Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
จ่ายไม่อั้นลอตแรก71หลังคาเรือน รัฐตื่นล้อมคอกปัญหาเสียง"สุวรรณภูมิ" |
|
ล้อมคอกปัญหาเสียง "สุวรรณภูมิ" ใกล้ยุติ รัฐยอมจ่ายเงินซื้อคืนบ้านในโซนที่ได้รับผลกระทบถึงขั้นอันตรายลอตแรก 71 หลังคาเรือน กรมธนารักษ์ที่ปรึกษาคิดค่าชดเชยแจง ประเมินค่าชดเชยความเสียหายใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชูหลักการ "ใหม่ทดแทนของเก่า" เสนอจ่ายแบบไม่อั้นตามราคาตลาด ทั้งบ้าน-ที่ดิน แถมไม่คิดค่าเสื่อม ชี้วงเงินที่เตรียมไว้ 391 ล้านไม่พอ
นายแคล้ว ทองสม ผู้อำนวยการสำนักงานประเมินราคาทรัพย์สิน (ปท.) กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากที่สำนักงานประเมินราคาฯ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการคิดค่าชดเชยให้กับบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินเอกชน ที่ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ว่าจ้างให้ประเมินราคาทรัพย์สินประเภทที่อยู่อาศัย ตลอดจนอาคารและสิ่งก่อสร้างของชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ
ในเบื้องต้นเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ทอท.จะต้องซื้อที่อยู่อาศัยคืนจากชาวบ้านจำนวน 71 ราย เนื่อง จากอยู่ในพื้นที่ NEF ซึ่งมีระดับเสียงดังเกิน 40 เดซิเบล ส่วนค่าชดเชยคงจะไม่ใช่วงเงิน 391 ล้านบาทตามที่เคยประมาณการไว้ก่อนหน้านั้น เพราะดูแล้ววงเงินน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนหลังคาเรือนที่จะต้องจ่ายเงินชดเชยในการซื้อคืนทั้งหมด 71 หลัง
นายแคล้วกล่าวว่า ในการประเมินค่าชดเชยนั้นจะใช้หลักการที่ว่า "ใหม่ทดแทนของเก่า" โดยราคาที่จ่ายใหม่จะต้องเป็นราคาที่ชาวบ้านสามารถนำไปซื้อหรือสร้างบ้านหลังใหม่ได้ โดยในการประเมินราคาทรัพย์สินในส่วนของอาคารบ้านเรือนทั้ง 71 หลัง จะไม่มีการหักค่าเสื่อม ซึ่งจากการนำข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมของบริษัทประเมินมาพิจารณาดูแล้ว ราคาใหม่จะสูงกว่าราคาเก่าหรือราคาบ้านเดิมมากพอสมควร
"สาเหตุที่ราคาประเมินในการซื้อคืนค่อนข้างสูง เป็นเพราะในการประเมินราคาบ้านจะมีให้ผู้รับเหมามาถอดแบบ และคำนวณราคาก่อสร้าง ตามราคาวัสดุก่อสร้างในปัจจุบัน รวมทั้งราคาที่ดิน ก็จะใช้ราคาที่ซื้อขายในตลาดเป็นหลัก"
นายแคล้วกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเจรจากับเจ้าของอาคารบ้านเรือนทั้ง 71 หลัง ซึ่งเป็นผู้ได้รับความเสียหายว่าจะขายคืนให้กับ ทอท.หรือไม่ จึงต้องสรุปยอดตัวเลขค่าชดเชยหลังเจรจากับเจ้าของบ้านแล้ว นอกจากนี้หลักเกณฑ์ในการเจรจาซื้อคืนก็จะดำเนินการแบบชั้นเดียวให้เสร็จเรียบร้อย และสามารถยอมรับได้ทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะพยายามไม่ให้ชาวบ้านต้องยื่นอุทธรณ์ เพราะไม่พอใจราคาชดเชยที่รัฐจ่ายให้
ด้านความเคลื่อนไหวของ ทอท.ในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการจ่ายเงินชดเชยให้กับชาวบ้านนั้น เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ได้ลงสำรวจพื้นที่และพบปะกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเสียงเครื่องบินที่ขึ้นลงในสนามบินสุวรรณภูมิ ในการนี้นายโชติศักดิ์ได้รับปากจะหาทางแก้ไขปัญหา พร้อมกับเร่งรัดการจ่ายเงินชดเชยให้กับชาวบ้านโดยเร็วที่สุด
ขณะเดียวกันในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ประชุมได้รับทราบรายงานการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่าก่อนหน้านี้กรมควบคุมมลพิษ และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้ติดตามตรวจสอบสถานการณ์การบินและระดับเสียง 11 จุด ระหว่างวันที่ 4-10 ตุลาคม 2549
มีผลสรุปว่า มีจำนวนเที่ยวบิน 698-769 เที่ยว/วัน การร่อนลงใช้ทางวิ่งทิศเหนือ โดยใช้ทางวิ่งทิศตะวันตกร้อยละ 96.5-99.4 ทางวิ่งตะวันออกร้อยละ 0.6-3.5 ภายหลังเปิดสนามบินระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชั่วโมง บางจุดมีค่าเกินมาตรฐาน 70 เดซิเบลเอ เพิ่มขึ้นจากก่อนการเปิดใช้สนามบิน 3.0-20.0 เดซิเบลเอ โดยระดับเสียงขณะที่เครื่องบินบินผ่านเหนือบ้านที่อยู่ใกล้กับสนามบินมีค่าสูงสุดถึง 99.7 เดซิเบลเอ และระดับการรบกวนทุกจุดมีค่าเกินมาตรฐาน 10 เดซิเบลเอ
จึงได้ร่วมกับ ทอท.ทดสอบมาตรการที่คาดว่าจะช่วยบรรเทาปัญหามลพิษทางเสียง ในระหว่างวันที่ 16-19 ตุลาคม 2549 โดยปรับเปลี่ยนทิศทางการบินไปลงทางทิศเหนือโดยใช้ทางวิ่งทิศตะวันออกมากขึ้น เพื่อบรรเทาปัญหาแก่ชุมชนบริเวณทางวิ่งทิศตะวันตก และใช้ทางวิ่งทิศตะวันออกมากขึ้น และทดสอบวิธีการบินขึ้นแบบไต่ระดับความสูงอย่างรวดเร็ว พบว่าสามารถบรรเทาปัญหาด้านเสียงได้ในระดับหนึ่ง ฯลฯ
นอกจากนี้ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมคณะทำงานพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินการจ่ายค่าจัดซื้อที่ดิน และค่าชดเชยให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านเสียง ซึ่งที่ประชุมมีมติให้นำเรื่องการจ่ายค่าจัดซื้อที่ดินบริเวณแนวเขตเส้น NEF มากกว่า 40 ซึ่งในเบื้องต้นมีสิ่งปลูกสร้างก่อนปี 2544 จำนวน 108 หลัง และสำรวจเสร็จแล้ว 71 หลัง
ขณะเดียวกันในการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จะเสนอให้เพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาอนุญาตจัดสรรและการก่อสร้างคอนโดฯในพื้นที่โซนสุวรรณภูมิ
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 23-11-2549
|
|
|
|
|