|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| กทพ.ดึงรัฐ-เอกชนลงทุนที่จอดรถใต้ทางด่วน |
|
กทพ.งัดพื้นที่ใต้ทางด่วน 8 แห่ง ระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 ย่านอนุสาวรีย์ชัย งามวงศ์วาน สุขุมวิท สามเสน ด่านอาจณรงค์ พระโขนง เป็นทำเลทองแห่งใหม่ ล่อใจภาครัฐและเอกชน ลงทุนพัฒนาทำที่จอดรถ สวนหย่อม ส่วนบริการลูกค้า รับคนใช้บริการระบบขนส่งมวลชนและพื้นที่ใกล้เคียง กำหนดระยะเช่า 5 ปี เปิดทางบีอีซีแอลคู่สัญญาร่วมแจมด้วย เตรียมเปิดประมูลกุมภาพันธ์ปี"50
แหล่งข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ ว่า กทพ.ได้ประกาศเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล อาทิ กทม. เทศบาลเมืองนนทบุรี ฯลฯ ให้เข้ายื่นซองประกวดราคาเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณใต้ทางด่วน ของระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 จำนวน 8 แห่ง โดยมีกำหนดรับซองจากผู้สนใจที่ต้องการพัฒนาที่ดินบริเวณใต้ทางด่วน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2549 เป็นต้นไป จากนั้นจะเสนอขออนุมัติดำเนินการจากคณะกรรมการ กทพ. (บอร์ด) และคาดว่าจะเปิดให้ยื่นซองราคาได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2550
สำหรับพื้นที่ใต้ทางด่วนที่จะเปิดให้เข้าใช้ประโยชน์ ประกอบด้วยที่ดินใต้ทางด่วนบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ซอยบุญช่วย เนื้อที่ 8,223 ตร.ว. บริเวณซอยดวงมณี-ถนนงามวงศ์วาน เนื้อที่ 7,428 ตร.ว.
บริเวณหลังด่านสุขุมวิท เนื้อที่ 5,600 ตร.ว. บริเวณฝั่งตรงข้ามด่านสุขุมวิท เนื้อที่ 1,478 ตร.ว. บริเวณคลองสามเสน-โรงพยาบาลพระมงกุฎ เนื้อที่ 6,212 ตร.ว. บริเวณด่านอาจณรงค์-
คลองคาง เนื้อที่ 9,125 ตร.ว. บริเวณคลองคาง-คลองพระโขนง เนื้อที่ 6,261 ตร.ว. และบริเวณคลองพระโขนง-คลองศาลาลอย เนื้อที่ 5,917 ตร.ว.
"เบื้องต้นจะเชิญให้ผู้สนใจแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะก่อน 4 แห่ง คือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ซอยบุญช่วย ซอยดวงมณี-ถนนงามวงศ์วาน หลังด่านสุขุมวิท และตรงข้ามด่านสุขุมวิท เพื่อใช้เป็นตัวอย่างในการพัฒนา และจะนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงทีโออาร์ ประกวดราคา"
แหล่งข่าวกล่าวว่า กทพ.จัดทำโครงการนี้ขึ้นเนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ในเขตทางหลายแห่งมีศักยภาพเพียงพอที่จะนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในลักษณะที่เหมาะสมกับสภาพที่ดินได้ โดยจะไม่นำพื้นที่ดังกล่าวไปใช้ในเชิงพาณิชย์ แต่จะให้พัฒนาเป็นที่จอดรถยนต์แบบปาร์กแอนด์ไรด์ ที่จอดรถยนต์เพื่อประสานประโยชน์กับระบบจราจรและขนส่งมวลชน ที่จอดรถยนต์เพื่อแก้ปัญหาจราจร และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ไม่มีที่จอดรถยนต์ ส่วนบริการลูกค้าและสุขา สวนหย่อม หรือสวนสาธารณะ ตลอดจนลานกีฬาอเนกประสงค์
"วิธีการเราจะจัดประกวดราคา โดยให้ยื่นซองด้านเทคนิคและราคา และจะพิจารณาซองเทคนิคก่อน หากผ่านจึงจะพิจารณาซองราคา โดยผู้เช่ารายเดียวสามารถยื่นซองได้ทั้ง 8 แห่ง โดยจะให้ระยะเวลาเช่า 5 ปี หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาต่อสัญญาให้อีก 5 ปี ขึ้นอยู่กับผลงาน"
สำหรับข้อเสนอด้านเทคนิคกำหนดให้มีรายละเอียดของแบบแปลน รูปแบบการปรับปรุงพื้นที่ แบบร่างทางสถาปัตยกรรม ลักษณะของการใช้สอยพื้นที่ ฯลฯ โดยจะต้องออกแบบให้มีความผสมผสานกลมกลืนกัน และต้องมีความสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของ กทพ.เสียหาย
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในส่วนของ กทพ.จะได้รับผลตอบแทนในรูปค่าใช้พื้นที่ โดยคำนวณจากสัดส่วนจำนวนเนื้อที่ที่จะจัดทำเป็นที่จอดรถยนต์ ส่วนบริการลูกค้าและสุขา เช่น ถ้าสัดส่วนของที่จอดรถยนต์มาก ก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ กทพ.มาก แต่ถ้าสัดส่วนน้อยก็จ่ายให้น้อย เพราะถือว่าผู้ชนะการประกวดราคาจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสิ่งก่อสร้างด้วย อย่างไรก็ตาม ในการคิดอัตราค่าเช่าที่ดิน จะมีการจัดเก็บตามราคาประเมินที่ดินที่กรมธนารักษ์ประเมินไว้ ซึ่งแต่ละแห่งจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับราคาที่ดินเป็นหลัก ปัจจุบันยังไม่ได้สรุปว่าอัตราคาเช่าอยู่ในระดับเท่าใด ส่วนผู้เช่าจะมีรายได้จากค่าจอดรถ ซึ่ง กทพ.จะไม่ให้เก็บแพงเกินไป
ในการพิจารณาผลตอบแทน กทพ.ได้จะพิจารณาผลตอบแทนรวมที่ผู้ยื่นประกวดราคาเสนอให้ ในรูปของค่าใช้พื้นที่จอดรถยนต์ และผลประโยชน์อื่นๆ คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน และใช้อัตราส่วนลด 8% เป็นเกณฑ์ โดยผู้ที่ให้ผลตอบแทนรวมสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประกวดราคา และเพื่อไม่ให้ผู้เช่ารับภาระมากเกินไป จะมีระยะปลอดค่าใช้พื้นที่ 90 วัน
กรณีเป็นพื้นที่ในโครงการทางด่วนขั้นที่ 2 และมีผู้ยื่นประกวดราคาได้คะแนนเท่ากันหลายราย คือ ระหว่างหน่วยงานของรัฐ เอกชน
และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีซีแอล กทพ.จะสงวนสิทธิ์ให้บีอีซีแอลเป็นผู้มีสิทธิ์ก่อน ตามสัญญาร่วมทุน แต่ถ้าเป็นเอกชนรายอื่นไม่ใช่บีอีซีแอล จะให้ยื่นเสนอราคาแข่งขันกันใหม่
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 27-11-2549
|
|
|
|
|
