Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
กทพ.รั้ง"ด่านเก็บเงินอัตโนมัติ" รอรัฐบาลใหม่ชี้ชะตาโครงการ |
|
รัฐประหารเอฟเฟ็กต์ การทางฯแตะเบรก "โครงการติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ" บนทางด่วนขั้นที่ 1-2 และรามอินทรา-อาจณรงค์ มูลค่า 850 ล้านบาท หวั่นถูกสั่งให้ทบทวนโครงการ ร้องเพลงรอนโยบายจากรัฐบาลชุดใหม่
นายเผชิญ ไพโรจน์ศักดิ์ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า โครงการปรับปรุงและติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทางทางพิเศษอัตโนมัติ (ETC) ของทางด่วนขั้นที่ 1 ทางด่วนขั้นที่ 2 และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่อยู่ระหว่างการเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติอาจจะต้องชะลอออกไปก่อนเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ดังนั้น กทพ.ต้องรอนโยบายจากรัฐบาลใหม่ว่าจะให้ดำเนินการต่อหรือทบทวนใหม่ ตอนนี้ยังตอบอะไรไม่ได้
อย่างไรก็ตาม โครงการปรับปรุงและติดตั้งระบบเก็บเงินอัตโนมัตินี้ ทาง กทพ.ได้ทำเรื่องเสนอบรรจุวาระที่ประชุม ครม.ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2549 ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการพิจารณา ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ได้สั่งการให้นำเรื่องนี้กลับไปทบทวนใหม่ว่าจะต้องมีการปฏิบัติตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2535 หรือไม่ เนื่องจากมีเอกชนเข้ามาลงทุนด้วย ทั้งนี้เพื่อให้การพิจารณามีความรอบคอบที่สุด
นายเผชิญกล่าวต่อว่า ข้อเสนอให้ ครม. พิจารณา คือ ให้ กทพ.แก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขของสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 เพื่อให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติในทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนเอและบีได้ โดยจัดเก็บตามระยะทาง สำหรับทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนซีและดีเอกชนเป็นผู้ลงทุนระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ โดยจัดเก็บค่าผ่านทางในอัตราคงที่ ส่วนทางด่วนขั้นที่ 1 และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ให้ กทพ.ดำเนินการตามข้อบังคับของ กทพ.ว่าด้วยการพัสดุสำหรับการปรับปรุงและติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ
ทั้งนี้ ตามแผนงานระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติจะให้ทางเอกชนเป็นผู้ลงทุนจัดหา ติดตั้งอุปกรณ์และดำเนินการจัดเก็บค่าผ่านทางจำนวน 58 ด่าน มีทางเข้า 137 ช่องและช่องทางออก 37 ช่อง มูลค่าการลงทุนประมาณ 850 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนของทางด่วนขั้นที่ 2 ประมาณ 430-500 ล้านบาท ทางด่วนขั้นที่ 1 มูลค่า 200-230 ล้านบาท และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มูลค่า 100-120 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการติดตั้งระบบ 12 เดือน
นายเผชิญกล่าวต่อว่า สำหรับอัตราค่าผ่านทางกำหนดจัดเก็บตามระยะทางจริง โดยมีอัตราแรกเข้า คือ 23 บาท และเก็บเพิ่มตามระยะทางในอัตรา 2 บาทต่อกิโลเมตร สูงสุดไม่เกิน 45 บาท ส่วนในการปรับค่าผ่านทางเพิ่มนั้นจะมีการปรับอัตราค่าผ่านทางตามระยะทางทุกๆ ปี ภายในวันที่ 1 กันยายนของแต่ละปี โดยจะไม่มีการปัดเศษของบาทเพิ่ม
"จากการเจรจากับทางเอกชน คือ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทางบริษัทจะหักค่าบริการ 5% ของรายได้ค่าผ่านทางที่เก็บด้วยระบบอัตโนมัติเพื่อเป็นรายได้ให้กับบริษัท หลังจากที่บริษัทได้ลงทุนติดตั้งระบบแล้ว"
นายเผชิญกล่าวต่อว่า โครงการนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการเร่งด่วนของ กทพ.เพื่อช่วยแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางในชั่วโมงเร่งด่วน แต่ประชาชนผู้ใช้ทางด่วนสามารถเลือกใช้การจัดเก็บค่าผ่านทางแบบใดแบบหนึ่งก็ได้ เนื่องจาก กทพ.ยังไม่ได้ยกเลิกการจัดเก็บค่าผ่านทางแบบระบบเปิดหรือการเก็บค่าผ่านทางในอัตราคงที่ตลอดสาย 40 บาท โดยระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัตินี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ใช้บริการเท่านั้น
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 02-10-2549
|
|
|
|
|