|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| กทม.อัดงบฯ3.6หมื่นล.พลิกโฉมโซนตอ. "อภิรักษ์"ปั้น5ศูนย์ชุมชนรับสุวรรณภูมิ |
|
กทม.เดินหน้าเต็มสูบพัฒนาพื้นที่โซนตะวันออก "อภิรักษ์" ลุยเองสั่งสำนักผังเมืองจัดทำแผนพัฒนา 5 เขตหลัก "คลองสามวา-มีนบุรี-หนองจอก-ลาดกระบัง-ประเวศ" รับทำเลสุวรรณภูมิบูมหลังเปิดใช้สนามบิน วาดแผนผุดศูนย์ชุมชนในรัศมี 30 ก.ม. เตรียมงบฯอัดฉีดก้อนโตกว่า 3.58 หมื่นล้านใน 10 ปี ปั้นมีนบุรีเป็นย่านธุรกิจใหม่ เปิดพื้นที่รอพัฒนาเพียบ "เชื่อมสัมพันธ์-อยู่วิทยา-ประชาสำราญ-ร่มเกล้า-พัฒนาการ และกรุงเทพ-กรีฑา"
แหล่งข่าวจากสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังมีการเปิดใช้สนามบินสุวรณภูมิเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งอีกไม่นานจะส่งผลกระทบทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงและต่อเนื่อง นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้สำนักผังเมืองจัดทำรายละเอียดการพัฒนาชุมชนชานเมืองโซนตะวันออก ซึ่งอยู่รอบสนามบินสุวรรณภูมิในรัศมี 30 กิโลเมตร ได้แก่ พื้นที่เขตคลองสามวา มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง และประเวศ เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะคาดว่าจะมีคนเข้าอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 350,000 คน จากปัจจุบันทั้ง 5 เขตมีประชากรรวมแล้วกว่า 6 แสนคน
ทั้งนี้ การจัดทำรายละเอียดจะเน้นการเพิ่มศักยภาพของบริเวณศูนย์ชุมชนชานเมือง 5 แห่ง คือ ศูนย์ชุมชนหนองจอก พื้นที่ 18 ตร.ก.ม. ศูนย์ชุมชนลาดกระบังเดิม (ตลาดหัวตะเข้)ี่ 12 ตร.ก.ม. ศูนย์ชุมชนลาดกระบังใหม 20 ตร.ก.ม. ศูนย์ชุมชนประเวศทั้งเขตี่ 52 ตร.ก.ม. และศูนย์ชุมชนมีนบุรี พื้นที่ 53 ตร.ก.ม.
"เราได้จัดทำแผนการพัฒนาพื้นที่บริเวณโดยรอบสนามบินทั้งหมด โดยกำหนดกรอบระยะเวลาไว้ 10 ปี ใช้งบประมาณในการลงทุนทั้งสิ้น 35,800 ล้านบาท แบ่งเป็นในศูนย์ชุมชนวงเงิน 12,752 ล้านบาท แยกเป็นเขตหนองจอก 1,742 ล้านบาท เขตลาดกระบังเดิม 2,493 ล้านบาท เขตลาดกระบังใหม่ 1,920 ล้านบาท เขตประเวศ 5,030 ล้านบาท และเขตมีนบุรี 1,567 ล้านบาท ที่เหลืออีก 23,048 ล้านบาท เป็นการพัฒนาพื้นที่รอบนอกศูนย์ชุมชนทั้ง 5 เขต บางส่วนจะใช้งบฯของ กทม.เองและบางส่วนมาจากการจัดเก็บภาษี โดยจะมีมาตรการส่งเสริมและจูงใจให้เอกชนพัฒนา
ขั้นตอนในการพัฒนาจะแบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ในระยะเร่งด่วนปี 2550-2551 จะปรับปรุงภูมิทัศน์ตามริมคลองและถนน ในพื้นที่ชุมชนเดิมใหสวยงาม เช่น ตลาดหนองจอก หัวตะเข้ ปรับปรุงถนนศรีนครินทร์ เป็นต้น ในระยะกลางและระยะยาวจะแบ่งเป็นช่วงละ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2552-2555 และปี 2556-2560
"การที่กำหนดให้ม 5 ศูนย์ชุมชน เพราะยังมีพื้นที่ว่างรอพัฒนามาก เว้นเขตประเวศที่ปัจจุบันการพัฒนาค่อนข้างหนาแน่น"
แนวคิดในการพัฒนา ศูนย์ชุมชนมีนบุรีจะเป็นศูนย์กลางการค้าและการบริการ เป็นพื้นที่ธุรกิจแห่งใหม่ชานเมืองตะวันออก ประกอบด้วยย่านธุรกิจ และสำนักงาน ศูนย์กลางการแพทย์ และสาธารณสุข ศูนย์การบริการคมนาคมและขนส่งรองรับการขยายตัวของเมืองจากใจกลางกรุงเทพฯ และเป็นจุดเปลี่ยนการสัญจรและเชื่อมโยงการพัฒนาสู่พื้นที่ปริมณฑล
