| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 82 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 14-12-2549    อ่าน 11867
 เปิดผลสำรวจทัศนคติ "บ้านมือสอง" คนซื้อมอง...ยังห่างชั้นบ้านใหม่

พูดถึงสินค้ามือสอง อาจไม่ได้รับความสนใจในกลุ่มผู้บริโภคคนไทยมากเท่าสินค้าใหม่ เหมือนกับบ้านมือสองที่ยัง ไม่เป็นที่นิยมอย่างบางประเทศ เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย หรืออังกฤษ ฯลฯ อาจเป็นเพราะความชอบของคนไทย และที่ดินว่างเปล่าที่ยังมีเหลืออยู่เพียงพอสำหรับสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ได้อีก

อย่างไรก็ตาม เหตุผลจูงใจให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งสนใจซื้อบ้านมือสองที่สำคัญ ได้แก่ ทำเลที่ได้เปรียบ เช่น ทำเลใกล้ใจกลางเมือง หรือย่านธุรกิจการค้า เป็นต้น ราคาที่อาจจะถูกกว่าเมื่อเทียบกับบ้านใหม่ นอกจากนี้รัฐบาลได้มีมาตรการสนับสนุนผู้ซื้อบ้านมือสอง อาทิ ลดค่าธรรมเนียมโอน จาก 2% เหลือ 0.01% ลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% เป็นต้น ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2550

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยทำการสำรวจถึง "ทัศนคติและพฤติกรรมการเลือกซื้อบ้านมือสอง" โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อบ้านมือสองเพื่อการ อยู่อาศัยเองเป็นหลัก ไม่รวมการซื้อบ้านมือสองหรือสินทรัพย์มือสองที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยแบบสอบถามครอบคลุมถึงความต้องการที่อยู่อาศัยจำแนกตามประเภท ฯลฯ โดยสอบถามกลุ่มตัวอย่างรวม 635 ราย ระหว่างวันที่ 10-26 ตุลาคม 2549 ในเขตกรุงเทพมหานคร จากประชากรในวัยทำงาน

ทัศนคติคน กทม.ต่อบ้านมือสอง

เทียบระหว่างบ้านใหม่กับบ้านมือสองพบว่า กลุ่มตัวอย่างเลือกที่จะซื้อบ้านใหม่สูงถึง 61.1% ขณะที่มีผู้ที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพียง 27.8% ส่วนอีก 11.1% ยังไม่ตัดสินใจ

สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ ความสนใจซื้อที่สำรวจครั้งนี้ ยังไม่ใช่การตัดสินใจในขั้นสุดท้าย เมื่อถึงเวลาเลือกหาซื้อสินค้าจริงอาจมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง

สำหรับสาเหตุที่กลุ่มตัวอย่างเลือกที่จะซื้อบ้านใหม่มากกว่าบ้านมือสอง ส่วนใหญ่จะให้น้ำหนัก ไปที่ความไม่แน่ใจในคุณภาพบ้านมือสอง 48.7% ต้นทุนการปรับปรุงค่อนข้างสูง 31.4% ความเชื่อเกี่ยวกับโชคลาง 11.9% และอื่นๆ 8.0% อาทิ ไม่ชอบรูปแบบของที่อยู่อาศัย ชอบที่อยู่อาศัยใหม่มากกว่า ระดับราคาไม่ต่างจากโครงการใหม่

สนใจบ้านมือสองทำเลใจกลางเมือง

จากการสำรวจทำเลที่ตั้งบ้านมือสองที่เป็นที่ ผู้ซื้อสนใจ 30.6% อยู่ในทำเลย่านใจกลางเมือง เนื่องจากใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย และการคมนาคมที่สะดวก แต่ระดับราคายังคงเป็นปัจจัยในการตัดสินใจซื้อ ส่วนหนึ่งนำมาปรับปรุงและกลับไปขายใหม่ กรุงเทพฯ ตะวันออก

เช่น บางนา สุขุมวิท นวมินทร์ และสุวรรณภูมิ เป็นต้น 21.9% กรุงเทพฯ ตอนบน เช่น แจ้งวัฒนะ ติวานนท์ ประชาชื่น รังสิต เป็นต้น 20.4% กรุงเทพฯ ตะวันตก ได้แก่ พระราม 5 วงแหวนตัดใหม่ ตลิ่งชัน ฝั่งนนทบุรี 17.6% และกรุงเทพฯ ตอนใต้ เช่น พระราม 2 เพชรเกษม ประชาอุทิศ 9.5%

ปัจจัยในการเลือกซื้อ

ปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อบ้านมือสองใช้พิจารณา ได้แก่ สภาพของตัวบ้านหรืออาคาร 22.5% เพราะอาจเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง อาทิ ปัญหาด้านโครงสร้างของตัวอาคาร ระบบไฟฟ้า ประปา ทางระบายน้ำ และวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น ถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้คนมีทัศนคติไม่ดีต่อบ้านมือสอง

สำหรับระยะเวลาในการใช้งานมาแล้วของ บ้านมือสองนั้น พบว่าส่วนใหญ่ต้องการซื้อบ้านที่มีอายุการใช้งาน 3-5 ปี 32.5% ไม่เกิน 3 ปี 30.4% ไม่จำกัดระยะเวลา 19.4% และ 6-10 ปี ร้อยละ 17.7%

