| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 90 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 11-12-2549    อ่าน 13025
 จับตา "เอส.บี.-อินเด็กซ์" เปิดเกมแข่งบริการ ชูโปรแกรมออกแบบ 3D ดูดลูกค้า

วงการเฟอร์นิเจอร์อาจกล่าวได้ว่าแบรนด์ "เอส.บี." และ "อินเด็กซ์" ต่างติดลมบนไปแล้ว แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ต่างก็ถมงบฯการตลาดสร้างแบรนด์ไปแล้วไม่ต่ำกว่าค่ายละ 100 ล้านบาท จนกลายเป็นแบรนด์ ชั้นนำตัวเลือกแรกๆ ที่ผู้บริโภคนึกถึง

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสถานการณ์ตลาดเฟอร์นิเจอร์ปีนี้ไม่ได้เติบโตขึ้นมากนัก จึงได้เห็นการแข่งที่มีสีสันมากขึ้น ตั้งแต่การแข่งขันเรื่องไม้ "E1" เฟอร์นิเจอร์เพื่อสุขภาพที่มีสารฟอร์มาดีไฮต์ก่อให้เกิดกลิ่นฉุนในระดับต่ำ ที่ต่างฝ่ายก็เคลมว่าตัวเองเป็นรายแรกที่ทำ

ถัดมา "อินเด็กซ์" ออกมาระเบิดศึกราคา ทุ่มงบฯ 30 ล้านบาท โปรโมตแคมเปญ "JOY PRICE" หั่นราคาเฟอร์นิเจอร์แบรนด์อินเด็กซ์ลงอีก 20% โดยไม่พึ่งโปรโมชั่นอีกต่อไป

ขณะที่ "เอส.บี." แก้เกมด้วยการทุ่มโฆษณาและพัฒนาซอฟต์แวร์ 80 ล้านบาท อัดแคมเปญ "3D Prodesigner" ชูโปรแกรมออกแบบตกแต่งห้องฉับไวภายใน 30 นาที พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คู่ใหม่ "วิลลี่-เยลหลี"

เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้ใครทำ "แต้มต่อ" ทั้งแง่โปรดักต์ดีไซน์และเซอร์วิส

ล่าสุดเกมการแข่งขันดุเดือดมากขึ้น เมื่อ "อินเด็กซ์" โหมโฆษณา โปรโมตโปรแกรมออกแบบตกแต่งห้องในชื่อ "3D ROOMS-to-Show" ด้วยข้อความว่า "เวอร์ชั่นใหม่" ซึ่งดูไม่ต่างจากคอนเซ็ปต์ของ "เอส.บี." แต่ผลตอบรับจะเป็นอย่างไรต้องรอดู

"จริงๆ เราใช้เวลาพัฒนาโปรแกรมออกแบบ 3D เวอร์ชั่นใหม่ให้เป็นภาพเสมือนจริงแบบ สามมิติมาร่วม 1 ปี และเพิ่งเสร็จเปิดตัวตอนนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับว่า เอส.บี.ได้ลอนช์โปรแกรมก่อนหน้าเรา" จรินทร ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ลีฟวิ่งมอลล์ จำกัด บอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ"

เบ็ดเสร็จใช้งบฯลงทุนไป 20 ล้านบาท เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ร่วมกับเจ้าของลิขสิทธิ์โปรแกรมที่เป็นบริษัทต่างชาติ ให้ภาพที่ออกมา ดูสวยงามมากขึ้นจาก 2 มิติ เป็น 3 มิติ และยังสามารถเปลี่ยนสีเฟอร์นิเจอร์ สีห้อง ระดับแสงสว่าง เพื่อให้เห็นภาพห้องที่ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์สำเร็จแบบใกล้เคียงความจริงมากที่สุด

กระบวนการทั้งหมดสามารถประมวลภาพ และคำนวณราคาแล้วเสร็จใน 30 นาที โดยมีมัณฑนากรคอยแนะนำภายใต้เงื่อนไขคือ ลูกค้า จะต้องนำแปลนห้องที่ต้องการตกแต่งติดตัวมาด้วย หรืออธิบายแผนผังและขนาดห้องคร่าวๆ ให้เจ้าหน้าที่ฟัง

