| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 62 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 26-10-2549    อ่าน 11538
 พันธมิตรกลุ่มแลนด์ระเบิดศึกคอนโดฯ "คิวเฮ้าส์"เจาะสุขุมวิท-APยึดลาดพร้าว

กลุ่มจัดสรรเครือข่าย "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" เบนเข็มบุกตลาดทำเลในเมือง บูมโครงการตามแนวรถไฟฟ้า ขานรับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ "คิวเฮ้าส์" ฉีกแนวประเดิมคอนโดฯสร้างเสร็จก่อนขาย เจาะไข่แดงย่านสุขุมวิทเป็นโครงการแรก เคาะราคาขายตารางเมตรละ 60,000 บาท หลังติดใจคอนโดฯชะอำขายดี เอเชี่ยนฯ-แลนด์ฯกอดคอยึดทำเลรัชดาฯ-ลาดพร้าว ระเบิดศึกคู่แข่งชิงลูกค้าคนรุ่นใหม่

นายรัตน์ พานิชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือคิวเฮ้าส์ เปิดเผยว่า เพื่อรับกับตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ซึ่งคิวเฮ้าส์ไม่อยากเสียโอกาสในการทำตลาดส่วนนี้ จึงวางแผนลงทุนเปิดตลาดคอนโด มิเนียมเป็นโครงการแรกในทำเลสุขุมวิทตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส ภายใต้คอนเซ็ปต์คอนโดฯสร้างเสร็จก่อนขาย ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทในเครือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

"ถ้าทำตลาดส่วนนี้สำเร็จจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้ทันทีเมื่อขายได้แล้ว ส่วนราคาขายต่อ ตารางเมตรเราวางไว้ที่ระดับตารางเมตรละ 60,000 บาทอัพ" นายรัตน์กล่าวและยอมรับว่า

ก่อนตัดสินใจจะเข้ามาเล่นในตลาดสินค้านี้และทำเลนี้ คิวเฮ้าส์ศึกษามานานพอสมควรและพยายามคิดอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในเรื่องของโปรดักต์ที่ต้องมีจุดขายแตกต่างจากคู่แข่งและต้องโดนใจลูกค้าจริงๆ เนื่องจากทำเลสุขุมวิทตลาดมีการแข่งขันที่รุนแรงมาก

"แต่ละรายก็เป็นบิ๊กเพลเยอร์ทั้งนั้น ทั้งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนที่อยู่นอกตลาดก็ประมาทไม่ได้" นายรัตน์กล่าวและมองว่า

สำหรับภาวะตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่มีการขยายตัวตามแนวรถไฟฟ้าบนดิน-ใต้ดินนั้น ยังมีโอกาสเติบโตไม่จบสิ้น ตราบใดที่ยังมีที่ดินรอการพัฒนาเหลืออยู่และราคาน้ำมันไม่ถูกไปกว่านี้แล้ว พฤติกรรมของผู้บริโภคจะตอบรับกับสินค้าเหล่านี้มากขึ้น เหมือนกับประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์และฮ่องกง เพียงแต่ราคาอสังหาริมทรัพย์ของไทยยังไม่แพงสุดโต่ง

ผู้บริโภคยังสามารถเลือกซื้อได้ตามกำลังซื้อในแต่ละทำเลและแต่ละโครงการ ตั้งแต่คอนโดฯราคายูนิตละ 1-5 ล้านบาทไปถึง 10-20 ล้านบาท

นายรัตน์กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา คิวเฮ้าส์เคยเปิดขายคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่มาแล้วโครงการหนึ่งบริเวณหาดคลองเทียน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ชื่อ โครงการ "ชะอำ ลองบีช คอนโดมิเนียม" เป็นอาคารพักอาศัยสูง 18 ชั้น 2 อาคาร อาคารละ 53 ยูนิต ตอนนี้ปิดการขายเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดอยู่ระหว่างหาซื้อที่ดินเพิ่มอีกหลายแปลง เพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ต่อเนื่อง

ดร.โสภณ พรโชคชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ จำกัด (AREA) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ที่ดินทำเลลาดพร้าวและสุขุมวิทถือเป็นทำเลยอดฮิตที่ผู้ประกอบการต้องการเข้าไปพัฒนาคอนโดฯมากสุดในขณะนี้ และแม้ว่าทั้ง 2 ทำเลจะอยู่ในแนวรถไฟฟ้าเหมือนกันแต่ก็มี positioning ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะโครงการในย่านสุขุมวิทเน้นจับลูกค้ากลุ่มเอเป็นหลัก ราคาขายจะเริ่มต้นที่ 4-5 ล้านบาท ผู้ประกอบการที่เข้ามาเล่นล้วนจะเป็นรายใหญ่ทั้งสิ้น อาทิ ดิ แอทเดรด ค่ายเอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้, โครงการโนเบิล โซโล-ทองหล่อ, ค่ายโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์, โครงการมิเลนเนียม เรสซิเด้นส์ สุขุมวิท ของซีดีแอลจากสิงคโปร์ เป็นต้น

ส่วนคอนโดฯทำเลลาดพร้าวจะเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับบีลงมา ราคาขายต่อยูนิตเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาทต้นๆ โดยเรียกโครงการเหล่านี้ว่า "ซิตี้คอนโดฯ" เช่น คอนโดวัน ของค่ายพลัส พร็อพเพอร์ตี้, ซิตี้ โฮม ของศุภาลัย, ลุมพินีวิลล์ และลุมพินี เพลส ค่ายแอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นต้น

