|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| 1.4 แสนบาท คอนโดฯหน้าหาดราคาเท่า CBD |
|
การขยายตัวอย่างรวดเร็วในทุกๆ ด้านของเมืองท่องเที่ยว "พัทยา" ในขณะนี้ทำให้พัทยามีการอัตราเติบโตเป็นรองเพียงแค่กรุงเทพ มหานครและปริมณฑลเท่านั้น โดยในช่วงที่ผ่านมามีเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาล ไหลบ่าเข้ามาลงทุนในพื้นที่นี้อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันก็มีบริษัทพัฒนาที่ดินเมือง กรุงจำนวนไม่น้อยที่เข้าไป "ปักธง" พัฒนาโครงการอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะบริเวณ ริมหาดต่างๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ อาทิ บริษัท โอเชี่ยน พร็อพ เพอร์ตี้ จำกัด, บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ฮอร์สชู พอยท์ จำกัด, บริษัท แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ไม่เว้น แม้แต่อสังหาฯ ค่าย เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี ในนามบริษัท ที.ซี.ซี แคปปิตอลแลนด์ จำกัด เป็นต้น
รวมทั้งโฮมโปรของ "อนันต์ อัศวโภคิน" บิ๊กบอส ค่ายแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ยอมรับศักยภาพในพื้นที่นี้ว่าการเติบโตสูงลิ่ว ยอดขายวัสดุก่อสร้างแทบทุกตัวทุบสถิติเป็นว่าเล่น ไม่แพ้สาขาโฮมโปรหัวหิน
ตลาดหลักๆ ในพื้นที่เมืองพัทยา อาจแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มลูกค้าชาวไทย และกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง ทำเลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้คือบริเวณหาดจอมเทียน ถือเป็นทำเลที่ขยับขยายมาเป็นลำดับหลังจากพื้นที่ "หน้าหาด" หรือ beachfront อื่นๆ มีการพัฒนาจนเต็มพื้นที่แล้ว
โปรดักต์ไฮไลต์ตลาดที่อยู่อาศัยพัทยาที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุดต้องยกให้โครงการคอนโดมิเนียม แตกต่างจากหัวเมืองเศรษฐกิจต่างพื้นที่ที่พบว่า สินค้าประเภท "บ้านเดี่ยว" จะขยายตัวมากกว่า
"ไนเจิล. เจ. คอร์นิก" กรรมการอำนวยการ บริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทอสังหาฯ เมืองกรุงที่หันมาเน้นการลงทุนที่พัทยา ให้ความเห็นว่า เหตุผลที่บริษัทตัดสินใจมาพัฒนาโครงการที่นี่เพราะเล็งเห็นถึงขีดสามารถที่มีมากกว่าพื้นที่อื่นในภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยบวกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ทำเลตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก อีกทั้งเป็นตลาดมีดีมานด์ครบทั้งในรูปแบบการเช่าและซื้อขาด
"คอนโดมิเนียมถือเป็นอสังหาฯ ที่ได้รับความนิยมจากตลาดมากที่สุด โดยในปี 2549 มีจำนวนคอนโดฯ ที่ขายในหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ สูงมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท พัทยาครองส่วนแบ่งสูงถึง 49%"
สำหรับราคาเฉลี่ยคอนโดฯ ที่ขายในปี 2549 จะอยู่ที่ประมาณ 91,000 บาทต่อตารางเมตร หรือประมาณ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางเมตร และราคาขายดังกล่าวจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าคอนโดฯ ระดับหรู จะมีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 9 หมื่นถึง 1.4 แสนบาท
ข้อสังเกตคือ ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้สินค้าขาดตลาดไประยะหนึ่งในช่วงระหว่างปี 2546-2547 แต่ในปัจจุบันมีการผลิตสินค้าออกมาเพียงพอกับความต้องการของตลาดแล้ว
"ไนเจล" บอกว่า กว่า 82% ของการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ เมืองพัทยาในปัจจุบันเป็นของนักลงทุนชาวไทย รองลงมาเป็นอังกฤษ สหรัฐ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ฮ่องกง สวีเดน เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และรัสเซีย
สำหรับตลาดให้เช่านั้นถือว่า เป็นตลาดที่มีแนวโน้มที่สดใสเช่น กัน สังเกตได้จากโครงการนอร์ทพอยท์ มูลค่าโครงการ 4.5 พันล้านบาท และโครงการนอร์ทชอร์ ซึ่งให้ผลตอบประมาณ 8.5-10% กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นของ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและเกาหลี อัตราค่าเช่าจะใกล้เคียงกับ กรุงเทพฯ เฉลี่ย 650 บาทต่อตารางเมตร
สำหรับโครงการนอร์ทพอยต์ North Point เป็นเจ้าของสถิติ แพงที่สุดในพัทยา ราคาขาย 140,000 บาทต่อตารางเมตร เท่ากันกับคอนโดฯ ย่านซีบีดีกลางกรุงเทพมหานคร
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 15-02-2550
|
|
|
|
|