ส่วนงบประมาณที่ตั้งไว้เพื่อใช้ในการปรับปรุงบ้าน ส่วนใหญ่ของกลุ่มตัวอย่างตั้งงบประมาณ ต่ำกว่า 100,000 บาท 45.8% งบประมาณ 100,001-200,000 บาท 40.6 % งบประมาณ 200,001-300,000 บาท 10.9% และ 300,001-400,000 บาท 2.7% และ 19.8% ของผู้ต้องการซื้อบ้านมือสองมองว่าบ้านมือสองราคาที่ถูกกว่าบ้านสร้างใหม่

สนใจซื้อเพราะทำเลและที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ เส้นทางรถไฟฟ้า หรือใกล้กับสถานที่ทำงาน 17.3% สภาพแวดล้อมของโครงการ 16.8% รูปแบบบ้าน/คอนโดฯ ตรงกับความต้องการ 11.1% ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย 7.2% และมาตรการลดหย่อนภาษีและค่าธรรมเนียมของ ภาครัฐ 5.3%

ดีมานด์บ้านเดี่ยวสูงสุด

จากการสำรวจความต้องการซื้อบ้านมือสอง พบว่าต้องการบ้านเดี่ยวคิด 34.6% รองลงมาคือ ทาวน์เฮาส์ 32.7% คอนโดฯ 15.6% อาจเป็นเพราะตลาดคอนโดฯ สร้างใหม่มีระดับราคาที่ไม่สูงมากนัก ราคาเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาทขึ้นไป อีกทั้งทำเลที่ตั้งของโครงการคอนโดฯ ยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง หรือย่านธุรกิจ และตามเส้นทางรถไฟฟ้า สำหรับอาคารพาณิชย์ และบ้านแฝดมีความต้องการ 11.2% และ 5.9% ตามลำดับ

บ้านมือสองไม่เกิน 2 ล้านเวิร์ก

ระดับราคาบ้านมือสองที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด คือ ราคาสูงกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท 39.5% รองลงมา คือราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท 35.5% ขณะที่ความต้องการบ้านราคา 2-3 ล้านบาท 14.1% ราคา 3-4 ล้านบาท มีสัดส่วนร้อยละ 8.3 และบ้านราคาสูงกว่า 4 ล้านบาท 2.6%

สำหรับแหล่งเงินทุนที่จะนำซื้อบ้าน ส่วนใหญ่มาจากเงินออมของตัวเองส่วนหนึ่ง และขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินอีกส่วนหนึ่ง คิดเป็น 85.3% ของผู้ที่คิดจะซื้อหาที่อยู่อาศัย

บูมบ้านมือสองยังไม่ถึงฝัน

ที่ผ่านมา สถาบันการเงินต่างๆ โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ ได้นำทรัพย์สินรอการขายประเภทบ้านมือสอง (NPA) ออกมาส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นตลาดมากขึ้น เนื่องจากมองว่า น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ ที่อยู่อาศัยที่ความสามารถในการซื้ออาจไม่สูงพอซื้อที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ เห็นได้จากกระแสการ ตอบรับการจัดมหกรรมขายบ้านมือสองมีมากขึ้น แต่ความต้องการซื้อบ้านมือสองยังได้รับความนิยมไม่มากนัก

สาเหตุมาจากคุณภาพของสินค้ามีศักยภาพทางการตลาดค่อนข้างต่ำ ผู้ขายไม่ต้องการปรับปรุง หรือสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้โครงสร้างของอาคาร ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ทางระบายน้ำ และสภาพภายในตัวอาคาร ไม่ได้มาตรฐาน

ราคาบ้านมือสองสูงเกินไป เพราะผู้ขายต้องการขายในราคาที่ตนเองซื้อมา หรือมากกว่านั้น โดยไม่ยอมปรับลดราคา ทำให้ราคาบ้าน มือสองรวมกับงบประมาณที่ต้องปรับปรุงซ่อมแซมแล้ว อาจไม่ต่างจากราคาบ้านใหม่ พอจะจูงใจ ซื้อได้

โครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ ปัจจุบันมีการแข่งขันในตลาดค่อนข้างรุนแรง มีการทำกิจกรรมการส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ อาทิ ใช้กลยุทธ์ด้านราคา การแข่งขันด้านทำเล การแข่งขันด้านรูปแบบ ตลอดจนกลยุทธ์ส่งเสริมการขายอื่นๆ ที่จูงใจผู้ซื้อ

ชี้เป็นธุรกิจมีอนาคต

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจบ้านมือสองที่ยังคงมีศักยภาพในการแข่งขันกับโครงการที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ เพียงแต่ต้องสร้างทัศนคติและค่านิยม ที่ดีให้ผู้บริโภคให้การยอมรับมากขึ้น หรือทำให้ ผู้ซื้อรู้สึกว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการหาซื้อ ที่อยู่อาศัย

โดยเจ้าของหรือบริษัทนายหน้า ควรตรวจสอบคุณภาพและปรับปรุงให้อยู่ในสภาพที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานบ้านมือสองให้ดึงดูดใจผู้ซื้อมากขึ้น

ขณะที่ภาครัฐก็ต้องให้การสนับสนุน โดยออกมาตรการจูงใจ พร้อมๆ กับพัฒนาระบบข้อมูลบ้านมือสอง เพื่อเชื่อมโยงสินค้ารอขายของสถาบันการเงินบริษัทตัวแทนนายหน้ามารวมไว้ที่จุดเดียว เพื่อความสะดวกและสร้างการรับรู้ต่อสินค้าในตลาดบ้านมือสองในวงกว้างมากขึ้น

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 14-12-2549 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.