Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ยุคทองคอนโดฯกลางเมือง "น้ำขึ้นรีบตัก" ระวังฟองสบู่! |
|
ตลาดคอนโดฯระดับราคาล้านต้นๆ จนถึง 2-3 ล้านบาท ที่กำลังบูมสุดๆ ยังมีแนวโน้มสดใส แต่การแห่เข้ามาผุดโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ของผู้ประกอบการมากหน้าหลายตา ทำให้ตลาดนร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนน่าเป็นห่วงว่าหากมีการแข่งลงทุนโดยไม่มีการติดเบรกอาจเกิดปัญหาโอเวอร์ซัพพลายซ้ำรอยได้
การส่งสัญญาณเตือนของ "รศ.มานพ พงศทัต" กูรูในวงการอสังหาริมทรัพย์ ให้ตระหนักถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมกับให้จับตาดูการซื้อขายห้องชุดแบบเก็งกำไรที่เริ่มปรากฏให้เห็น แม้จะยังเร็วเกินไป แต่ไม่ควรมองข้าม เพราะข้อมูลการสำรวจหลายสำนักบ่งชี้ว่าคอนโดฯเกิดใหม่ขยายตัวมากกว่าที่คิด และแต่ละโครงการล้วนหลักร้อยหลักพันยูนิตทั้งสิ้น
ข้อมูลการจดทะเบียนอาคารชุดของกรมที่ดิน ยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงความร้อนแรง เห็นได้จากมีจำนวนห้องชุดจดทะเบียนเพิ่มขึ้นทุกปี โดยป 2544 มียอดจดทะเบียนอาคารชุดใน กทม.และ ปริมณฑล 14 ราย 21 โครงการ 4,561 ยูนิต ปี 2545 มี 24 ราย 33 โครงการ 5,896 ยูนิต ปี 2546 มี 34 ราย 50 โครงการ 7,115 ยูนิต ปี 2547 มี 48 ราย 60 โครงการ 8,057 ยูนิต ปี 2548 มี 60 ราย 81 โครงการ 10,234 ยูนิต และปี 2549 ถึงเดือนตุลาคม จดทะเบียนเพิ่ม 47 ราย 83 โครงการ รวม 11,428 ยูนิต
สอดคล้องกับผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยจดทะเบียนเพิ่มขึ้นของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ล่าสุด ณ เดือนสิงหาคม 2549 ที่ระบุว่ามีคอนโดฯจดทะเบียนเพิ่มจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงปี 2548 ที่ผ่านมา
โดยไตรมาสแรกปี 2548 มีจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 2,528 ยูนิต ไตรมาส 2 จดทะเบียนเพิ่มขึ้น 2,545 ยูนิต ไตรมาสี่ 3 จดเพิ่ม 2,556 ยูนิต และไตรมาส 4 จดเพิ่ม 3,264 ยูนิต แม้ไตรมาสที่ 1 ปี 2549 จะมีการจดทะเบียนเพิ่มน้อยลงเหลือแค่ 748 ยูนิต แต่ไตรมาสที่ 2 ก็มียอดจดทะเบียนพุ่งสูงขึ้นถึง 5,983 ยูนิต
"ประทีป ตั้งมติธรรม" ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า "ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คอนโดฯกลับมาเป็นพระเอกอีกครั้ง เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นช่วง 8 ปีก่อน หรือก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ ที่เป็นพระเอกอยู่พักหนึ่ง แต่หลังวิกฤตเศรษฐกิจราคาที่ดินลดลงบ้านเดี่ยวก็มาแทน เป็นเหมือนวัฏจักร
ในส่วนของบริษัทได้เปิดตัวคอนโดฯโครงการใหม่ในโซนตะวันออก "ศุภาลัย ปาร์ค" ตรงข้ามโรงแรมโนโวเทล-บางนา บนเนื่อที่ 13 ไร่ สูง 22 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ๆละ 700 ยูนิต รวม 1,400 ยูนิต ราคาขายเริ่มที่ 2-6 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 3,040 ล้านบาท โดยพื้นที่ชั้นล่างของคอนโดฯจะพัฒนาในเชิงพาณิชย์รองรับลูกค้าในโครงการ
"ประทีป" ย้ำว่า ศุภาลัยจะเน้นพัฒนาโครงการแนวราบและแนวสูง ในสัดส่วน 50:50 เพื่อให้มีสินค้าครบทุกประเภท ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดฯ บ้านแฝด ธุรกิจโรงแรม แต่จะกระจายทำเล และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาตามสถานการณ์ ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 8,000 ล้านบาท หรือ 3,000 ยูนิต ครึ่งปีแรกทำ ได้แล้วกว่า 4,000 ล้านบาท ทั้งปีน่าจะได้ตามเป้า
