Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"ธีระ"ชูธงคมนาคมยุค "โปร่งใส" สั่งบอร์ด"รฟท.-รฟม.-กทพ."เคลียร์ภาพลักษณ์ |
|
จับตามองเป็นอย่างยิ่ง สำหรับภารกิจของคณะกรรมการ (บอร์ด) หน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม หลังมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดรับกับการเมืองที่พลิกโฉมไป ไม่ว่าจะเป็นการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ฯลฯ
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ "พลเรือเอกธีระ ห้าวเจริญ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายให้บอร์ดแต่ละแห่งอย่างเป็นทางการ ได้เน้นไปที่เรื่องของ "คน" เป็นหลัก โดยให้เหตุผลว่า เป็นเพราะมีผลต่อภาพลักษณ์องค์กร
นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ด้วยการให้บอร์ดแต่ละแห่งไปดำเนินการให้มีความโปร่งใสมากขึ้น ส่วนการลงทุนโครงการใหม่ให้บอร์ดแต่ละแห่งไปพิจารณา พรอมกับทบทวนดูว่า โครงการที่อยูในความรับผิดชอบโครงการไหนบ้างที่มีความจำเป็น หรือโครงการไหนไม่จำเป็น เพื่อจะไดดำเนินการใหสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากภาครัฐ
หน่วยงานที่ดูจะเป็นไฮไลต์ คือ การรถไฟฯ ที่หลายเรื่องยังเป็นปัญหาชวนให้ติดตาม
"ศิวะ แสงมณี" ประธานบอร์ดการรถไฟฯ บอกว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายให้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (มักกะสัน-สุวรรณภูมิ) ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างในขณะนี้ โดยให้ตรวจสอบข้อมูลตั้งแต่ต้นจนจบให้ชัดเจน ตั้งแต่เรื่องของการเปิดประมูลที่ให้เอกชนหาแหล่งเงินมาลงทุนก่อน และให้การรถไฟฯชำระคืนภายหลัง ส่วนการก่อสร้างที่ล่าช้าอยู่ให้ไปดูว่าทำอย่างไร และเร่งให้เร็วขึ้นได้หรือเปล่า
นอกจากนี้ให้เร่งดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการไปแล้ว เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2549 ที่ผ่านมา เป้าหมายเพื่อให้ทันตามกำหนดกรอบเวลาที่รัฐบาลกำหนดไว้ โดยเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำอันดับแรก
ส่วนนโยบายเรื่องที่ดินของการรถไฟฯ ให้ไปดูสัญญาที่ยังมีปัญหาอยู่ รวมถึงการต่อสัญญากับผู้เช่ารายเดิม โดยให้ไปพิจารณาให้รอบคอบ เช่น ที่ดินบริเวณพหลโยธิน ที่ทางเซ็นทรัลเช่าอยู่ และกำลังจะหมดอายุในปี 2551 นี้ ไม่ต้องถึงกับเร่งรีบ เพราะจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนปี 2535 ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาและเจรจากับเซ็น ทรัลในเรื่องผลประโยชน์ตอบแทน หากเซ็นทรัลไม่ยอมตามเงื่อนไข ก็จะต้องเปิดประมูลใหม่ แต่เรื่องนี้ต้องสรุปได้ให้ก่อนสัญญาจะสิ้นสุดลง
สำหรับเรื่องการสรรหาผู้ว่าการรถไฟฯ ที่รองผู้ว่าการยุทนา ทัพเจริญ ลูกหม้อการรถไฟฯได้รับเลือกอาจจะต้องดูที่มาที่ไป เพราะมีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการสรรหาไม่ได้เซ็นรับรอง 2 ใน 5 ซึ่งไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่มีนโยบายให้ชี้แจงปมปัญหาโครงการแอร์พอร์ตลิงก์มากกว่า เพราะผู้ที่ได้รับการคัดเลือกมีชื่อเกี่ยวพันกับโครงการดังกล่าวด้วย
ด้าน "ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ" ประธานบอร์ รฟม. กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการก่อน คือ เรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงท่าพระ-บางแค และสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ที่ รฟม.รับผิดชอบ 2 สาย ตามนโยบายของรัฐบาล ในการออกแบบรายละเอียด และเปิดประมูลก่อสร้าง จะให้ทันรัฐบาลชุดนี้ และทำให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด ซึ่งต่อไปในการดำเนินการของ รฟม.จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ ขึ้นมาพิจารณาในแต่ละโครงการ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส
"ส่วนตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม. จะเร่งให้จบ โดยเร็ว เพราะ รฟม.ขาดหัวขบวนมานานแล้ว แต่จะขอดูลำดับการสรรหาที่ผ่านมาว่า มีปัญหาอะไรไหม แต่ยังไงก็ต้องจบ จะรื้อหรือไม่ ผมขอไม่ตอบ ทุกอย่างมีเหตุผล และเป็นไปตามระเบียบ วันที่ 22 พฤศจิกายน ในการประชุมบอร์ดนัดแรก คงจะยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ชัดเจน"
ด้าน กทพ. "ธีระ" ได้มอบนโยบายให้บอร์ด ไปทบทวนโครงการเก่าที่เปิดประมูลแล้วแต่ยังไม่ได้ก่อสร้าง เช่น โครงการทางดวน รามอินทรา-วงหวนรอบนอก ดูเรื่องความโปรง ใสและพิจารณาการลงทุนโครงการใหม่ดูให้รอบคอบ ในเรื่องระบบการบริหารกิจการตอง ให้ดี เนื่องจากปัจจุบัน กทพ.มีภาระหนี้สินระยะยาวก้อนโตถึง 9 หมื่นกว่าล้านบาท ค้างคาอยู่ หาก กทพ. ลงทุนโครงการใหม่ต่อ จะทำให้เกิดภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก
นี่คือหนังตัวอย่างที่ยังไม่จบเรื่อง เหมือนกับภารกิจที่บอร์ดรัฐวิสาหกิจแห่งอื่นๆ ในคมนาคมต้องรับไปปฏิบัติเช่นเดียวกัน ภายใต้หลักการที่ว่าทุกอย่างต้องอยู่บนมาตรฐาน โปร่งใส และตรวจสอบได้ ให้เข้านโยบายหลักของรัฐบาลชุดนี้
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 20-11-2549
|
|
|
|
|