ใกล้เคียงกับความสามารถของโปรแกรม 3D Prodesigner ที่ เอส.บี.เฟอร์นิเจอร์มีอยู่ แต่จุดที่แตกต่างกันคือ เอส.บี.สามารถเลือก เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นแบรนด์ในเครือ อาทิ Concept Cucine เข้ามาใช้กับโปรแกรมนี้ได้ด้วย ขณะที่ อินเด็กซ์อยู่ระหว่างการเพิ่มเติมข้อมูลสินค้า แบรนด์ "วินเนอร์-เทรนด์ดีไซน์-ลอจิก้า" ลงในซอฟต์แวร์

ผู้บริหารอินเด็กซ์ยอมรับว่า แม้การใช้โปรแกรมออกแบบจะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ปัจจุบันอัตราการใช้ยังไม่มากเพียง 10% ของลูกค้าที่วอล์กอิน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ซื้อบ้านใหม่และกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน หรือกำลังคิดจะตกแต่งห้องใหม่ คาดหวังว่าหลังโหมการเปิดตัวแล้ว ตัวเลขการขายน่าจะดีขึ้น

โดยวางแผนขยายบริการในเฟสสองอีก 5-10 ล้านบาท เพื่อติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์และค่าไลเซนส์ระบบภายใน "อินเด็กซ์เฟอร์นิเจอร์ เซ็น เตอร์" ที่เป็นโชว์รูมตามห้างสรรพสินค้าอีก 11 สาขา จากปัจจุบันให้บริการเฉพาะอินเด็กซ์ลีฟวิ่ง มอลล์ และกำลังพัฒนาโปรแกรมให้ฉายภาพแบบแอนิเมชั่น (ภาพเคลื่อนไหว) จะเสร็จใน 5-6 เดือน

ส่วนสะใภ้มือโปร "ธัญญรักข์ ชวาลดิฐ" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส.บี.อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด ระบุชัดเจนว่า หลังเปิดตัวโปรแกรมออกแบบใหม่มาแล้วพักใหญ่ บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายลูกค้าแต่ละรายได้ถึง 30%

ด้วยเหตุผลว่า ลูกค้าสามารถมองเห็น "ภาพ" ในห้องใหม่ที่ตกแต่งเสร็จแล้วล่วงหน้า ทำให้ลูกค้ากล้าที่จะตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์มากขึ้นและเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องกลัวว่าซื้อไปแล้วจะเข้ากับห้องไม่ได้ หรือมีปัญหางบบานปลายตามมา

ซึ่งโปรแกรมออกแบบใหม่ของค่าย เอส.บี.ฯ ได้สะท้อนผ่านหนังโฆษณาที่คู่พระนางในชีวิตจริง "วิลลี่-เยลหลี" แสดงความรู้สึกออกมาเหมือนเป็นลูกค้าครอบครัวจริงๆ และทั้งคู่ก็ได้คอนเซ็ปต์ การตกแต่งบ้านได้ถูกใจ ไม่ต้องทะเลาะหรือ เถียงกันให้เจ็บคอ

โดย เอส.บี.ฯอาศัยช่องว่างประสานใจ ด้วยการใช้จอคอมพิวเตอร์มาออกแบบและตัดสินใจแทนการเลือกสรรเฟอร์นิเจอร์ของผู้บริโภค เรียกว่าลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนจนพอใจก่อนจะตัดสินใจซื้อในขั้นสุดท้าย

แต่กว่าจะถึงวันนี้ เอส.บี.ใช้เวลาร่วม 3 ปี พัฒนาโปรแกรมนี้ให้ทำงานรวดเร็วมากขึ้นและครอบคลุมสินค้าทุกแบรนด์ นับจากวันแรกที่เริ่มใช้โปรแกรมนี้กับกลุ่มเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน

ชี้ชัดว่าแม้บริการออกแบบจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า วันนี้วงการเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้แข่งขันที่ "สินค้า" เพียงอย่างเดียว แต่กำลังแข่งกันด้วย "เซอร์วิส" หรือบริการนั่นเอง

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 11-12-2549 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.