|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| ปิ้งไอเดีย"บ้านแลกบ้าน"แก้มลพิษเสียง ค่ายจัดสรร"สุวรรณภูมิ"เฮลั่นเข้าล็อก |
|
ค่าชดเชยเสียงสุวรรณภูมิยังไม่ลงตัว ทอท. ดอดคุยชาวบ้าน ผุดไอเดียใหม่ โครงการบ้านแลกบ้าน และที่ดินแลกที่ดิน ใช้วิธีให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเลือกบ้านในโครงการจัดสรรแทนบ้านเดิม ส่วนที่ดินก็ให้เลือกซื้อในทำเลใกล้เคียงกัน พร้อมงัดมาตรการเสริมล่อใจ เสนอรัฐควักกระเป๋าจ่ายค่าธรรมเนียมการโอนให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ เผยปรับหลักเกณฑ์การประเมินราคาใหม่ ทั้งสิ่งปลูกสร้างและที่ดินเปล่าให้เกิดความโปร่งใส ถูกต้อง และเป็นธรรม ดึงตัวแทนจากจุฬาฯมาช่วยตรวจสอบ พร้อมจ้างบริษัทเอกชนประเมิน ชี้จ่ายค่าเวนคืนลอตแรกยังสรุปตัวเลขไม่ได้ เหตุชาวบ้านเปลี่ยนใจ ต้องการให้รัฐซื้อเพิ่ม
นายแคล้ว ทองสม ผู้อำนวยการสำนักประเมินราคาทรัพย์สิน (ปท.) กรมธนารักษ์ ในฐานะที่ปรึกษาการพิจารณาค่าชดเชยผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงจากสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในการพิจารณาประเมินค่าชดเชยเพื่อซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งปรับ ปรุงบ้านเพื่อลดผลกระทบด้านเสียง แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ ล่าสุดได้ให้ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเข้าร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้เชิญตัวแทนจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาพิจารณาเงื่อนไขหลักเกณฑ์ต่างๆ ว่าสมเหตุสมผลและชาวบ้านน่าจะยอมรับได้หรือไม่ เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่าราคาที่คณะทำงานเสนอยังน้อยเกินไปนั้น
ขณะนี้ได้มีการเสนอแนวคิดใหม่ เพราะมองว่าน่าจะช่วยให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยโดยเร็วได้ โดยที่ประชุมมีการเสนอให้จัดทำโครงการบ้านแลกบ้าน ด้วยการให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบรวมตัวกัน จากนั้นให้ไปดูโครงการบ้านจัดสรรที่มีลักษณะใกล้เคียงกับบ้านที่อยู่อาศัยเดิม และยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน โดยที่ระดับราคาขายอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือเท่ากับราคาที่จะได้รับค่าชดเชย หากชาวบ้านพอใจก็อาจจะให้นำบ้านเก่ามาแลกกับบ้านใหม่ในโครงการจัดสรรที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งจะเป็นโครงการจัดสรรในละแวกใกล้เคียงกับโครงการเดิม และไม่อยู่ในร่องเสียง อาจจะเป็นโครงการจัดสรรใหม่ที่ปัจจุบันยังขายไม่หมด
"วิธีนี้นอกจากจะช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนแล้ว ยังช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ยังมีบ้านเหลือขายด้วย แต่ถ้าหากราคาขายบ้านใหม่ยังแพงกว่าวงเงินที่ชาวบ้านจะได้รับ ภาครัฐก็จะเข้าไปประ สานเจรจาขอปรับลดราคาซื้อ ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เข้าไปสำรวจ ว่าจะมีโครงการบ้านจัดสรรรายไหนบ้างที่จะเข้าร่วมโครงการนี้"
นายแคล้วกล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีโครงการแลกที่ดินกับที่ดิน โดยให้ชาวบ้านที่ต้องการชดเชยด้วยวิธีนี้ไปดูที่ดินในพื้นที่ใกล้เคียง ว่ามีบริเวณใดบ้างที่มีที่ดินเปล่าแบ่งขาย เงื่อนไขคือต้องเลือกแปลงที่ดินที่มีลักษณะใกล้เคียงกับที่ดินเดิม และระดับราคาซื้อขายก็อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน เช่น อยู่ในซอยลึกเข้าไป 10 เมตร แปลงใหม่ที่จะซื้อก็ต้องอยู่ในซอยลึกประมาณ 10 เมตรเช่นเดียวกัน เป็นต้น
"ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดี เพราะชาวบ้านเป็นผู้เสนอมาเอง แต่ขึ้นอยู่กับความพอใจว่าจะมีใครบ้างที่จะรับค่าชดเชยแบบวิธีการนี้ เราไม่ได้บังคับ เป็นความสมัครใจ และวิธีนี้ก็ถือว่าไม่ผิดหลักการ เพราะถือเป็นการชดเชยในอีกรูปแบบหนึ่ง"
