|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ทล.ขออีกพันล้านตัดถนน 3 สาย ประเดิม สุขาภิบาล-วงแหวนรอบนอก |
|
คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต
นอกจากผู้รับเหมาขาดสภาพคล่องและอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อความปลอดภัย อย่าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทำให้งานก่อสร้างถนนสายต่างๆ ทั่วประเทศของกรมทางหลวงล่าช้าไปจากกำหนด จนเกิดปัญหาการทิ้งงาน
อีกสาเหตุหนึ่ง มาจากการจัดกรรมสิทธิ์ เนื่องจากทำให้กรมทางหลวงส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้กับผู้รับเหมาไม่ได้ การก่อสร้าง จึงไม่เดิน
"ทรงศักดิ์ แพเจริญ" อธิบดีกรมทางหลวง ยอมรับว่า ปัญหาใหญ่ที่ทำให้งานก่อสร้างทางของกรมล่าช้า คือ เรื่องการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพราะเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ แต่ที่ผ่านมามีการขยายเวลาให้ผู้รับเหมาจนกว่าจะสร้างเสร็จ
"เป็นเพราะกรมมีงบประมาณสำหรับการเวนคืนที่ดินในแต่ละปีน้อยมาก อย่างปีนี้ทั่วประเทศรัฐบาลให้งบประมาณมา 1,400 กว่าล้านบาท ขณะที่สายทางที่รอการเวนคืนมีมากและจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่านั้น ทั้งปีกรมจะต้องได้รับการจัดสรรงบประมาณสำหรับการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินอย่างน้อย 4,000 กว่าล้านบาท ถึงจะเพียงพอ" นายทรงศักดิ์กล่าว และว่า
วิธีการแก้ไข กรมจะของบประมาณกลางปีนี้จากรัฐบาลส่วนหนึ่งเพิ่มเติม ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท เพื่อมาจัดกรรมสิทธิ์ โดยจะเลือกสายที่เป็นอุปสรรคกับการก่อสร้างก่อนจริงๆ เพื่อให้ปัญหาคลี่คลายไป ส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร มี 3 สาย คือ สายสุขาภิบาล 1-วงแหวนรอบนอก สายรัชดาภิเษก-รามอินทรา และสะพานข้ามแยกบางคูวัด
"เพราะการเวนคืนพื้นที่กรุงเทพฯจะมีปัญหามากและยากที่สุด ผมจึงอยากต้องการแก้ปัญหาตรงนี้ก่อน ส่วนต่างจังหวัดไม่ค่อยจะมีปัญหามาก"
นายทรงศักดิ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ถนนทั้ง 3 สายนี้ ผู้รับเหมาก่อสร้างล่าช้ามานานแล้ว จากเดิมจะใช้เวลาก่อสร้างแค่ 1 ปี แต่จนถึงปัจจุบันงานก่อสร้างยังไม่เสร็จ กรมได้ขยายสัญญาก่อสร้างมาหลายครั้งแล้วด้วย
"ต้องเร่งก่อสร้าง เพราะเป็นเส้นทางที่แก้ไขปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ ในพื้นที่โซนตะวันออกและตะวันตก กรมจะต้องเร่งการเวนคืนให้เสร็จก่อน โดยเฉพาะช่วงที่กีดขวางการก่อสร้าง"
อธิบดีกรมทางหลวงยังบอกอีกว่า การที่กรมทางหลวงต้องใช้งบประมาณสำหรับการจัดกรรมสิทธิ์ในแต่ละปีสูงหลาย 1,000 ล้านบาท เนื่องจากต้องชดเชยให้กับสิ่งปลูกสร้าง ค่าที่ดิน และค่าพืชพล ซึ่งทั้งต่างจังหวัดและกรุงเทพฯจะไม่เท่ากัน พื้นที่กรุงเทพฯจะมีราคาสูงกว่า
"ปีไหนที่ได้งบประมาณน้อย ที่ผ่านมา กรมจะเวนคืนสายที่เร่งด่วนและมีความสำคัญไปก่อน ส่วนสายอื่นๆ ที่เหลือ ต้องรองบประมาณของปีต่อไป หรือไม่ก็โยก งบประมาณจากโครงการอื่นๆ ที่ยังไม่เร่งรีบมาเวนคืนไปพลางๆ ก่อน"
นี่เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนจะหาทางออกอย่างไรให้เป็นการแก้ปัญหาอย่างถาวร คงต้องมีหลายฝ่ายเข้ามาช่วยแก้ไข เพื่อให้ปัญหาได้รับการเยียวยาและเป็นมาตรฐานต่อไป ไม่ให้ซ้ำซากเหมือนที่ผ่านมา
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 01-03-2550
|
|
|
|
|