"อธิป พีชานนท์" กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย และนายกสมาคมอาคารชุด ให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมาคอนโดฯระดับกลางเติบ โตต่อเนื่อง จนมีมาร์เก็ตแชร์ 22% จากเดิมอยู่ที่ 20% ของตลาดรวม อย่างไรก็ตาม ยังไม่น่าห่วงว่าจะเกิดโอเวอร์ซัพพลาย เพราะผู้ประกอบการต่างระมัดระวัง และคอยติดตามสถานการณ์อยู่แล้ว อย่างศุภาลัยปีหน้าจะเปิดตัวคอนโดฯใหม่อีก 2 โครงการ รวม 1,000 ยูนิต มูลค่า 2,000 ล้านบาท ในทำเลตะวันตกของกรุงเทพฯโครงการหนึ่ง
รายอื่นที่มีแผนเปดตัวคอนโดฯป หนา อาทิ แลนด แอนด เฮาส, เอเชี่ยน พร็อพเพอรตี้, พลัส พร็อพเพอรตี้ พารทเนอร, อารียา พร็อพเพอรตี้, เค.ซี.พร็อพเพอรตี้, เอ็น.ซี.เฮาสซิ่ง, พฤกษา เรียลเอสเตท, กฤษดามหานคร, พร็อพเพอรตี้ เพอรเฟค, ชาญอิสสระ ดีเวลลอปเมนท, ปริญสิริ,ฯลฯ
ขณะที่เจ้าตลาดคอนโดฯอย่าง บมจ.แอล.พี. เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ ยังเดินหน้าเปิดโครงการใหม่แบบไม่ยั้งเช่นเดียวกัน เพราะยังได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ปัจจุบันคายนี้มีคอนโดฯระหว่างการขาย 5 โครงการ 4,697 ยูนิต มีห้องชุดเหลือขาย 1,2485 ยูนิต (26%)
ได้แก่ 1)ลุมพินีเพลส นราธิวาส-เจ้าพระยา 1,306 ยูนิต เหลือขาย 342 ยูนิต 2)ลุมพินีเพลส พหลฯ-สะพานควาย 1,093 ยูนิต เหลือขาย 47 ยูนิต 3)ลุมพินีเพลส รัชดาฯ-ท่าพระ 850 ยูนิต เหลือขาย 538 ยูนิต 4)ลุมพินีวิลล์ รามคำแหง 44 จำนวน 527 ยูนิต เหลือขาย 213 ยูนิต และ 5)ลุมพินีเพลส ปิ่นเกล้า 2 จำนวน 621 ยูนิต เหลือขาย 108 ยูนิต
ล่าสุด แอล.พี.เอ็น.ฯซื้อที่ดิน 2 แปลงรวม เนื้อที่กว่า 32 ไร่ ย่านรามคำแหงซอย 34/1 เพื่อพัฒนาคอนโดฯ 20 อาคาร สูง 5 และ 8 ชั้น รวม 3,500 ยูนิต ราคาขาย 6-6.5 แสนบาท ซึ่งเป็น 1 ในแผนพัฒนาโครงการ ที่มีทั้งหมด 5-6 แห่ง และโปรเจ็กต์ที่เตรียมเปิดตัวในปี 2550
แหล่งข่าวจากสำนักงานนโยบายทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดเผย ว่า ช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการยื่นเสนอรายงานการ วิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)
โครงการคอนโดฯ ให้ สผ.พิจารณาจำนวนมาก เห็นชัดเจนว่าการก่อสร้างอาคารสูงโดยเฉพาะคอนโดฯอยู่ในช่วงบูมสุดขีด สำหรับทำเลที่ตั้งโครงการส่วนใหญ่จะอยู่ย่านใจกลางเมือง หรือบริเวณชุมชน และพื้นที่รอยต่อกับย่านใจกลางเมือง โดยเฉพาะฝั่งธนฯ แถวปิ่นเกล้า ท่าพระ ช่วงหลังๆ บูมมาก
สผ.จึงพยายามกำหนดมาตรการรองรับ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยกำหนดกฎเกณฑ์เงื่อนไขในเรื่องระยะห่างระหว่างอาคาร ระบบป้องกันไฟ การจัดให้มีพื้นที่สีเขียว ฯลฯ เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ เนื่องจากเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัย และป้องกันไม่ให้โครงการแต่ละโครงการซึ่งมีจำนวนยูนิตค่อนข้างมากเกิดความแออัด จนเกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตามมาภายหลัง
ขณะเดียวกันอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย มิฉะนั้นปัญหาอาคารร้างหรือการทิ้งโครงการจะเกิดขึ้นซ้ำรอยช่วงวิกฤตเศรษฐกิจอีกครั้ง
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 14-12-2549
|
|
|
|
|