นายแคล้วกล่าวว่า เพื่อให้เป็นการจูงใจขายบ้านมากขึ้น จะเสนอมาตรการเพิ่มเติม โดยให้ภาครัฐเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมการโอนที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง 20% ให้ โดยคิดรวมกับราคาบ้านและที่ดิน จากเดิมปกติผู้ซื้อบ้านและที่ดินจะต้องรับภาระเสียค่าธรรมเนียมในการโอนเอง ซึ่งเรื่องนี้จะเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ในการประเมินราคาทรัพย์สิน สิ่งปลูกสร้าง และที่ดิน ได้มีการปรับหลักเกณฑ์เงื่อนไขใหม่ เพื่อให้มีความโปร่งใส ดูง่าย และถูกต้องเป็นธรรมมากขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาในรายละเอียด เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจะจัดจ้างให้บริษัทเอกชนเข้าประเมิน โดยบริษัทที่รับว่าจ้างจะต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนและดำเนินธุรกิจประเมินราคาทรัพย์สิน ซึ่งอาจต้องใช้บริษัทเอกชนหลายราย เนื่องจากมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากนับ 10,000 หลังคาเรือน
"ในการจ้างบริษัทประเมินมาประเมินราคา ทอท.จะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ คิดเป็นค่าใช้จ่ายในการประเมินหลังละ 5,000 บาท"
นายแคล้วกล่าวว่า สำหรับหลักเกณฑ์การประเมินราคาสิ่งปลูกสร้างจะใช้วิธีการคิดแบบแยกทีละส่วน เช่น ฐานราก โครงสร้าง การตกแต่งพื้น ผนัง ฝ้า เพดาน หลังคา เป็นต้น และในแต่ละรายการจะมีการคิดราคาเป็นต่อตารางเมตร โดยจะอิงกับราคาของกระทรวงพาณิชย์ มีค่าแรง ค่าวัสดุ ค่าดำเนินการ กำไร ภาษี ค่าการตลาด เพราะโครงการหมู่บ้านจัดสรรจะมีการบวกค่าการตลาดเข้าไปเป็นต้นทุนด้วย เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดทำโบรชัวร์รูปแบบบ้าน ประมาณ 10-50% เป็นต้น จากนั้นจะให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบอีกทอดหนึ่งว่าถูกต้องหรือไม่
ส่วนที่ดินเปล่าจะมีการเปรียบเทียบกับราคาซื้อขายจริงในตลาด แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกร่องเสียงหรือนอกแนวการบิน โดยใช้วิธีการให้คะแนนถ่วงน้ำหนัก เพื่อเป็นการปรับ 2 สิ่งที่แตกต่างกันให้สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ โดยพิสูจน์ว่าราคาจริงๆ ที่ซื้อขายกันน่าจะอยู่ในระดับเท่าใด โดยในส่วนนี้ทางชาวบ้านจะช่วยดำเนินการ จากนั้นทางหน่วยงานจะเป็นผู้ตรวจสอบให้
นายแคล้วกล่าวต่อว่า สำหรับการชดเชยให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบในลอตแรก 71 หลังคาเรือน ที่ดิน 48 แปลงนั้น ขณะนี้ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากมีชาวบ้านบางส่วนที่ครั้งแรกไม่ยอมรับค่าชดเชย เปลี่ยนใจให้การยอมรับข้อเสนอ โดยให้คณะทำงานเข้าไปประเมินราคาทรัพย์สินแล้ว และล่าสุด ทอท.ก็ได้เข้าไปประเมินราคาแล้ว ทำให้ ทอท.ต้องสำรวจข้อมูลเพิ่มเติม หากเสร็จเรียบร้อยก็จะเรียกมาทำสัญญาซื้อขายได้
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ปัจจุบันทำเลสุวรรณภูมิมีโครงการบ้านจัดสรรทั้งเก่าและใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ดังนั้น หากภาครัฐมีนโยบายแก้ไขปัญหาผลกระทบมลภาวะด้านเสียงจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยรับซื้อคืนบ้านและทดแทนบ้านหลังใหม่ผู้ได้รับผลกระทบน่าจะส่งผลดีต่อโครงการที่จัดสรร ที่ปัจจุบันมีทั้งของผู้ประกอบการรายเล็กในพื้นที่ รวมทั้งรายกลางและรายใหญ่ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลัก ทรัพย์ฯ อาทิ บริษัท สุวรรณภูมิ เพลสฯ, สีลม สตรีท พร็อพเพอร์ตี้ฯ, ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ฯ, พีชแอนด์ลิฟวิ่ง, เคเค แอสเสทฯ, มั่นคงเคหะการ, พีคทาวน์เวอร์, รสิกา พร็อพเพอร์ตี้ฯ
บริษัทอีสท์ แบงคอค แอสเซ็ทส์ฯ, นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ฯ, แมรี่แลนด์ฯ, กฤษดามหานคร, เปรมสิตา, พฤกษา เรียลเอสเตท, เจริญมารีน, แพทโก้ แลนด์, วันดาราพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, แลนด์แอนด์เฮ้าส์, ศุภาลัย, นัมเบอร์วันฯ, อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ เป็นต้น
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-01-2550
|
|
|
|
|
