|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "ฉัตรชัย"มั่นใจปล่อยกู้รายย่อยไม่สะดุด ธอส.โชว์ฟันกำไรรอบ9เดือน2.3พันล. |
|
"ธอส." แจงผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2549 กวาดกำไรสุทธิ 2,391 ล้านบาท จากยอดปล่อยสินเชื่อกว่า 81,773 ล้านบาท ฟุ้งคุม NPL ทั้งพอร์ตเหลือแค่ 5.96% ด้านเงินฝากแตะที่ระดับ 444,695 ล้านบาท "ฉัตรชัย วีระเมธีกุล" รักษาการเอ็มดี ย้ำมีเงินเพียงพอที่จะรองรับความต้องการกู้ของประชาชนรายย่อย
นายฉัตรชัย วีระเมธีกุล กรรมการธนาคารและรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3/2549 ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 ธนาคารมีตัวเลขสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 579,941 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79,215 ล้านบาท คิดเป็น 15.82% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในช่วงไตรมาสที่ 3/2549 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้กว่า 39,939 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 25,105 ล้านบาท ลดลง 11,967 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2548 ที่อยู่ในระดับ 36,762 ล้านบาท จำนวน 51,906 ราย ยอดสินเชื่อปล่อยใหม่สิ้นสุดไตรมาสที่ 3/2549 ทำได้เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 81,823 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปี 115,000 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาธนาคารมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 2,392 ล้านบาท ลดลง 1,284 ล้านบาท คิดเป็น 34.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนตัวเลขเงินฝากของธนาคารอยู่ที่ระดับ 444,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66,554 ล้านบาท หรือ 17.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 378,141 ล้านบาท ทั้งนี้เกิดจากในช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้ระดมเงินฝากจากประชาชนทั่วไปเพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อใหม่ในอนาคต ขณะที่สินเชื่อคงค้าง (outstanding) สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 อยู่ที่ 518,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59,427 ล้านบาท คิดเป็น 12.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
"เงินฝากเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารมั่นใจได้ว่าจะรองรับความต้องการกู้ซื้อบ้านของผู้บริโภคได้แน่นอน จึงมั่นใจได้ว่าการปล่อยสินเชื่อของเราจะไม่สะดุดและจะพยายามตรึงอัตราดอกเบี้ยให้นานที่สุดเพื่อแบ่งเบาภาระให้กับผู้บริโภค" นายฉัตรชัยกล่าว และว่า
สำหรับที่มาแหล่งเงินทุนของธนาคารมาจากหลายช่องทางด้วยกัน ประกอบด้วย พันธบัตร 85,500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15.64% เงินกู้ต่างประเทศ 8,336 ล้านบาท คิดเป็น 1.53% เงินกู้ระยะยาวในประเทศ 8,063 ล้านบาท คิดเป็น 1.48% และเงินฝากและตั๋วสัญญาใช้เงิน 444,695 ล้านบาท คิดเป็น 81.36% รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 546,594 ล้านบาท ขณะที่ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ได้ปรับลดลงเหลือ 30,924 ล้านบาท ลดลง 6,172 ล้านบาท คิดเป็น 16.64% ทำให้ปัจจุบันธนาคารมียอด NPL ในพอร์ต 5.96% หรือลดลง 2.11% เมื่อเทียบกับยอดสินเชื่อรวม
ทั้งนี้ สาเหตุที่ NPL ลดลงเกิดจากที่ผ่านมาธนาคารได้นำมาตรการต่างๆ เข้ามาใช้เพื่อให้เกิดแรงจูงใจและเร่งการตัดสินใจซื้อของประชาชนให้เร็วขึ้น อาทิ ปรับลดราคาขายทรัพย์ คิดดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ การตัดขายแบบยกลอต การแบ่งขายในบางส่วน หรือให้เอกชนรับไปดำเนินการ เป็นต้น ดังนั้นจึงทำให้ตัวเลขลดลงมาในระดับที่น่าพอใจ ขณะที่ทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ในปัจจุบันอยู่ที่ 11,669 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,109 ล้านบาท อยู่ที่ 12,778 ล้านบาท และสามารถระบายไปได้ 2,038 ล้านบาท ลดลง 463 ล้านบาท
นายฉัตรชัยกล่าวว่า ธนาคารเตรียมขยายวงเงินสินเชื่อ home equity loan จาก 50% เป็น 80% ของราคาหลักประกัน ซึ่งเป็นเรตเท่ากับธนาคารพาณิชย์ทั่วไปที่ปล่อยสินเชื่อ over draft (OD) โดยให้อัตราดอกเบี้ยที่ MRR 7.75% เริ่มให้บริการตั้งแต่ 24 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะพิจารณาจากคุณสมบัติของผู้ขอกู้เป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการผ่อนชำระ และมูลค่าของหลักประกัน
"เป้าหมายคือต้องการให้ผู้มีบ้านอยู่แล้วสามารถนำมาขอกู้เพื่อนำเงินไปใช้ขยายธุรกิจ แต่มีเงื่อนไขว่าบ้านหลังนั้นจะต้องไม่ติดภาระจำนอง" นายฉัตรชัยกล่าว
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 26-10-2549
|
|
|
|
|
