|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| สมพงษ์ กิติมหาคุณ "โมเดอร์นกรุ๊ป" ไม่เคยทิ้งงานลูกค้า |
|
สัมภาษณ์
ผ่านประสบการณ์มายาวนานกว่า 17 ปี ในวงการรับสร้างบ้าน ทำให้วันนี้ "สมพงษ์ กิติมหาคุณ" กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เดอะโมเดอร์นกรุ๊ป เรียลพรอพเพอทิ จำกัด มีดาต้าข้อมูลมากพอที่จะวิเคราะห์คาดการณ์แนวโน้มตลาดธุรกิจรับสร้างบ้าน ทำเล พฤติกรรมผู้บริโภค ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเสนอแง่คิดมุมมองที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจรับสร้างบ้านเดินหน้าไปอย่างมั่นคง ท่ามกลางปัจจัยลบการเมืองและเศรษฐกิจในปีนี้
- ปัญหาที่มองเห็นในธุรกิจรับสร้างบ้าน
ถ้าเป็นไปได้ในการจัดทำผังเมือง ทั้งกรมโยธาธิการฯ สำนักงานโยธา และกรมธนารักษ์ ซึ่งทำหน้าที่ประเมินราคาที่ดินควรทำงานแบบสอดประสานกัน จากประสบการณ์มีลูกค้ารายหนึ่งมีที่ดินอยู่ในย่านวงศ์สว่างราคาประเมิน ตร.ว.ละ 92,000 บาท มาว่าจ้างบริษัทปลูกสร้างบ้าน แต่ตอนออกแบบบ้านกลับติดข้อกำหนดระยะถอยร่น ทำให้สร้างบ้านได้แค่ไม่กี่ตารางวา เท่ากับต้องเสียที่ดินบางส่วนไปฟรีๆ และอาจเป็นการบีบให้ต้องก่อสร้างบ้านผิดจากแบบที่ขออนุญาต
ผมเห็นว่าบรรทัดฐานที่เหมาะสมคือ หากเป็นที่ดินราคา ตร.ว.ละ 30,000 บาทขึ้น ภาครัฐควรอนุโลมให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้มากขึ้น ทั้งการจำกัดระยะถอยร่น ประโยชน์ใช้สอยในที่ดิน รวมถึงความสูงอาคาร นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่พบคือ ในขณะสร้างบ้านหากคนงานต้องล่วงล้ำเข้าไปในที่ดินของอีกรายตามกฎหมายต้องให้เจ้าของที่ดินเซ็นยินยอมก่อน ซึ่งตามหลักไม่ค่อยมีใครเซ็นยินยอมเพราะกลัวจะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง ดังนั้นน่าจะปรับเปลี่ยนข้อกำหนดส่วนนี้ใหม่ให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องมีการเซ็นยินยอมเหมือนในต่างประเทศ ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมาเชื่อว่าในอนาคตจะมีให้เห็นมากขึ้น
- ความคืบหน้าการร่างสัญญามาตรฐาน
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการร่างสัญญาโดยใช้สัญญาของ สคบ. (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) เป็นต้นแบบ วันที่ 9 มีนาคมนี้จะหยิบเรื่องนี้มาหารือกันในการประชุมสมาชิกสมาคมประจำเดือน คาดว่าสัญญา (ฉบับร่าง) จะแล้วเสร็จไม่เกินช่วงกลางปีนี้ จากนั้นจะเชิญตัวแทนจาก สคบ. และสถาบันการเงิน ร่วมกันแสดงความคิดเห็น รูปแบบสัญญามาตรฐาน เน้นความเป็นธรรมระหว่างบริษัทรับสร้างบ้านและลูกค้ามากที่สุด เช่นเดียวกับเดอะโมเดอร์นกรุ๊ปฯ ก็ยึดถือเรื่องนี้เป็นสำคัญ ที่ผ่านมาได้เปิดแผนก call center ให้บริการคำปรึกษาลูกค้าในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับบ้านเพื่อตอบแทนผู้บริโภค
- ปัจจัยลบปัจจัยบวกที่เห็นในปีนี้
สำหรับปัจจัยลบคือ ความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่วนปัจจัยบวกผมว่าปัจจุบันมีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่หันมาซื้อที่ดินในโครงการบ้านจัดสรรและว่าจ้างบริษัทปลูกสร้างบ้านให้ อาจเป็นเพราะขณะนี้เป็นช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวตลาดเป็นจังหวะของ "ผู้ซื้อ" โครงการจัดสรรบางแห่งจำเป็นต้องตัดขายเฉพาะที่ดินเปล่าออกไปเพื่อหมุนเงิน กรณีนี้ถ้าเปรียบเทียบการซื้อบ้านจัดสรรระดับไฮเอนด์ (ไม่รวมที่ดิน) มีราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 25,000 บาท แต่ถ้าว่าจ้างปลูกสร้างบ้านในระดับไฮเอนด์เหมือนกันตกราคาตารางเมตรละ 18,000-20,000 บาท หรือถูกกว่า 5,000-7,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ลักษณะนี้ถ้ากู้เงินแบงก์จะปล่อยสินเชื่อยากเพราะมองว่าอาจเป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไร
- ทำเลยอดนิยมในการสร้างบ้าน
ถ้าจัดลำดับทำเล "แจ้งวัฒนะ" ถือว่าเป็นโซนที่มีบริษัทรับสร้างบ้านมาเปิดสาขาและมีจำนวนลูกค้าสูงสุด คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 10 บริษัท เช่น รอแยลเฮ้าส์ เดอะโมเดอร์นกรุ๊ปฯ ซีคอน ไมก้า พีทีเอสโฮม ฯลฯ โซนนี้ถือว่ามีโอกาสขยายตัวของที่อยู่อาศัยอีกนาน เพราะปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างถนนข้ามไปฝั่งปากเกร็ด มีโครงการศูนย์ราชการซึ่งเชื่อว่าจะมีการย้ายที่อยู่อาศัยตามมาอีกจำนวนมาก และอนาคตเชื่อว่าจะมีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเลียบถนนสายนี้เกิดขึ้น ศักยภาพของตลาดรับสร้างบ้านย่านแจ้งวัฒนะจึงเติบโตได้อีก 10-20 ปี
ถัดมาคือทำเล "ราชพฤกษ์" ปัจจุบันมีบริษัทรับสร้างบ้านหลายราย เช่น รอแยลเฮ้าส์ ปทุมดีไซน์ มีนบุรีรับสร้างบ้าน ไวส์คอนซัลแทนท์ ฯลฯ และโซนตะวันออก ทำเล "สุวรรณภูมิ" เฉพาะในย่านศรีนครินทร์มีบริษัทรับสร้างบ้าน 4-5 บริษัท อาทิ เดอะโมเดอร์นกรุ๊ปฯ รอแยลเฮ้าส์ ซีคอน แลนดี้โฮม ฯลฯ รวมไปถึงเส้นบางนา-ตราด อาทิ โฮมสแตนดาร์ด
- กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท
เป็นตลาดระดับราคา 5-7 ล้านบาท มีสัดส่วน 50% ราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ประมาณ 30% และราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ประมาณ 5% เปรียบเทียบแล้วถือว่าบริษัทอยู่ในกลุ่มเดียวกับ "โฟร์พัฒนา" และ "ปทุมดีไซน์" ที่จับตลาดใกล้เคียงกัน ส่วนสเป็กวัสดุเราแยกเป็น 3 เกรด คือ 1)สเป็กลักเซอรี่ ใช้วัสดุบางตัวนำเข้าจากต่างประเทศ อาทิ กระเบื้อง หินแกรนิต สุขภัณฑ์ ฯลฯ ราคา 20,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป 2)สเป็กพรีเมี่ยม ใช้วัสดุผลิตในประเทศเกรดเอ ราคา 18,000-20,000 บาทต่อตารางเมตร และ 3)สเป็กมีเดี้ยม ใช้วัสดุระดับมาตรฐาน มี 2 รุ่น คือ รุ่น 201 ราคา 15,000 บาทต่อตารางเมตร และมีเดี้ยม 101 ราคา 12,000 บาทต่อตารางเมตร
- เดอะโมเดอร์นกรุ๊ปฯต่างจากรายอื่นอย่างไร
เรายึดหลักการทำธุรกิจแบบไม่ค้ากำไรเกินควร "อะไรสมควรได้ก็ได้ ที่ไม่สมควรได้ก็ไม่ควรได้" ตลอด 17-18 ปีที่ผ่านมาเราไม่เคยทิ้งงานลูกค้าแม้แต่รายเดียว และไม่เคยบีบให้ยกเลิกสัญญา ถือเป็นจุดแข็งของบริษัทที่ช่วยสร้างแบรนด์อิมเมจให้กับเดอะโมเดอร์นกรุ๊ปฯ
- มีวิธีควบคุมคุณภาพอย่างไร
บริษัทมีการตรวจสอบคุณภาพ (คิวซี) หลายขั้นตอน ตั้งแต่ระดับผู้จัดการ วิศวกร และปลูกฝังให้พนักงานเห็นความสำคัญสิ่งเหล่านี้ แรกๆ พนักงานอาจจะรู้สึกลำบากใจเหมือนถูกจับผิด แต่ถ้าผลตอบรับออกมาดีทุกคนก็แฮปปี้ ขณะเดียวกันเรามีการฝึกอบรมพนักงานทั้งฝ่ายบริหารและแรงงานอย่างต่อเนื่อง ถ้าเป็นฝ่ายบริหารจัดอบรมสัมมนาปีละ 2 ครั้ง ส่วนคนงานใช้วิธีส่งไปอบรมกับสมาคม ส่วนพนักงานคนไหนที่มีอายุงานถึง 15 ปี บริษัทก็แจกทองคำให้เป็นขวัญกำลังใจ
- รายได้ในปี 2549 ที่ผ่านมา
ประมาณ 200 ล้านบาทเศษ เติบโตจากปี 2548 ประมาณ 30-40% ส่วนปีนี้ตั้งเป้าไว้ 250 ล้านบาท และมั่นใจว่าน่าจะทำได้ โดยในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมามีลูกค้าจองและเซ็นสัญญาสร้างบ้านใหม่แล้วประมาณ 40 ล้านบาท ขณะเดียวกันประมาณช่วงไตรมาสที่ 2 จะเปิดตัวบริษัทใหม่ชื่อ "ทรอปิคอลซีรีส์เฮาส์" เพื่อรุกตลาดรับสร้างบ้านราคา 1-3 ล้านบาท คิดราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 11,000 บาท เน้นเจาะลูกค้าอายุ 25-35 ปีที่ออกมาสร้างครอบครัวใหม่ แบบบ้านมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งสไตล์ทรอปิคอล คอนเท็มโพรารี่ และคลาสสิก คาดว่าจะเปิดตัวสาขาแรกที่แจ้งวัฒนะ
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 08-03-2550
|
|
|
|
|
