Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"ดูไบ"ใจป้ำยกทัพบุกไทยลงทุนอสังหาฯ "เมโทร-ไรมอนแลนด์-ไทปิง"ดึงร่วมทุน |
|
"ทุนดูไบ" บุกหนักธุรกิจอสังหาฯ-วัสดุ สวนกระแสรัฐบาลแก้ไขกฎหมายต่างด้าว ไนท์แฟรงค์ชี้เป็นฐานทุนขนาดใหญ่ระดับโลกและกล้าเสี่ยง เล็งลงทุน "รีสอร์ต-วิลล่า" ในเมืองท่องเที่ยว เตรียมเปิดโครงการจูมีร่าปีหน้า ล่าสุดจับมือพรมไทปิงถือหุ้น 20% กลุ่มเมโทรสตาร์ไล่จีบร่วมทุนโปรเจ็กต์ใหม่แบบครบวงจร
แม้ขณะนี้กลุ่มทุนจากต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เริ่มเกิดความไม่มั่นใจจากการที่รัฐบาลแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ล่าสุดมีกลุ่มทุนจาก "ดูไบ" เมืองท่าในแถบตะวันออกกลางกลับเพิ่ม น้ำหนักเข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาฯและธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเป็นลำดับ
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า นอกจากกลุ่มทุนสิงคโปร์แล้ว นักลงทุนหน้าใหม่ที่น่าจับตามองก็คือกลุ่มทุนจากดูไบที่เริ่มเข้ามาพัฒนาโครงการในเมืองท่องเที่ยวมากขึ้น
เท่าที่ทราบเบื้องต้นมี "ทีจีอาร์ กรุ๊ป" เข้ามาที่ภูเก็ตแล้ว และได้พัฒนาโครงการ Barama Bay วิลล่าหรู ขายในระดับราคา 40-60 ล้านบาทต่อยูนิต และโครงการรีสอร์ต "Jumeirah Phuket Private Island Resort" ซึ่งเตรียมเปิดตัวในปี 2551
อีกรายคือกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ตในเครือ "IFA" ที่จับมือกับกลุ่ม "Istithmar" ที่ทำธุรกิจโรงแรมได้เข้ามาถือหุ้น 25% ในบริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ที่พัทยาและภูเก็ต
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมีโอกาสเป็นไปได้ว่า ช่วง 1-2 ปีนับจากนี้ กลุ่มทุนดูไบจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาฯอย่างต่อเนื่อง ทั้งประเภทวิลล่าและโรงแรม เนื่องจากนักลงทุนกลุ่มนี้พร้อมทั้งเรื่องเงินทุนและทำธุรกิจแบบกล้าเสี่ยง ต่างจากสิงคโปร์หรือฮ่องกงที่เน้นเรื่องผลกำไรทันที
นายณัฐพล ทีปสุวรรณ กรรมการและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขาย บริษัท อุตสาหกรรมพรมไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตพรม "ไทปิง" เปิดเผยว่า เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขยายตลาดต่างประเทศบริษัทจำเป็นต้องเปิดรับพันธมิตรต่างชาติ ล่าสุดได้ร่วมทุนกับ "เดป้ายูไนเต็ด กรุ๊ป" ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากดูไบที่เข้ามาถือหุ้น 20% ในพรม ไทปิงหรือคิดเป็นประมาณ 100 ล้านบาท
กลุ่มทุนเดป้าฯจากดูไบทำธุรกิจรับออกแบบตกแต่งภายในรายใหญ่ที่สุดในแถบตะวัน ออกกลางและใหญ่ติดอันดับที่ 5 ของโลก มีผลงานเป็นที่รู้จัก อาทิ โรงแรมระดับ 6 ดาว "Burj AI Arab" ในเมืองดูไบ ที่จำลองมาจากรูปทรงเรือใบ ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 125 ล้านดอลลาร์
"ดีลเกิดขึ้นจากที่เราและเดป้าฯได้ลูกค้าโครงการรายเดียวกันมา 2-3 โปรเจ็กต์ จากนั้นก็ติดต่อและเห็นลู่ทางจากธุรกิจร่วมทุน โดยไทปิงมีโอกาสขยายตลาดในต่างประเทศ ส่วนผู้ถือหุ้นใหม่ก็ได้เราเป็นฐานการผลิตสินค้า"
หลังจากมีผู้ถือหุ้นใหม่บริษัทได้เตรียมขยายการลงทุนเพิ่มกำลังผลิตพรมแอกซ์มินเตอร์ (พรมทอเครื่อง) จากปัจจุบัน 240,000 ตารางเมตร เป็น 420,000 ตารางเมตรต่อปี หรือเพิ่มอีก 40%
เป้าหมายคือเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก 55% เป็น 65% ของรายได้รวม โดยเน้นขายตรงและกำลังศึกษาเพื่อเข้าไปลงทุนจัดตั้งสำนักงานในออสเตรเลีย จากปัจจุบันมีสำนักงานในต่างประ เทศรวม 3 แห่ง ได้แก่อเมริกา อังกฤษ และเมือง ดูไบ ส่วนตลาดในประเทศคงเน้นเจาะตลาดงานโครงการเป็นหลัก
ล่าสุดเพิ่งได้งานโครงการคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ 2 แห่ง รวมกว่า 20,000 ตารางเมตร คิดเป็นมูลค่า 40 ล้านบาท โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2550 ประมาณ 1,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 70%
นายวีระ บูรพชัยศรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังภาครัฐพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว และออกมาตรการปกป้องค่าเงินบาท โดยบังคับกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศต้องกันสำรอง 30% ส่งผลให้การเจรจากับกลุ่มพันธมิตร 3-4 รายหยุดชะงักลง เนื่องจากเกิดความไม่มั่นใจ
และก่อนหน้านี้บริษัทได้เดินทางไปเจรจาหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ที่สิงคโปร์ เพราะกลุ่มทุนดูไบ มีพอร์ตการลงทุนผ่านธนาคารในสิงคโปร์ โดยธนาคารดังกล่าวเป็นสื่อกลางในการหาพันธมิตรในภูมิภาคเอเชีย แต่การเจรจายังอยู่ในขั้นเริ่มต้น
"ทุนดูไบกลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มจูมีร่า เจ้าของโครงการเดอะปาล์ม โดยกลุ่มทุนที่บริษัทเข้าไปเจรจาด้วยสนใจธุรกิจอสังหาฯในเมืองไทยมาก โดยเฉพาะในทำเลศักยภาพ เช่น สาทร แกรนด์ เทอเรส"
"ผมว่าสถานภาพการแข่งขันของไทยยังมีอยู่ แต่จะทำอย่างไรให้ความเชื่อมั่นกลับมาเหมือนเดิม เพราะมีกลุ่มทุนต่างชาติสนใจจะเข้ามาลงทุนอีกมาก"
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 29-01-2550
|
|
|
|
|