Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"ฌ็องเซลิเซ่-คอนโดการเคหะฯ" สะท้อนปัญหามนุษย์คอนโดฯยุคใหม่ |
|
วิเคราะห์พิเศษ
ความขัดแย้งระหว่างลูกบ้านกับเจ้าของโครงการแม้เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง แต่หลายๆ กรณีนอกจากจะเป็นอุทาหรณ์ให้ทั้งลูกบ้านและเจ้าของโครงการแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลายๆ ฝ่ายได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ มีเหตุการณไล่เลี่ยกับการร้องเรียนของผู้อยู่อาศัยในโครงการติวานนท์ ฌ็องเซลิเซ่ ย่านปากเกร็ด ที่ระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการบริหารงานของนิติบุคคลอาคารชุด "ประชาชาติธุรกิจ" ก็ได้รับร้องเรียนจากลูกบ้าน โครงการบ้านประชานิเวศน์ 1 ของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ถึงความไม่ชอบมาพากลกรณี กคช.ว่าจ้างบริษัทเอกชนมาบริหารที่จอดรถ สระว่ายน้ำ ฯลฯ ในโครงการ
ทั้ง 2 กรณีแม้ประเด็นในการร้องเรียนจะแตกต่างกัน แต่ที่เห็นได้ชัดเจนคือต้นตอของปัญหาเกิดจากเกิดกรณีพิพาทหรือเห็นไม่ตรงกันระหว่างลูกบ้านกับเจ้าของโครงการ ซึ่งก่อนหน้านี้พยายามเจรจากันแล้วหลายครั้ง แต่ยังหาข้อยุติร่วมกันไม่ได้ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในอาคารชุดหลายสิบโครงการที่ถึงขณะนี้ยังคาราคาซังอยู่ จนทำให้กรมที่ดินต้องยกร่างแก้ไข พ.ร.บ.อาคารชุด เพื่อให้ความคุ้มครองผู้ซื้อมากขึ้น ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในส่วนของลูกบ้าน โครงการติวานนท์ ฌ็อง เซลิเซ่ ถือเป็นการร้องเรียนรอบที่ 2 หลังจากบางส่วนรวมตัวกันยื่นหนังสือเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นตัวกลางในการแก้ไขปัญหา 4-5 ข้อ แต่เรื่องกลับเงียบหาย ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐอย่างจริงจัง ขณะเดียวกันการเจรจากับผู้บริหารนิติบุคคลอาคารชุดรวมทั้งกับบริษัท แปซิฟิก กรุ๊ป พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เจ้าของโครงการก็ล้มเหลว แถมล่าสุด ตัวแทนลูกบ้านบางรายถูกตัดสิทธิไม่ยอมให้ใช้น้ำประปา ทำให้ต้องเคลื่อนไหวร้องเรียนอีกครั้งหนึ่ง
พร้อมกับยื่นข้อเรียกร้องให้โครงการแก้ไขปัญหาดังต่อไปนี้ 1.ปัญหาเรื่องถนนในโครงการเป็นที่ดินส่วนบุคคล และเจ้าของโครงการจดภาระจำยอมให้ลูกบ้านผ่านเข้าออก มีการจัดกิจกรรมใช้เครื่องขยายเสียงรบกวน เช่น ที่ผ่านมาจัดเป็นลานเบียร์ กิจกรรมแอโรบิก เป็นต้น นอกจากนี้ที่ดินยังไม่มีทางเข้าออกที่แท้จริง เนื่องจากทางเข้าออกปัจจุบันเส้นทางหนึ่งเป็นที่ดินส่วนบุคคล อีกเส้นทางเป็นที่ดินเช่าหากหมดอายุสัญญาเช่าก็จะไม่สามารถใช้เป็นทางเข้าออกได้
2.การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลขั้นพื้นฐาน เช่น ห้ามตัวแทนลูกค้าแจกเอกสาร ใช้วิธีขัดขวางโดยแจ้งความหมิ่นประมาท ตัดน้ำประปา ฯลฯ 3.มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์บางรายการไม่เป็นจริง เช่น พนักงานขายบางรายแจ้งลูกค้าว่าสามารถใช้สระว่ายน้ำในโครงการได้ฟรี มีที่จอดรถเพียงพอ เป็นต้น 4.ความไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด เช่น ไม่เคยจัดประชุมเจ้าของร่วม ไม่มีกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด เก็บค่าปรับในอัตราที่สูงเกินไป ไม่สามารถชี้แจงการบริหารการเงินนิติบุคคลฯได้ชัดเจน เป็นต้น