สำหรับราคาที่ดินในทำเลสุขุมวิทในถนนซอยก็จะมีราคาเริ่มต้นที่ตารางวาละ 1.5-2 แสนบาทขึ้นไป หากติดถนนใหญ่ราคาอาจปรับขึ้นไปถึง 3 แสนบาทต่อตารางวา ขณะที่ทำเลลาดพร้าวราคาจะเริ่มต้นที่ 8 หมื่นบาทต่อตารางวา โดยในพื้นที่นี้คาดว่าน่าจะมีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกเยอะมาก เนื่องจากราคาที่ดินเมื่อนำมาพัฒนาโครงการแล้วราคาขายยังอยู่ในกำลังซื้อของผู้บริโภค

"ที่ดินที่น่าจะเป็นทำเลทองที่น่าสนใจของผู้ประกอบการที่จะเข้าไปลงทุนขึ้นคอนโดฯในอนาคตอันใกล้คือ ทำเลที่อยู่ติดกับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า และเส้นที่กำลังจะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า เพราะจะทำให้มีการเปิดหน้าดินใหม่นำมาขึ้นโครงการอีกเยอะมาก" ดร.โสภณกล่าวและว่า

ราคาที่ดินในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 29.7% หรือ 1 ใน 3 เมื่อเทียบจากราคาในปี 2541 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาที่ดินตกต่ำมากที่สุด ส่วนราคาที่ดินในช่วงปี 2548-2549 ราคาโดยรวมปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 4% เท่านั้น เมื่อเทียบกับช่วงปี 2547-2548 ที่ปรับขึ้นประมาณ 5.8% ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สดใส และปัญหาทางการเมืองที่อึมครึม

"ราคาที่ดินในปีหน้าคาดว่าจะขยับเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3.1% เท่านั้น และตลาดมีแนวโน้มที่ไม่สดใสนัก แต่ถ้าเศรษฐกิจมีแนวโน้มสดใส ตลาดที่ดินอาจจะกลับมาเติบโตได้อีก" ดร.โสภณกล่าวและว่า ทำเลที่น่าจับตามองและคาดว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมราคาดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ ทำเลรัชดาฯ-ลาดพร้าว ซึ่งมีผู้ประกอบการหลายเจ้าจ่อคิวเปิดโครงการในเร็วๆ นี้ เช่น ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด มีแผนจะเปิดตัวคอนโดวัน ลาดพร้าว ในซอยลาดพร้าว 18 อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีลาดพร้าวประมาณ 100 เมตร บนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ สูง 9 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 142 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 1.399 ล้านบาท เฉลี่ย 53,500 บาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 307 ล้านบาท

บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP ได้ซื้อที่ดินเนื้อที่ 4 ไร่ ปากซอยลาดพร้าว 36 จาก "สมหมาย ฮุนตระกูล" ตามแผนพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม 2 อาคารจำนวนกว่า 470 ยูนิต ราคาขายประมาณ 4-4.5 หมื่นบาทต่อตารางเมตร แบรนด์ Lift

ขณะที่บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้ซื้อที่ดินไว้แล้วจากกลุ่ม ช.อมรพันธุ์ จำนวน 14 ไร่ ทำเลแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีลาดพร้าวเพียง 150 เมตร และกำลังเร่งขึ้นคอนโดฯสร้างเสร็จก่อนขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ The Room บนเนื้อที่ 10 ไร่ สูง 19 ชั้น 2 อาคาร 801 ยูนิต

ส่วนอีก 4 ไร่มีแผนจะพัฒนาเป็นอาคารพาณิชย์ ซึ่งค่ายแลนด์ฯอาศัยความแข็งแกร่งเหนือคู่แข่ง ทำตลาดในรูปแบบขายล่วงหน้า โดยให้ลูกค้าที่ต้องการซื้อเปิดบัญชีเงินฝากกับ LH Bank ภายใต้แคมเปญ home savings package

บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) ระบุว่า ไตรมาส 3/2549 มีคอนโดฯระดับกลางมากถึง 39,117 ยูนิต คิดเป็น 90% ของคอนโดฯในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯที่มีทั้งสิ้น 43,046 ยูนิต ส่วนผลวิจัยของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ระบุในทิศทางเดียวกันว่า ตลาดคอนโดฯระดับกลางเป็นตลาดที่มีการตอบรับที่ดี โดยครึ่งปีแรกมียอดขายรวม 8,825 ยูนิต มากกว่ายอดขายทั้งปี 2548 ที่มียอดขาย 8,260 ยูนิต อย่างไรก็ตามในตลาดมีห้องชุดเหลือขายอยู่อีก 8,000 ยูนิต และครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีโครงการเปิดใหม่อีก 7,000 ยูนิต

เมื่อตลาดให้การยอมรับก็ทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางหันมาเล่นในตลาดนี้มากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะต้องการผลิตสินค้าใหม่เพิ่มเข้ามาเสริมสินค้าหลัก เป้าหมายก็เพื่อดันยอดขายรวมให้เพิ่มขึ้น เน้นจับกลุ่มมนุษย์เงินเดือนและเปลี่ยนกลุ่มผู้ที่อยู่อาศัยประเภทเช่าให้หันมาซื้อที่อยู่อาศัยของตนเองในอัตราการผ่อนที่เท่ากับอัตราค่าใช้จ่ายเดิม

ทำเลที่น่าจับตามองและคาดว่าจะมีโครงการ คอนโดมิเนียมราคาดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือทำเลรัชดาฯ-ลาดพร้าว ซึ่งมีผู้ประกอบการหลายเจ้าจ่อคิวเปิดโครงการในเร็วๆ นี้ เช่น ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด มีแผนจะเปิดตัวคอนโดวัน ลาดพร้าว ในซอยลาดพร้าว 18 อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีลาดพร้าวประมาณ 100 เมตร บนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ สูง 9 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 142 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 1.399 ล้านบาท เฉลี่ย 53,500 บาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 307 ล้านบาท

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 26-10-2549 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.