| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 92 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 25-01-2550    อ่าน 11758
 พาณีพรรณ ทิสาพงศ์ มือการตลาด "เพอร์เฟค" "เราเน้นทีมเวิร์กกับคุณค่าของแบรนด์"

ต้องยอมรับว่า หนึ่งในท็อปไฟฟ์วงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย ชื่อของ "พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" ได้ถูกจัดชั้นเทียบเท่ากับบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหลายค่าย ทั้งมูลค่าลงทุน จำนวนโครงการ แบรนด์องค์กร และสินค้าที่ผู้บริโภคเริ่มจดจำ

แต่เบื้องหลังความสำเร็จซึ่งถือเป็น "จุดแข็ง" ขององค์กรแห่งนี้คือ แหล่งรวม "มืออาชีพ" เฉพาะด้านและไม่ค่อยเน้นเปิดตัวเท่าใดนัก

เช่น ผู้หญิงเก่งคนนี้ "พาณีพรรณ ทิสาพงศ์" หรือ "พี่แอ๊ด" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF

เธอไม่ได้เก่งอย่างเดียว แต่มีความแกร่งอยู่ด้วย เพราะชอบทำงานมาก และเป็นมือการตลาดที่มีอารมณ์ดีที่สุดอีกคนหนึ่ง

เธอร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับ "ชายนิด โง้วศิริมณี" ซีอีโอของ PF มานานนับสิบๆ ปี เห็นความสำเร็จสูงสุดและเห็นจุดตกต่ำสุดมาแล้วในยุคฟองสบู่แตก เป็นการสั่งสมประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าและเห็นความหลากหลายของผู้คนทุกระดับ

นอกเหนือจากบทบาทหน้าที่ "บรรณาธิการ" นิตยสารดิฉันในอดีต เพราะ "พาณีพรรณ" ชอบอ่านและเขียนหนังสือมากๆ ยิ่งบทสัมภาษณ์เธอยิ่งชอบเป็นพิเศษ

วันนี้ "ประชาชาติธุรกิจ" ถ่ายทอดมุมมองจากงานใหญ่ที่เธอทำอยู่และบอกถึงทิศทางอสังหาฯในยุคผันผวน

- คีย์ซักเซสที่ทำให้เพอร์เฟคโตมาถึงจุดนี้

ประการแรก เพราะเพอร์เฟคเป็นองค์กรที่มีทีมผู้บริหารเป็นคนเก่าคนแก่ อยู่ด้วยกันมานาน ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง อย่างคุณชายนิด (โง้วศิริมณี) คุณธงชัย (คุณากรปรมัตถ์) คุณวิชัย (สิงห์วิชา) พี่อุไรวรรณ (ภัทรกานต์) และคุณวนิดา (ไวยาวัจมัย)

เราทุกคนทำงานเหมือนเพื่อน คุยได้ทุกเรื่อง ทุกคนเลยสนุกกับงานเต็มที่ เฉลี่ยอายุงานก็ถือว่าเยอะกันทุกคน ตัวพี่เองก็ 18 ปีแล้ว เป็นคนเตรียมอยู่เบื้องหลังมากกว่า

เดิมเราทำงานร่วมกันที่สากลเคหะ เป็นบริษัทเงินทุน หลังเกิดปัญหา เพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกันก็เลยชักชวนกันมาทำอสังหาฯ ต้องยอมรับว่าคุณชายนิดมีมุมมองด้านอสังหาฯที่ไกล เขาเก่งในเรื่องทำเล รวมทั้งเป็นคีย์ด้านการเงิน คุณวิชัยเป็นคนที่มีความละเอียด จะมองในเชิงการวางแผนและการพัฒนาสินค้า

ส่วนคุณวนิดา จะถนัดในเรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์ เพราะเรียนจบด้านบัญชีมา ส่วนพี่ถนัดการตลาด รวมทั้งการสื่อสารออกไปภายนอกองค์กรว่าเรามีสินค้าอะไร และตลาดต้องรู้จักตัวสินค้านี้นะ นั่นคือการทำโฆษณา

เมื่อก่อนทีมงานเราไม่เยอะ การดูแลไม่ว่าจะเป็นบ้านตัวอย่างหรืออะไรก็แล้วแต่ พี่จะเป็นคนทำให้ทั้งหมด คือผ่านจากคุณวิชัยมา หลังออกแบบเสร็จก็เป็นหน้าที่ของพี่ แต่พอบริษัทขยายใหญ่โต เราก็เร่งสร้างทีมงานเข้ามาเสริม ก็แข็งแกร่งขื้น ผสมกับคีย์แมนที่มีอยู่