ขณะที่ บริษัทแปซิฟิก กรุ๊ป โดยนายธนพัฒน์ สมบัติไพรวัน ผู้จัดการฝ่ายนิติกรรมปฏิเสธข้อกล่าวหาของลูกค้า พร้อมกับระบุว่า ปัญหาเกิดจากลูกบ้านบางรายไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของนิติบุคคลอาคารชุด เช่น นำรถยนต์ที่ไม่มีบัตรอนุญาตเข้ามาจอดในโครงการ โดยนิติบุคคลอาคารชุดได้ให้บัตรอนุญาตจอดรถยนต์แก่ลูกบ้าน 1 ห้อง/1 คัน แต่ลูกบ้านบางรายที่มีรถยนต์มากกว่า 1 คันนำรถมาจอดโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทบสิทธิลูกบ้านรายอื่น
กรณีมีการตัดน้ำประปาลูกบ้านบางราย สาเหตุมาจากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของนิติบุคคลอาคารชุด เช่น ละเมิดสิทธิบุคคลใดๆ ทำให้ทรัพย์สินส่วนรวมเสียหายหรือเสื่อมค่า สำหรับปัญหาเรื่องการจัดเก็บค่าใช้จ่าย เช่น ค่าจอดรถปีละ 500 บาท 3 ปีแรก ก็เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคส่วนกลางสำหรับจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ค่าไฟฟ้าบริเวณอาคาร ถนน ค่ารดน้ำต้นไม้ ทำความสะอาดพื้นถนน ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดมีความโปร่งใสและสามารถชี้แจงได้
ด้านลูกบ้าน โครงการบ้านประชานิเวศน์ 1 โครงการคอนโดฯ ของ กคช. ประสบปัญหาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยตัวแทนนิติบุคคลอาคารชุดบ้านประชานิเวศน์ 1,3 ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินการของ กคช.หลายประเด็น โดยเฉพาะการให้เอกชนบริหารเข้าบริหารจัดการสระว่ายน้ำและอาคารจอดรถภายในโครงการ โดยมีการต่ออายุสัญญาให้เช่าบริหารต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปี ในอัตราค่าเช่าค่อนข้างต่ำ และแม้ลูกบ้านได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์ตามคำแนะนำของ กคช. เพื่อขอเช่าสระว่ายน้ำ สโมสร และอาคารที่จอดรถแทนเอกชน โดยพร้อมจะจ่ายอัตราค่าเช่าที่สูงกว่า แต่กลับไม่ได้รับความยินยอมจากผู้บริหาร กคช.
อาทิ 1.ในส่วนของสระว่ายน้ำที่สัญญาเช่าระหว่างผู้เช่า คือ นายชัยรัตน์ ทองเฉลิม กับ กคช. เดือนละ 10,000 บาท จะหมดอายุวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550 ล่าสุด มีแนวโน้มว่า กคช.อาจไม่ยอมให้สหกรณ์ที่ลูกบ้านรวมตัวกันจัดตั้งขึ้นเช่าบริหารแทน เนื่องจากก่อนหน้านี้นาง ทิพยา เศวตกุล หัวหน้าสำนักงานเคหะชุมชน ประชานิเวศน์ ทำหนังสือแจ้งประธานสหกรณ์ชุมชนบ้านประชานิเวศน์ จำกัด ว่าผู้เช่ารายเดิมร้องขอความเห็นใจจาก กคช.ขอต่อสัญญาเช่าอีกครั้ง หรือขอขยายเวลาส่งมอบพื้นที่ อย่างไรก็ตาม สหกรณ์ฯจะเสนอตัวประมูลขอเช่ามาบริหารจัดการเองแน่
2.ปัญหาอาคารจอดรถ 9 ชั้น จอดรถได้ 900 กว่าคัน กคช.ให้เอกชนคือบริษัท พีเอ ลินน์ ฟิลลิปส์ จำกัด (เดิมชื่อบริษัท พีเอ ไวเกอร์ จำกัด) เช่าบริหารตั้งแต่ปี 2545-2548 ค่าเช่าถูกเพียงแค่ 20,000 บาท/เดือน แต่จัดเก็บค่าที่จอดรถจากลูกบ้านในอัตราสูงไม่เป็นธรรม คือ 1 คัน 400 บาท 2 คัน 500 บาท และ 3 คัน 600 บาท โดยบริษัทดังกล่าวได้นำที่จอดรถไปแสวงหาประโยชน์ในเชิงธุรกิจ เช่น ให้พื้นที่ส่วนพลาซ่า ร้านอาหาร สถานบันเทิงเช่าจอดรถบริการลูกค้า ให้บริษัทเอกชนเช่าจอดรถเชฟโรเลตบริเวณชั้น 7-9 ฯลฯ มากกว่าเน้นให้บริการลูกบ้าน
นอกจากนี้ลูกบ้านยังได้รับผลกระทบจากที่บุคคลภายนอกมาใช้ที่จอดรถ เช่น มีการใช้ที่จอดรถเป็นแหล่งมั่วสุม เปิดท้ายรถดื่มสุรา ข่มขู่รังแกลูกบ้าน รถยนต์โดนขูดขีดทำให้เสียหาย ถึงขั้นต้องแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้ง ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวตัวแทนลูกค้าเคยร้องเรียนกับ กคช. ตลอดจนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเช่นเดียวกัน
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 15-02-2550
|
|
|
|
|