|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "รถไฟฟ้า 5 สาย" พายเรือในอ่าง คนกรุงทำใจ...ตอกเสาเข็มไม่ทันปี"50 |
|
นึกว่าจะไปได้สวยและรวดเร็วเหมือนติดจรวด แต่เอาเข้าจริงๆ โครงการรถไฟฟ้า 5 สาย ระยะทาง 118 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 1.65 แสนล้านบาท ของรัฐบาลชุด "สุรยุทธ์ จุลานนท์" กลับย่ำอยู่กับที่ วนเวียนอยู่กับปัญหา และวิธีการเดิมๆ
แม้ว่าที่ผ่านมา จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนไปแล้ว แต่กระบวนการต่างๆ ยัง ไม่เริ่มต้น ช่วงระยะเวลา 1 ปี คงได้เห็นแค่การ เตรียมตัวเปิดประกวดราคา เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามา โครงการทั้งหมดก็คงจะถูกนำกลับมาทบทวนใหม่ ซ้ำรอยเดิมอีก
ทั้งๆ ที่หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ แผนการลงทุนเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ตั้งแท่นจะจ้างที่ปรึกษามาออกแบบรายละเอียดตั้งแต่ไก่โห่ สำหรับสายสีแดง ช่างบางซื่อ-รังสิต สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สำโรง-สมุทรปราการและช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค
โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2550 ไปเรียบร้อยแล้ว วงเงินเกือบ 1,000 ล้านบาท แต่ความคืบหน้ายังไม่มีให้เห็น
ถามไถ่ไปมา ปรากฏว่าอยู่ระหว่างกำหนด ทีโออาร์เพื่อจัดจ้างที่ปรึกษา และรองบประมาณ เพราะกว่าจะเบิกได้ก็เดือนมกราคม 2550 เมื่อได้งบประมาณแล้วกว่าจะจัดจ้างได้และเริ่มออกแบบที่ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือน คงจะใช้เวลาอีกนาน
อย่างไรก็ตาม เส้นทางที่มีความพร้อมสุดๆ อย่างสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ซึ่งไม่ต้องออกแบบรายละเอียด สามารถนำเข้าสู่ขั้นตอนพระราชบัญญัติร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน ปี 2535 ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเช่นเดียวกัน
เนื่องจากต้องรอความชัดเจนจาก ครม.ในช่วงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ก่อน หลังจากทราบผลสำรวจความคิดเห็นเรียบร้อยแล้ว จากนั้นถึงจะเริ่มดำเนินการได้
ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) หน่วยงานที่รับผิดชอบ ตั้งเป้าจะเปิดประกวดราคาเดือนมีนาคม 2550 และก่อสร้างได้เลยกลางปี แต่ไม่รู้ว่า เมื่อถึงเวลาจริงๆ จะเจอโรคเลื่อน อีกหรือเปล่า เพราะเริ่มมีเสียงแว่วๆ มาแล้วว่า การรถไฟฯ จะต้องหาเงินกู้ในประเทศมาก่อสร้างเอง ประมาณ 14,000 ล้านบาท เพราะสายนี้ไม่ได้บรรจุไว้ในแพ็กเกจที่รัฐบาลขอกู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือเจบิก
แต่ที่ไม่ทันตอกเสาเข็มไม่ทันปี 2550 แน่ๆ คือ สายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ และสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
"ดูจากขั้นตอนแผนการดำเนินการแล้ว ปีหน้าคงจะก่อสร้างโครงการไม่ทัน อย่างเร็วสุดน่าจะเป็นกลางปี 2551 เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่แล้ว ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นนโยบายจะเปลี่ยนอีกหรือเปล่า แต่เราพยายามเร่งรัดให้เร็วที่สุดแล้ว ซึ่งได้รวบรัดขั้นตอนมา 30-40% แล้ว" "เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ" ประธานบอร์ด รฟม.ฟันธงหลังจากประชุมบอร์ด รฟม.เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา
ฟังจากน้ำเสียงของ "เกรียงศักดิ์" แล้ว เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า ต่อให้เร่งและรวบรัดขั้นตอนแค่ไหนก็คงดำเนินการได้ไม่ทัน เพราะต้องเดินตามขั้นตอนที่วางไว้ เพื่อเป็นการป้องกันความผิดพลาด
หลังสิ้นเดือนธันวาคมนี้ รฟม.จะเสนอแผนการดำเนินงานโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน ให้ "ธีระ ห้าวเจริญ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณา
ตามขั้นตอนแผนการดำเนินการ หลังจากที่ สนข.จัดรับฟังความเห็นของประชาชนแล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2550 รฟม.จะจ้าง บริษัทที่ปรึกษารายเดิมออกแบบรายะเอียดและปรับปรุงเอกสารประกวดราคา ให้เป็นแบบสากลของสายสีน้ำเงิน วงเงิน 234 ล้านบาท โดยใช้เวลา 5 เดือนครึ่ง (มีนาคม-สิงหาคม 2550 )
ส่วนสายสีม่วงจะให้ที่ปรึกษาปรับปรุงเอกสารประกวดราคาให้เป็นแบบสากล และศึกษาวิเคราะห์โครงการตามพระราชบัญญัติร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2535 เพื่อประเมินผลการลงทุน วงเงิน 54 ล้านบาท ใช้เวลา 4 เดือน (มีนาคม-มิถุนายน 2550) ซึ่งการวิเคราะห์โครงการตามกฎหมายร่วมทุน ได้รวบรัดเวลาเหลือเพียงแค่ 2 เดือนครึ่ง จากเดิมต้องใช้เวลาเป็นปี
ทั้งนี้ การดำเนินการตามกฎหมายร่วมทุนจะให้บริษัทที่ปรึกษาคนกลางเป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อให้ขั้นตอนดำเนินไปโดยถูกต้อง จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
"เกรียงศักดิ์" บอกว่า รฟม.จะเปิดประกวดราคารถไฟฟ้าทั้ง 2 สายได้ ประมาณเดือนตุลาคม 2550 หลังขายแบบในเดือนพฤษภาคม ใช้เวลา 5 เดือนครึ่ง จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนพฤษภาคม 2551 โดยสายสีม่วงใช้เวลาก่อสร้าง 36 เดือน แล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม 2554 ทดลองเดินรถ 6 เดือน เปิดให้บริการเดือนพฤศจิกายน 2554 สายสีน้ำเงินก่อสร้าง 48 เดือน แล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม 2555 ทดสอบระบบรถไฟฟ้า 8 เดือน เปิดให้บริการเดือนมกราคม 2556
"ส่วนการคัดเลือกเอกชนมารับสัมปทานงานระบบรถไฟฟ้า หลังกระบวนการตามกฎหมายร่วมทุนเสร็จ จะเริ่มกระบวนการคัดเลือกเดือนสิงหาคม 2550 ใช้เวลา 12 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนสิงหาคม 2551"
พร้อมกับย้ำว่า ขั้นตอนต่างๆ จะดำเนินการควบคู่ไปกับการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพื่อความรวดเร็ว โดยสายสีม่วงบอร์ดให้ รฟม.เวนคืนที่ดินต่อไปวงเงิน 4,177 ล้านบาท ล่าสุด ซึ่งหลังจาก รฟม.ว่าจ้างที่ปรึกษา ขณะนี้ได้ออกสำรวจพื้นที่เวนคืนเพื่อประเมินราคาที่ดินบริเวณบางใหญ่แล้ว จะเริ่มเวนคืนได้เดือนมกราคม 2550 ถึงเดือนกรกฎาคม 2551 ส่วนสายสีน้ำเงินอยู่ระหว่างออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน จะเริ่มลงพื้นที่ได้ในเดือนมิถุนายน 2550 ถึงเดือนกันยายน 2552
เห็นแบบนี้แล้ว ได้แต่ทำใจ...
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 18-12-2549
|
|
|
|
|