พวกพี่เรียกพี่ชายนิดเป็นแถว 1 ส่วนเราพวกแถว 2 จะเป็นระดับผู้ช่วยกรรมการ ถือเป็นคีย์สำคัญที่จะพัฒนาสินค้าตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ

- ผ่านวิกฤตหนักๆ มากี่รอบ

พี่อยู่มาตั้งแต่ปี 2531 พอปี 2535 ก็เจอเหตุการณ์ รสช.ตรงนี้กระทบอสังหาฯไม่เยอะเท่าสงครามอ่าวเปอร์เซียที่เริ่มส่งผล ไม่ว่าจะเป็นภาวะราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาลง อสังหาฯเป็นอุตสาหกรรมด่านแรกที่ได้รับผลกระทบเร็วสุด เพราะเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูง เกี่ยวข้องกับคนเยอะ ด้านธุรกรรมก็เยอะ ยิ่งสถาบันการเงินจำเป็นมาก รวมถึงผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง ฯลฯ

ทุกอย่างเป็นลูกโซ่หมด เกิดอะไรขึ้น อสังหาฯจะกระทบก่อนใครเพื่อน แล้วลามไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้อง กลับกัน เมื่อธุรกิจนี้กลับมาเศรษฐกิจจะโตสดใสทันที รัฐจึงต้องผลักดันตรงนี้ก่อน แต่ไม่ใช่ผลักดันจนทำให้เกิดฟองสบู่ แต่ควรทำภายใต้กฎกติกาและอยู่บนพื้นฐานความจริง

- ทุกวันนี้มั่นใจมากขึ้น

พี่เชื่อว่าคนที่ผ่านวิกฤตมา 2-3 รอบ ไม่ว่า ภาครัฐ เอกชน หรือทุกๆ คน จะเข้าใจแก่นมากขึ้นและใช้ชีวิตที่ระมัดระวัง ไม่ฟุ้งเฟ้อหรือฉาบฉวย ฉะนั้นที่จะไปเก็งกำไรคงมีบ้าง แต่ไม่เป็นวอลุ่มใหญ่เหมือนเมื่อก่อน

พี่เชื่อในวัฏจักร แต่ไม่เชื่ออะไรที่มันขึ้นแล้วจะไม่ลง อะไรที่วนจากซ้ายแล้วต้องไปขวา ทุกเรื่องมีวงจรของมัน ทั้งเรื่องธรรมชาติ หรือธุรกิจ สมมติว่าเราใช้ชีวิตเปลืองเกินไป เราก็จะได้ฟีดแบ็กกลับมาอีกด้านหนึ่ง พี่เชื่อในเรื่องอย่างนี้ อะไรที่ขึ้นก็ต้องมีลงเป็นธรรมดา อย่าตื่นตกใจแต่ควรระมัดระวัง

โอเค ! ตอนนี้มีปัญหาน้ำมันแพง ดอกเบี้ยขึ้นตลอด ตลาดชะลอ ยอดขายก็ต้องหล่น พอหล่นปุ๊บ เราต้องถามตัวเองเลยว่าจะทำยังไงต่อกับตลาดแบบนี้ เพอร์เฟคก็ต้องปรับขบวนท่าเหมือนกัน ซึ่งมีหลายทาง บางคนเล่นกับราคาลูกเดียว ถ้าในมุมมาร์เก็ตติ้งต้องบอกว่าทะเลแดงมันเดือด (หัวเราะ)

พี่เป็นคนที่คลุกวงในกับการตลาดมานาน ถึงปัจจุบันพี่ก็ยังยึดแนวทางว่า จะทำอะไรก็ได้แต่ไม่ให้ "ตลาดโดยรวมเสีย" ถ้าฉันอยู่ ฉันต้องอยู่ได้ ถ้าไม่สนใจคนอื่น จะไม่ทำ จะทำก็ต่อเมื่อคิดแล้วว่าทั้งอุตสาหกรรมต้องอยู่ได้

ยิ่งรายเล็กพี่ถือว่าต้องให้เขาอยู่ได้ เหมือนคำถามที่ว่า เราทำทาวน์เฮาส์แนวใหม่ราคาล้านต้นๆ (เดอะ วิลล่า) แล้วรายเล็กจะอยู่ได้ไหม พี่ก็ชั่งใจแล้ว โอเครายเล็กทำไม่กี่ยูนิตก็ปิดขายกันไป

แต่มุมผู้บริโภค เราต้องการเสนอเรื่องแวลูอินโนเวชั่น คือเป็นนวัตกรรมการสร้างมูลค่าเพิ่ม นี่คือสิ่งที่เพอร์เฟคกำลังทำ

