช่องจราจร" นายจำนงค์ ประยงค์รัตน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายวางแผน กรมทางหลวงกล่าวและว่า
สำหรับแนวเส้นทางขณะนี้ยังไม่ชัดเจน แต่มีแนวเบื้องต้นแล้ว จะอยู่ห่างจากถนนวงแหวนรอบที่ 2 ประมาณ 5-15 กิโลเมตร มีรัศมีห่างจากศูนย์กลางกรุงเทพฯประมาณ 20-30 กิโลเมตร สามารถเชื่อมต่อถึงการขนส่งระบบต่างๆ หลายรูปแบบได้สะดวก ทั้งสนามบิน ท่าเรือ สถานีรถไฟและรถไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า multimodal transport เชื่อมโยงระหว่างในเมืองและนอกเมืองได้เป็นอย่างดี
ด้านการเวนคืนที่ดิน วิศวกรใหญ่บอกว่า จะให้กระทบกับบ้านเรือนให้น้อยที่สุด แต่เท่าที่สำรวจพื้นที่ในเบื้องต้น ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่โล่งและทุ่งนา จะมีการเวนคืนจุดใหญ่ๆ เช่น อ้อมน้อย อ้อมใหญ่ ชุมชนหนองจอก บางพลี บางปะอิน เป็นต้น โดยจะใช้แนวเขตทาง 70 เมตร
แม้กรมทางหลวงจะรู้อยู่เต็มอกว่า โครงการนี้กว่าโครงข่ายจะสมบูรณ์แบบ ครบตามระยะทาง ที่ศึกษาไว้ 270 กิโลเมตร คงต้องใช้เวลา 10-20 ปี
เนื่องจากใช้เม็ดเงินลงทุนสูงถึง 80,000 ล้านบาท ขณะที่งบประมาณของกรมได้รับในแต่ละปีเริ่มลดน้อย
แต่ก็พยายามจะผลักดันให้แจ้งเกิด โดยตีกรอบการลงทุนโครงการให้แคบลง ในช่วง 4-5 ปีนี้ วางแผนจะเริ่มก่อสร้างช่วงฝั่งตะวันออกก่อน จากอยุธยาลงมายังฉะเชิงเทราไปสมุทรปราการ สิ้นสุดที่บางนา-ตราด ระยะทาง 80 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 11,200 ล้านบาท เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือแหลมฉบัง และไอซีดีศูนย์กระจายสินค้าของการรถไฟฯ
เป็นการเพิ่มโครงข่ายถนนเลี่ยงเมืองกรุงเทพฯและพื้นที่โดยรอบ ช่วยลดปริมาณการจราจรและขนส่งที่ผ่านพื้นที่ชุมชนหนาแน่นแล้ว ยังช่วยด้านลอจิสติก ลดระยะเวลา ระยะทางการเดินทาง ในการขนส่งสินค้าระหว่างภูมิภาคไปยังพื้นที่อุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการลดต้นทุน
อีกทั้งยังเป็นการช่วยด้านการพัฒนาเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดินของพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯในอนาคตได้อีกด้วย
อีกเส้นทางหนึ่งที่มีแนวโน้มจะก่อสร้างก่อน คือ ช่วงตะวันตก จากอยุธยาลงมาจนถึงนครปฐม และถนนธนบุรี-ปากท่อ ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร งบฯก่อสร้าง 8,400 ล้านบาท
เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการขนส่งสินค้าและการเดินทางหนาแน่นเป็นพิเศษ
แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับผลการศึกษาและความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ว่าจะเห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน ซึ่งขณะนี้กรมทางหลวงอยู่ระหว่างดำเนินการ
หากเสียงสะท้อนของชาวบ้านบอกว่าเส้นทางไม่เหมาะสม สร้างแล้วไม่ได้ประโยชน์อย่างที่กรมทางหลวงคิด โปรเจ็กต์นี้คงไปไม่ถึงฝั่งฝัน คงได้แค่ศึกษาเท่านั้น
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 12-03-2550
|
|
|
|
|