โดยบริเวณตลาดมีนบุรีและพื้นที่ต่อเนื่อง จะเป็นศูนย์ชุมชนชานเมือง ช่วยสร้างความสมดุลแหล่งงานกับที่อยู่อาศัย ลดการเดินทาง จัดให้มีที่ตั้งอาคารสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม ร้านค้า และเขตที่อยู่อาศัยหนาแน่น อยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยพื้นที่เปิดการพัฒนาจะอยู่บริเวณแนวคันกั้นน้ำ เช่น บริเวณ ย.2-9 ย.3-62 ย่านถนนราษฎร์พัฒนา เป็นต้น
ศูนย์ชุมชนหนองจอก เป็นศูนย์กลางกิจการเกษตรและศูนย์กลางการศึกษา และการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ประกอบด้วย ศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาเพื่อการอุตสาหกรรม ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อใหมีบทบาทในการพัฒนาบุคลากรทุกระดับ
นอกจากนี้พื้นที่โดยรอบนอกศูนย์ชุมชนหนองจอกยังเป็นพื้นที่สีเขียวมีสภาพแวดล้อมที่ดี สามารถพัฒนาได้อีกมาก โดยพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นแบบอุทยานนคร มีที่โล่งและต้นไม้มากๆ ให้เป็นแบบที่อยู่อาศัยในสวน เพื่อให้คงความเป็นพื้นที่สีเขียวและรับน้ำหลากในกรณีที่จำเป็น โดยจะเปิดพื้นที่พัฒนาบริเวณริมถนนเชื่อมสัมพันธ์ ถนนอยู่วิทยา ถนนประชาสำราญ เป็นต้น
ศูนย์ชุมชนลาดกระบัง (ใหม่) เป็นศูนย์ธุรกิจและบริการเกี่ยวเนื่องกับการบินและศูนย์วิจัยพัฒนาและออกแบบ อยู่ทางด้านตะวันตกของถนนร่มเกล้าตัดกับถนนอ่อนนุช ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวจะได้รับอิทธิพลจากกิจกรรมที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากสนามบิน ทำให้มีศักยภาพการพัฒนาสูงมาก จะเน้นวางแผนผังระบบขนส่งมวลชนทั้งทางบกและทางน้ำเชื่อมโยงพื้นที่ศูนย์กลาง กทม. พื้นที่ปริมณฑลและสนามบิน เน้นการพัฒนาให้เป็นพื้นที่แก้ไขปัญหาน้ำท่วม และจัดการระบายน้ำชานเมืองตะวันออก ซึ่งก่อนหน้านี้ทางไจก้าได้ช่วยวิเคราะห์การพัฒนาบางส่วนให้แล้ว ด้านการพัฒนาจะเปิดพื้นที่บริเวณถนนหลวงแพ่ง ย่าน ก.4-7, พ.2-2 เป็นต้น
ศูนย์ชุมชนลาดกระบังเดิม (ตลาดหัวตะเข้) เป็นเมืองวัฒนธรรมและวิถีชีวิตไทยริมน้ำ ประกอบด้วยชุมชนที่อยู่อาศัยริมน้ำ ตลาดน้ำ แหล่งที่พัก และเส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำ เหมาะจะพัฒนาแบบคงความดั้งเดิม และให้เป็นที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เพราะมีทำเลที่ตั้งเหมาะสม ไม่ไกลจากเมืองและสนามบิน เช่น ปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองหัวตะเข้ และคลองประเวศ พัฒนาตลาดหัวตะเข้ เป็นต้น ส่วนพื้นที่เปิดการพัฒนา จะเป็นบริเวณถนนกรุงเทพ-กรีฑา-ร่มเกล้า และลาดกระบัง บริเวณ พ.4-7 เป็นต้น
ศุนย์ชุมชนประเวศ เป็นพื้นที่อยู่อาศัยและพักผ่อนหย่อนใจ ประกอบด้วย แหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดี สวนสาธารณะขนาดใหญ่ คือ สวนหลวง ร.9 สวนพันธุ์ไม้และสมุนไพรชุมชน เพื่อเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ และบริเวณโดยรอบ อนุรักษ์ให้เป็นที่อยู่อาศัยชั้นดี การคมนาคมสะดวก ปัจจุบันสภาพพื้นที่เขตประเวศค่อนข้างหนาแน่น เพราะมีการสร้างที่อยู่อาศัยมาก แต่ประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วม เพราะเป็นพื้นที่ลุ่ม ถ้ามีการพัฒนาโครงข่ายถนนเข้าไปอีก จะทำให้พื้นที่รับการพัฒนาได้อีกและเป็นการเปิดพื้นที่ตาบอด เช่น ถนนพัฒนาการ-ร่มเกล้า ที่จะต่อเชื่อมจากกรุงเทพ-กรีฑา เป็นต้น
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 05-10-2549
|
|
|
|
|
