| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 83 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 05-03-2550    อ่าน 11495
 ท็อปไฟฟ์อสังหาฯดันยอดฝ่ามรสุม "แลนด์"การ์ดตก"พฤกษา-QH"มาแรง

บิ๊กพัฒนาที่ดินโชว์ตัวเลขผลประกอบการทั้งปี ยุคผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น ตอกย้ำตลาดแข่งเดือด เปิดโพยรายชื่อติดอันดับท็อปไฟฟ์ล้วนหน้าเดิม ค่าย "แลนด์" แชมป์ตลอดกาลยังหืดจับ แถมถูกเบอร์ 2 "แสนสิริ" จี้ติด "คิวเฮ้าส์" คว้าอันดับ 3 หลังแตกแบรนด์ "คาซ่า" ปั้นยอด จับตา "พฤกษาฯ-เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้" มาแรง

จากตัวเลขผลประกอบการปี 2549 ที่ผ่านมาของบริษัทอสังหาฯในตลาดหลักทรัพย์ฯที่เริ่มทยอยประกาศออกมา พบว่าหลายรายสามารถโชว์ตัวเลขในระดับที่ดีแม้จะมีกำไรลดลง

ประมวลตัวเลขผลประกอบการสูงสุด 5 อันดับแรกยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดย "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" ยังครองความเป็นเบอร์ 1 ในวงการ แม้จะเหนื่อยหน่อยเพราะยอดขายบ้านลดลงจาก 22,700 ล้านบาท ในปี 2548 เหลือ 17,620 ล้าน กำไรสุทธิลดลงเหลือ 3,247 ล้านบาท จาก 5,121 ล้านบาทในปี 2548 โดยยอดขายลดลง 22% กำไรลดลง 36% แถมเบอร์ 2 กำลังไล่จี้อย่างหนัก

อันดับ 2 เป็นของ "แสนสิริ" โดยแจ้งผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยประจำ ปี 2549 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 11,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 10,517 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 404 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 903 ล้านบาท

"แสนสิริ" ชี้แจงว่า สาเหตุที่กำไรลดลงเนื่อง จากส่วนหนึ่งนำไปใช้เป็นงบฯส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย เนื่องจากภาวะการชะลอตัวของตลาดโดยรวม ปีที่ผ่านมาแสนสิริเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีสีสันกิจกรรมการตลาดมากที่สุด โดยใส่เม็ดเงินกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบบไม่อั้น แลกกับการสร้างแบรนด์ ส่งผลให้ประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายอย่างมาก


อันดับ 3 ที่เบียดมาแบบคู่คี่ คือ "ควอลิตี้ เฮ้าส์" เจ้าตลาดบ้านราคาแพงในกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปีที่ผ่านมาปรับกลยุทธ์แตกบริษัทลูก "คาซ่าวิลล์" รุกตลาดบ้านระดับกลางในหลายทำเล โดยเปิดตัวโครงการใหม่ถึง 9 โครงการรวมมูลค่า 9,850 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายทรัพย์สินบางส่วน ทำให้ยอดรับรู้รายได้โตพรวดเป็น 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3,015 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,007 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 184 ล้านบาท

อันดับ 4 เป็นของเจ้าตลาดทาวน์เฮาส์ค่าย "พฤกษา เรียลเอสเตท" เศรษฐีหุ้นหน้าใหม่แห่ง ปี 2549 มียอดรับรู้รายได้ 8,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 570 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 31 ล้านบาท โดยตัวที่ช่วยดันรายได้พฤกษาฯให้เติบโตขึ้นคือสินค้าประเภททาวน์เฮาส์ ที่มียอด ขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 923 ล้านบาท หรือ 31% แต่รายได้สินค้าประเภทอื่นปรับลดลง ได้แก่ บ้านเดี่ยวรายได้ขายลดลง 30 ล้านบาท (-1%) บ้านแฝดรายได้ลดลง 282 ล้านบาท (-24%) อาคารพาณิชย์ยอดขายลดลง 55 ล้านบาท (-57%)

อันดับ 5 "เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้" ที่ปีนี้หันมาบุกตลาดคอนโดฯในเมืองหลายโครงการ ภายใต้แบรนด์ "Address" และ "Life" เจาะลูกค้าไฮเอนด์และคนรุ่นใหม่ มียอดขายรับรู้รายได้ 6,344 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,087 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,344 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 580 ล้านบาท ถือว่ามีอัตรากำไรเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในบริษัทอสังหาฯท็อปไฟฟ์

ขณะที่บริษัทอสังหาฯรายอื่นๆ ล้วนยังมีรายได้เติบโตกันถ้วนหน้า โดย "แอล.พี.เอ็น." เจ้าตลาดคอนโดฯ โชว์ยอดขายรับรู้ 5,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,438 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 765 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 177 ล้านบาท

ส่วน "ศุภาลัย" ได้อานิสงส์จากกยอดขาย คอนโดฯริมแม่น้ำเจ้าพระยา "คาซ่าริว่า" ที่ทำยอดขายได้แล้วกว่า 2,000 ล้านบาท หรือ 90% ของมูลค่าโครงการ และคอนโดฯแห่งใหม่ในย่าน ศรีนครินทร์ที่มียอดขายแล้ว 60% หลังจากเปิดขายได้เพียงไม่กี่เดือน มียอดรับรู้รายได้ 4,518 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,161 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 880 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 49 ล้านบาท มาจากการส่งมอบห้องชุดในโครงการคอนโดฯ "ซิตี้โฮม" ที่สร้างประวัติการณ์ปิดการขายได้อย่างรวดเร็วแบบถล่มทลาย

ขณะที่ "เอสซีแอสเสท" ที่ได้น้องสาวคนเล็กของตระกูลชินวัตร "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เข้ามา บริหารและกำลังรีแบรนด์เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กรก็รวยขึ้นเช่นเดียวกัน โดยมียอดรับรู้รายได้ 1,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 406 ล้านบาท แต่มีกำไรสุทธิ 333 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 99 ล้านบาท ซึ่ง SC ชี้แจงว่าเกิดจากปีที่ผ่านมาได้ระบุกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ จำนวน 119 ล้านบาท

"ลลิล พร็อพเพอร์ตี้" มียอดขาย 2,400 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 1,928 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 3,000 ล้านบาท และ 2,700 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 822 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.6% และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 396 ล้านบาท ลดลงจากปี 2548 ที่สามารถทำได้ 693 ล้านบาท

"พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ 4,500 ล้านบาท "อารียา พร็อพเพอร์ตี้" มีรายได้รวม 885.76 ล้านบาท เทียบกับ 976.90 ล้านบาทในปี 2548 กำไรสุทธิ 8.1 ล้านบาท ลดลงจากปี 2548 ที่มีกำไร 8.7 ล้านบาท "มั่นคงเคหะการ" มียอดขาย 1,750 ล้านบาท "โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์" เบื้องต้นมีรายได้จากยอดขาย 3,700 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 2,500 ล้านบาท

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 05-03-2550 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.