Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
พนักงานรถไฟเคว้งตั้งแต่ยังไม่ตอกเข็ม สตง.แตะเบรกคอนโดบางซื่อหมื่นยูนิต |
|
โครงการคอนโดฯย่านบางซื่อ มูลค่า 6-7 พันล้านของการรถไฟฯส่อเค้าแท้ง หลัง สตง.ทำหนังสือถึง "ธีระ ห้าวเจริญ" ขอให้ทบทวนโครง การใหม่ หวั่นเกิดปัญหาซ้ำรอยแฟลตดินแดง ด้านการรถไฟฯเตรียมทำหนังสือชี้แจง รมว.คมนาคม ขอความชัดเจนจะให้เดินหน้าต่อหรือพับแผน
แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้การรถไฟฯอยู่ระหว่างทำหนังสือชี้แจงพลเรือเอกธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เกี่ยวกับรายละเอียดการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยเป็นห้องชุดอาคารสูง ชุมชนแห่งใหม่ บริเวณสถานีรถไฟบางซื่อ ย่านตึกแดง ริมคลองเปรมประชากร บางซื่อ พื้นที่ 105 ไร่ จำนวน 10,000 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งการรถไฟฯจะร่วมดำเนินการกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ทั้งนี้ เพื่อขอนโยบายที่ชัดเจนว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป หลังจากที่คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2549 ที่ผ่านมา ขอให้ทบทวนโครงการใหม่ เนื่องจากมีความไม่ชัดเจนเรื่องของการก่อสร้าง รูปแบบ และงบประมาณที่จะนำมาใช้ในการก่อสร้างโครงการ
"โครงการเราจะขายให้กับพนักงานของการรถไฟฯ เพื่อให้มีที่พักอาศัยของตัวเอง ส่วนที่เหลือจะขายให้กับประชาชนทั่วไป โดยในเฟสแรกเราตั้งใจจะก่อสร้างในพื้นที่ 27 ไร่ จำนวน 2,000 ยูนิต ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี ราคาขายต่อหน่วยเริ่มต้นที่ 600,000 บาท"
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สำหรับรายละเอียดที่ทาง สตง.ส่งมา ระบุว่า สตง.ได้ตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวแล้ว ในขั้นต้นพบว่านอกจากมีการก่อ สร้างอาคารพักอาศัยหรือแฟลตสูง 5 ชั้น จำนวน 4 อาคาร ให้กับพนักงาน เพื่อทดแทนการก่อสร้างศูนย์พลังงานแห่งชาติแล้ว ยังไม่พบหลักฐานรายงานการศึกษาถึงความเหมาะสม ทั้งแง่ปัญหาชุมชนและสภาพสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน เนื่องจากโครงการนี้หากเกิดขึ้นจะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ในใจกลางเมือง จึงต้องพิจารณาผลกระทบกับการพัฒนาพื้นที่ นอกจากนี้ยังเห็นว่าภารกิจหลักของการรถไฟฯก็ยังมีปัญหาในด้านการบริหารจัดการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารทรัพย์สิน อันเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ สตง.ไม่อาจรับรองฐานะการเงินของการรถไฟฯโดยปราศจากเงื่อนไข
จนถึงปัจจุบัน สตง.จึงได้มีหนังสือสอบถามไปมายังการรถไฟฯ ซึ่งได้ชี้แจงไปตามความเป็นจริงว่า จะดำเนินการอะไรบ้าง ทำให้ทราบว่าการรถไฟฯเพิ่งจะประสานกับ กคช.เมื่อเดือนมิถุนายน 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งลักษณะโครงการเน้นการพัฒนาเป็นชุมชนเมืองที่ถูกสุขลักษณะ เหมาะสมกับชีวิตที่เป็นที่อยู่อาศัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวก สาธารณูปโภคและสาธารณูปการเท่านั้น ยังไม่มีการศึกษาในรายละเอียดอย่างรอบด้าน กรณีนี้จึงอาจมีปัญหาเช่นเดียวกับปัญหาเคหะชุมชนดินแดงของ กคช.ในปัจจุบัน
