|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| คัมแบ็กแบ่งเค้กคอนโดฯกลางเมือง เปิดแผน"ธนายง"ทะลวงตลาดอสังหาฯ |
|
เปิดแผนบูมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครั้งใหญ่ของ "คีรี กาญจนพาสน์" ชูธงฟื้นแบรนด์ "ธนายง" พร้อมโลโก้ใหม่ หลังพ้นแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา วางกรอบใช้หนี้ 3.4 หมื่นล้านแก่เจ้าหนี้ตามแผน ดึงพันธมิตรต่างชาติกลุ่มดูไบ-นิวเวิรลด์ ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ เข้าร่วมทุนลุยโปรเจ็กต์ยักษ์ 2 ปีรวด มูลค่าหมื่นกว่าล้าน
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนายง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัทเรียบร้อยแล้วเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทได้ปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูรวมทั้งชำระหนี้กว่า 3.4 หมื่นล้านบาทให้กับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ตามแผน เนื่องจากได้บริษัทซึ่งเป็นผู้บริหารแผนได้หากลุ่มพันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมทุนได้สำเร็จ ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สะสมที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระประมาณ 1,000 ล้านบาท มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.3 เท่า
เพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทมีความคล่องตัว บริษัทจึงได้ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ประ กอบด้วย K2J Holding Co.,Ltd ถือหุ้น 37.5% ซึ่งถือในนามครอบครัว, Dubai Investment Group ถือหุ้น 16.5%, Dr.Cheng Yu Tung ประธานกลุ่มบริษัทนิวเวิรลด์ (NW) รายใหญ่ที่ทำธุรกิจอสังหาฯในฮ่องกงถือหุ้น 7.5%, UOB Asia ถือหุ้น 10% ที่เหลือ 8.5% ถือหุ้นโดยสถาบันการเงินและอื่นๆ โดยพันธมิตรใหม่เป็นกลุ่มทุนที่มีพอร์ตการลงทุนในธุรกิจหลากหลายด้านในทั่วโลก โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและขาย
"ผมดีใจมากที่สามารถนำบริษัทที่สร้างมากับมือกลับคืนมาได้สำเร็จ และอยากจะบอกว่าวันนี้เรา (ธนายง) กลับคืนมาแล้ว และเป็นการกลับมาอย่างแข็งแกร่งมากด้วย ไม่ได้มาผงาด แต่ทำเพื่อผู้ถือหุ้นให้บริษัทมีมูลค่าขึ้น ไม่ได้จะแข่งขันกับใคร เรามีทางเดินของเรา"
สำหรับการบริหารงานของบริษัทจะแยกกันชัดเจนกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือบีทีเอส โดยบริษัทธนายงจะลงทุนใน โครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก และเน้นความหลากหลายและขยายไปสู่การพัฒนาโปรดักต์ ใหม่ๆ ตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปแบบไม่จำกัด โดยจะแยกสัดส่วนการสร้างรายได้เป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้นจะพิจารณาว่าโครงการใดน่าลงทุนและจะเข้าไปร่วมทุนกับพันธมิตร กลุ่มใดบ้าง โดยจะพิจารณาจากผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 17% และระยะยาวจะนำทรัพย์สินที่มีอยู่มาพัฒนาต่อยอดธุรกิจ
โดยภายในระยะ 2 ปีบริษัทมีแผนที่จะนำที่ดินและโครงการที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จแล้วจำนวนหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ทันที ประกอบด้วย ที่ดินเปล่าในโครงการธนาซิตี้-บางนา แบ่งแปลงแล้ว 210 ไร่, ที่ดินยังไม่แบ่งแปลง 20,000 ตารางวา, คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ 300 ยูนิต คิดเป็นพื้นที่ขาย 27,000 ตารางเมตร มูลค่า 500-600 ล้านบาท, โครงการเดอะรีเจ้นท์-ราชดำริ เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ 82 หน่วย พื้นที่ขาย 6,000 ตารางเมตร มูลค่า 300 ล้านบาท และงานก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทรให้กับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จำนวน 20,000 หน่วย ซึ่งมีมูลค่างาน 8,400 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีที่ดินเปล่าในมืออีกหลายแปลงกระจายอยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งยังไม่มีแผนที่จะเข้าไปพัฒนาในเร็วๆ นี้
"ที่คิดไว้ตอนนี้มี 2 แบบ คือ ตัดขายไปบางส่วน และเก็บไว้พัฒนาต่อ แต่จะเป็นอะไรบ้างยังบอกไม่ได้ ส่วนคาดการณ์รายได้รวมทั้งปี 800 ล้านบาทเป็นตัวเลขที่น่าพอใจมาก และคาดว่าในปี 2550-2551 เราจะมีรายได้ 7,333 ล้านบาท กำไร 901 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนครั้งใหม่นี้เราจะพึ่งพาเงินกู้จากสถาบันการเงินให้น้อยที่สุด เพราะเรามีบทเรียนจากอดีตมาแล้วทำให้การกู้เงินต้องเป็นแบบระมัดระวัง"
การลงทุนในโครงการใหม่ นายคีรีกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นไปบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างน้อย 3 โครงการ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงแรมโลว์ไรส์ ถนนสาทร บนเนื้อที่ 17 ไร่ พัฒนาเป็นบูติครีสอร์ต มูลค่า 1,300 ล้านบาท คาดให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) 19.1% คืนทุนใน 7 ปี
โครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์สูง 2-3 ชั้นใกล้กับสปอร์ตคลับในโครงการธนาซิตี้ นอกจากนี้มีบ้านเดี่ยวขนาด 80 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 7 ล้านบาท จะมีการใส่วัสดุอุปกรณ์ป้องกันเสียงจากเครื่องบินไว้ด้วย โครงการซิลเวอร์ เลจ ไร่องุ่น 1,400 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านพักตากอากาศ ประกอบด้วย โรงแรม โรงบ่มไวน์ มูลค่าลงทุน 8,591 ล้านบาท คาดว่าจะให้ผลตอบแทน 17.3% และจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 8 ปี
"การกลับมาของธนายงครั้งนี้เรามีโปรดักต์ที่หลากหลายมาก ครอบคลุมทั้งหมดทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ที่ดิน โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ต เมนต์ ซึ่งเมื่อเทียบกับดีเวลอปเปอร์ในตลาดขณะนี้ถือว่ามีกำไรต่อหุ้น 0.17 เทียบกับกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มูลค่าตลาดรวม 67,942 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.17 กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ตลาดรวม 52,074 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.41 กลุ่มแสนสิริ มูลค่าตลาด 6,042 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.16"
ในขณะที่ "กาญจนพาสน์" ผู้น้องประกาศเดินหน้าลุยตลาดอสังหาฯแบบเต็มสูบ ผู้พี่อย่าง "อนันต์ กาญจนพาสน์" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการเมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ ซึ่งยังมีที่ดินในโครงการ รวมทั้งที่ดินย่านสุขสวัสดิ์ ศรีนรินทร์ในมืออีกหลายแปลง กลับตัดสินใจชะลอลงทุนพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดฯแบบไม่มีกำหนด โดยให้เหตุผลว่าต้องการรอภาวะตลาดที่ชัดเจน และหันไปทุ่มเทให้กับการลงทุนในธุรกิจบริการแบบครบวงจร ทั้งศูนย์แสดงสินค้าและศูนย์ประชุม โรงแรม ฯลฯ เป็นหลัก หลังศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานีแจ้งเกิดสำเร็จ
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 27-11-2549
|
|
|
|
|
