|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| บ่นอุบรื้อพ.ร.บ.ต่างด้าวงานนี้เผาจริง ลูกค้าต่างชาติหยุดซื้อบ้าน-คอนโดฯ |
|
ดีเวลลอปเปอร์บ่นอุบ รื้อ พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ทำลายมู้ดซื้อบ้านในเมืองท่องเที่ยว "วสัน อุบลชาติ" เอ็มดี อุบลชาติ กรุ๊ป โอดลูกค้าต่างชาติหายวับ 30% ต้องปรับแผนเขย่าสัดส่วนใหม่ เพิ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้นเป็น 40% จากเดิมตั้งไว้แค่ 10% ด้าน "เหมราชพัฒนาที่ดิน" ประเมินตลาดคอนโดไฮเอนด์ ปี"50 เสี่ยงสูง กำลังซื้อชะลอ เบรกผุดโครงการใหม่ หันรุกที่อยู่อาศัยในนิคมอุตฯ แทน ด้านศุภาลัยยอมรับไม่ชัวร์เลื่อนเปิดตัว 3 โปรเจ็กต์
ผลพวงการจากการผลักดันแก้ไข พ.ร.บ.ประ กอบธุรกิจคนต่างด้าวของภาครัฐ นอกจากจะกระ ทบการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ของนักลง ทุนต่างชาติโครงการใหม่ๆ แล้ว ยังกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภครายย่อยด้วย สังเกตได้จากยอดขายโครงการจัดสรรและคอนโดฯที่เจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเป็นหลักกำลังซื้อเริ่มชะลอตัวลง หลายโครงการต้องปรับแผนเพิ่มขายลูกค้าคนไทยมากขึ้น
นายวสันต์ อุบลชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุบลชาติ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ผลพวงจากสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา และล่าสุดคือการยกร่างแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าวส่งผลกระทบต่อยอดขายบ้านในโครงการคีรีนครา หัวหิน โครงการบ้านพักตากอากาศ ที่ปัจจุบันบริษัทกำลังพัฒนา เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชาวต่างชาติที่ปกติเคยแวะเยี่ยมชมโครงการหายไปกว่า 50% จากช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งหลายๆ โครง การที่เจาะตลาดชาวต่างชาติก็มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน
โครงการนี้เดิมตั้งเป้าสัดส่วนลูกค้าต่างชาติไว้ที่ 90% อีก 10% เป็นลูกค้าคนไทย เมื่อลูกค้าต่างชาติแวะเยี่ยมชมโครงการน้อยลงทำให้ยอดขายหายไปกว่า 30% จึงต้องปรับแผนใหม่ โดยปรับลดสัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติเหลือเพียง 60% ส่วนลูกค้าคนไทยปรับเพิ่มสัดส่วนจากเดิมที่ 10% เป็น 40% พร้อมกับลดขนาดบ้านบางส่วนให้เล็กลง เพื่อรอง รับความต้องการลูกค้าคนไทยมากขึ้น โดยเพิ่มแบบบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 90-100 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นที่ 2- 2.2 ล้านบาท จากปัจจุบันมีแบบบ้าน 3 แบบ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 128-200 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 3-8 ล้านบาท
"โครงการนี้เราพัฒนาบนเนื้อที่ 40 ไร่ มีบ้านทั้งหมด 103 ยูนิต มูลค่าโครงการ 465 ล้านบาท ตามแผนเร็วๆ นี้จะนำโครงการไปโรดโชว์ที่ฮ่องกง สิงคโปร์ เนื่องจากตั้งเป้าหมายปิดการขายให้ได้ภายในปีนี้"
นายวสันต์กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนพัฒนาโครงการในปี 2550 มีแผนพัฒนาโรงแรมระดับ 3-4 ดาว ขนาด 65 ห้องพัก บนพื้นที่ 5 ไร่ ในบริเวณเดียวกับคีรีนครา หัวหิน มูลค่า 300 ล้านบาท ขณะนี้มีกลุ่มทุนที่จดทะเบียนในฮ่องกอง แต่มีเครือข่ายธุรกิจในยุโรปสนใจเข้าร่วมทุน ส่วนที่ดินเปล่าในมืออีก 2 แปลง ขนาด 2 ไร่ และ 6 ไร่ ใกล้ เดอะ ฟิฟท์ คอนโดฯ ทำเลแนวรถไฟฟ้าสายบางซื่อ-บางใหญ่ จะพัฒนาเป็นคอนโดฯและทาวน์เฮาส์
"เหมราช" ปรับแผนลงทุนคอนโดฯไฮเอนด์
นอกจากลูกค้ารายย่อยชาวต่างชาติเริ่มไม่ มั่นใจแล้ว ผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการเจาะตลาดระดับบน โดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างชาติก็เริ่มไม่มั่นใจมากขึ้น โดยนายเดวิด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการคอนโดฯ "เดอะพาร์ค" เปิดเผยว่า ประเมินแนวโน้มธุรกิจอสังหาฯ อย่างตลาดคอนโดฯระดับไฮเอนด์แล้ว ในขณะนี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูงและกำลังซื้อชะลอตัวลง จากหลายปัจจัยทั้งการคุมเข้มการลงทุนของต่างชาติ สถาน การณ์ทางการเมือง บริษัทจึงตัดสินใจชะลอลงทุนโครงการใหม่จากเดิมวางแผนขึ้นคอนโดฯ แห่งใหม่ในทำเลใจกลางเมืองต่อจาก "เดอะพาร์ค ชิดลม" โดยจะรอจนกว่าสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้กลุ่มธุรกิจพัฒนาโครง การที่อยู่อาศัยมีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีสัดส่วน 18% ของรายได้รวมของเหมราช ปีนี้บริษัทเตรียมที่ดิน 50-100 ไร่ ในนิคมอุตสาห กรรมพัฒนาที่อยู่อาศัยจับกลุ่มลูกค้าพนักงานที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตฯ ระดับราคาเฉลี่ย 500,000-2,000,000 บาท/ยูนิต
โดยปี 2550 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม 5,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2549 เล็กน้อย ส่วน ปี 2549 เฉพาะธุรกิจนิคมอุตฯ ขายที่ดินได้ 52 สัญญา รวม 725 ไร่ หรือ 2,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2548 แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปี 1,000 ไร่ เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว
"ศุภาลัย" เลื่อนผุด 3 โปรเจ็กต์
ขณะที่นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทตัดสินใจเลื่อนเปิดขายโครงการใหม่ 2 แห่ง คือ โครงการศุภาลัยพาร์ค วิลล์ เป็น ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น จำนวน 600-800 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท อีกโครงการในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง 200-300 ยูนิต มูลค่า 1,000 ล้านบาท และคอนโดฯ อีก 1,000 ยูนิต มูลค่า 3,000 ล้านบาท ที่เดิมจะเปิดตัวภายในเดือนมกราคม โดยจะเลื่อนเปิดตัวออกไป 1-2 เดือน เพื่อรอดูสถานการณ์อีกครั้ง
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 18-01-2550
|
|
|
|
|