ดังนั้น ทาง สตง.จึงเห็นว่าในชั้นนี้ เพื่อความละเอียดรอบคอบในการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่มีผลกระทบในวงกว้างในอนาคต ควรมีการทบทวนศึกษาความเหมาะสม และผลกระทบในด้านต่างๆ อย่างรอบด้าน ซึ่งจะต้องขอความคิดเห็นจากหลายส่วนราชการก่อนที่จะดำเนินการต่อไป
สตง.จึงได้นำเรื่องนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกอบการพิจารณากำหนดนโยบาย หรือทบทวนการกำกับดูแลการดำเนินการของการรถไฟฯ เพื่อรักษาประโยชน์ของทางราชการ
"หลังจากที่ได้รับหนังสือจาก สตง. รมว. คมนาคมได้สั่งให้ปลัดกระทรวงคมนาคม สั่งการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และการรถไฟฯ ให้ทบทวนโครงการให้ละเอียดรอบคอบ จากนั้นให้นำรายละเอียดมาเสนอพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง"
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สำหรับรายละเอียดที่จะชี้แจงให้พลเรือเอกธีระพิจารณา ประกอบด้วย 1.เรื่องงบประมาณก่อสร้าง ซึ่งโครงการนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณจากรัฐบาล เป็นแค่การพัฒนาเป็นสวัสดิการให้กับพนักงานการรถไฟฯเท่านั้น 2.โครงการสอดรับกับการโยกย้ายคนบริเวณมักกะสัน ที่การรถไฟฯมีแผนจะทำการรื้อย้ายบ้านพักให้สามารถซื้อที่อยู่อาศัยโครงการนี้ในราคาที่ไม่แพงได้ 3.เป็นการนำที่ดินมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ 4.พนักงานของการรถไฟฯต้องการจะมีบ้านในราคาถูกอยู่แล้ว และโครงการนี้พนักงานลงชื่อจองจำนวนมาก
"ตอนนี้โครงการยังไม่ได้ดำเนินการอะไร หลังจากบันทึกข้อตกลงร่วมกับการเคหะฯ โดยการเคหะฯจะเป็นผู้เสนอรูปแบบการลงทุนและรูปแบบพัฒนาโครงการให้ รวมทั้งบริหารการขาย หาสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้สินเชื่อให้ โดยการเคหะฯจะได้รับส่วนแบ่งรายได้บางส่วนแต่ไม่มาก คงต้องรอดูนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมว่าจะให้เดินหน้าต่อหรือให้ยกเลิกโครงการ"
อนึ่ง ก่อนหน้านี้การรถไฟฯได้ร่วมกับการเคหะฯออกแบบ วางผังแม่บทโครงการจัดสร้าง ที่พักอาศัยให้กับพนักงานการรถไฟฯ โดยศึกษาความเป็นไปได้ทางการเงิน จัดหาผู้ลงทุน และดำเนินการพัฒนาโครงการ และควบคุมการก่อสร้าง และได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 2 ฝ่าย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา
โดยขณะนี้การเคหะฯได้เสนอแบบร่าง (conceptual design) เพื่อพิจารณาร่วมกับการรถไฟฯแล้ว โดยการออกแบบก่อสร้างที่พักอาศัยให้กับพนักงานการรถไฟฯที่บริเวณย่านสถานีรถไฟบางซื่อ พื้นที่ 105 ไร่ ระยะแรกจะก่อสร้างเป็นอาคารสูงไม่เกิน 16 ชั้น จำนวน 2,000 หน่วย จะเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นไป และในระยะต่อไป (ปี 2552-2554) จะก่อสร้างอาคารสูงเพิ่มอีก 6,000 หน่วย พร้อมส่วนบริการชุมชน อันได้แก่ ศูนย์ชุมชน สนามเด็กเล่น โรงเรียนอนุบาล โรงพยาบาล อาคารพาณิชย์ และตลาดในชุมชน และการรถไฟฯเตรียมเปิดโอกาสให้พนักงานที่สนใจจองเช่าซื้อ
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 09-11-2549
|
|
|
|
|