อย่างบ้านเดี่ยวที่เปิดขาย "เพอร์เฟค" จะเน้นเรื่องความคุ้มค่า จะเห็นว่าตัวโปรดักต์ไม่ใช่เรื่องบ้านอย่างเดียว แต่เป็นความสมบูรณ์แบบในโครงการ เราพยายามดีไซน์หลายๆ สิ่งให้เกิดมูลค่าเพิ่ม

- เพอร์เฟคเริ่มรีแบรนด์จริงๆ ตอนไหน

ปลายปี 2547 เราจ้าง "เอ็นเตอร์ไพรส์ ไอจี" ทำ ตามแนวทางที่เราอยากจะเป็น

แต่เราต้องรู้จักตัวเองก่อนว่า เพอร์เฟคเป็นใคร ยืนอยู่จุดไหน มีจุดแข็งอะไร แล้วเราจะทำตรงนี้ออกมาให้ได้คุณค่าของแบรนด์มั้ย ซึ่งคำตอบตรงนี้มันมาจากการทำรีเสิร์ชมาก่อน เสร็จแล้วมาหาจุดว่าเราพอใจที่จะเป็นว่าอยู่ตรงไหน เพราะแบรนด์ของเพอร์เฟคจริงๆ แล้วไม่ใช่แค่การเปลี่ยนโลโก้

ที่แยกออกมาชัดเจน คือ แบรนด์บางตัวจะเริ่มหายไปและแต่ละโครงการก็จะมีคำว่า "เพอร์เฟค" นำหน้า เช่น แบรนด์แพงสุดก็คือ เพอร์เฟคมาส เตอร์พีซ ราคา 7-8 ล้านอัพ ระดับกลางลงมา 3-6 ล้าน ใช้แบรนด์ "เพอร์เฟคพาร์ค"

- พร้อมรุกตลาดใหม่ด้วย

อย่างพี่ก็มองบลูโอเชี่ยนเหมือนกันนะ และเป็นสิ่งที่เพอร์เฟคเคยทำมาก่อนแล้วด้วย เช่น เมื่อปีที่แล้วเราออกคอนโดฯ เมโทรพาร์ค สาทร เป็นสินค้าที่เราปรับราคาลงมา แต่อย่าไปดูว่าเป็นคอนโดฯเฉยๆ แต่ให้ดูตัวโปรดักต์ว่ามันมี value innovation ที่ซ้อนอยู่เมื่อเทียบกับคนอื่น ผู้บริโภคต้องดูตรงนี้ เพอร์เฟคทำ เดอะ วิลล่า ตัวล่าสุดที่ออกเป็นทาวน์เฮาส์ ที่มี value innovation

นอกจากนี้เรายังคิดในเรื่องของโปรเจ็กต์คอนเซ็ปต์ที่ใส่ value innovation เข้าไปให้ด้วย โดยเราก็ดูกลุ่มทาร์เก็ตเหมือนกันว่าต้องเป็นครอบครัวใหม่ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มที่เพิ่งแต่งงาน

เราก็ดูจากโฟร์ไฟล์ตรงนี้ว่าส่วนกลางที่จะเสิร์ฟต้องออกมาเป็นอย่างไร อีกตัวคือทำอย่างไรให้ลูกค้าสามารถผ่อนได้โดยไม่กระทบ นั่นเป็นเรื่องของการใช้เงิน, value innovation อีกตัวคือ วัสดุที่ใช้พยายามปรับให้เนี้ยบ

- สถานการณ์ตลาดรวมๆ ของบริษัท

ปี"46 ยังไม่ค่อยดีนัก ปี"47-"48 เพอร์เฟคทำอะไรที่ไม่วิ่งมากนัก คือ ปรับตัวเร็ว ใช่ ผลิต สินค้าออกมารองรับให้มีเป้าขาย ...สมมติเราวางเป้าขายไว้ที่ 7, 8 พันล้าน เราปรับตัว เราพยายามหาอะไรที่มาเติม ทำยอดขายให้ได้เป้า หรือใกล้เคียงกับเป้ามากที่สุด เรามาทำที่ตรงนั้นเป็นตัวหลัก ในปีนี้ (2550) สิ่งที่ทำมาจะเริ่มเห็นชัดมากขึ้นแล้ว เพราะเราฝังรากไว้ในหลายๆ ตัว

ทั้งแบบคลาสสิก แบบโมเดิร์นคลาสสิก อย่าง เดอะ วิลล่า ทาวน์เฮาส์รุ่นใหม่ที่ออกแบบผสมระหว่างโมเดิร์นกับคลาสสิก

เพราะพี่เชื่อว่าแบบนี้จะอยู่ได้นานและเป็น ข้อมูลท็อปฮิตของทีมงานที่ออกไปเซอร์เวย์จากสนามจริงๆ

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-01-2550 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.