| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 175 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 25-09-2549    อ่าน 11456
 "ดีเวลอปเปอร์-วัสดุ"ช็อกปฏิวัติ! แตะเบรกลงทุน-รีบทำใจลุ้นรัฐบาลใหม่

เหตุการณ์ปฏิวัติโค่นล้มระบอบทักษิณ "ช็อก" กำลังซื้อบ้านอย่างจัง บิ๊กดีเวลอปเปอร์ "สมเชาว์-ชายนิด-เมธา" แตะเบรกลงทุน ขอรอดูความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาลรักษาการและกรอบเวลาการเลือกตั้ง ส่วนภาคธุรกิจ "วัสดุก่อสร้าง-รับสร้างบ้าน" มองเชิง "บวก" มากกว่า "ลบ" คาดส่งผลกระทบตลาดแค่ช่วงสั้น

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมาทำให้ผู้ประกอบการไม่มั่นใจภาพโดยรวมจะกลับมาดีขึ้นหรือไม่ หากไม่ดีขึ้นอาจส่งผลกระ ทบต่อผลประกอบการของบริษัทอย่างแน่นอน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ กว่าจะให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ยกเว้นคณะปฏิรูปการปกครองฯจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่และประกาศตัวบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความน่าเชื่อถือ ก็อาจจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ในระดับหนึ่ง

"ในมุมของผู้บริโภคคิดว่าอาจส่งผลกระทบบ้างในระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่รีบร้อนที่จะต้องซื้อบ้านในช่วงเวลาอันใกล้นี้ แต่ก็มีการหาข้อมูลไว้บ้างแล้ว ก็อาจจะชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปอีก รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางและมีความชัดเจนมากกว่านี้ก่อน"

เบรกลงทุน-ซื้อที่ดิน

นายชายนิด โง้วศิริมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ "เพอร์เฟค" กล่าวว่า เท่าที่ประเมินสถาน การณ์คิดว่าทุกอย่างเริ่มคลี่คลายมากขึ้นแล้ว หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองฯมีความชัดเจนที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์ จากนั้นก็จะจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 1 ปี ถือว่าอยู่ในช่วงที่มีความเหมาะสมและยอมรับได้

ส่วนภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯในช่วงสั้นๆ อาจได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่รุนแรง และในระยะกลางแนวโน้มน่าจะดีขึ้นเนื่องจากมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 60 เหรียญ/บาร์เรล จากที่เคยขึ้นไปถึง 70 เหรียญ/บาร์เรล รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มนิ่งจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประ กาศชะลอการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (อาร์/พี 14 วัน) ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ในสหรัฐประเมินว่าต้นปี 2550 อัตราดอกเบี้ยจะลดลง

"ราคาน้ำมันกับดอกเบี้ยถือเป็นตัวแปรหลักที่ช่วยทำให้บรรยากาศเรียลเอสเตตไม่แย่จนเกินไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการชะลอการลงทุนใหม่ๆ ไว้ก่อน แต่ผมก็มั่นใจว่าความเชื่อ มั่นของผู้บริโภคน่าจะกลับมาอีกครั้งในไตรมาส 4 จากราคาน้ำมันและดอกเบี้ย" นายชายนิดกล่าวและว่า

ที่ผ่านมามีนักลงทุนต่างชาติและพันธมิตรธุรกิจให้ความสนใจและสอบถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งตนได้ชี้แจงไปตามข้อเท็จจริงไปว่าเป็นจุดเปลี่ยนการ เมืองไทยที่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือนองเลือดเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด ในเครือแสนสิริ กล่าวแสดงความเห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้การเจรจาธุรกิจของบริษัทต้องชะลอออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยเฉพาะดีลซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการที่ได้ตกลงกันไว้แล้วและเตรียมจ่ายเงินมัดจำ ต้องล้มเลิกไปดื้อๆ เพราะทุกฝ่ายไม่เชื่อมั่นและต้องรอความชัดเจน โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลรักษาการและแนวนโยบายการบริหารประเทศ

"ตอนนี้หยุดหมดเลย ทุกค่ายน่าจะเป็นเหมือนกันหมด ผมภาวนาให้คืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อย่ายืดเยื้อ และเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เร็วที่สุด"

นายภราดร วิทยะสิรินันท์ ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 15 ยอมรับว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คาดว่ายอดขายบ้านในงานมหกรรมที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28 กันยายน-1 ตุลาคมนี้คงไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ เพราะผู้บริโภคคงไม่กล้าตัดสินใจซื้อบ้านที่เป็นฮาร์ดแอสเสตในช่วงนี้ และเลือกมาเก็บข้อมูลไว้ก่อนเพื่อรอให้ทุกอย่างกลับคืนสู่ภาวะปกติแล้วค่อยตัดสินใจ

"วัสดุ-รับสร้างบ้าน" มองบวก

นางสาวจันทนา สุขุมานนท์ รองประธานบริหารการขายและการตลาด บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติขึ้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการยุติความขัดแย้งทั้งหมด ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นภายหลังการปฏิวัติถือว่าไม่เลวร้ายอย่างที่คิด สะท้อนจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงเช้าของวันเปิดทำการลดลงไม่มากเพียง 6 จุด ขณะที่หุ้นของ บริษัทไม่ได้มีราคาลดลงด้วยซ้ำ แต่สิ่งสำคัญนับจากนี้คือประเทศไทยต้องไม่ก้าวถอยหลังอีกต่อไป กลับกันต้องเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว ถัดไปก็คือ ต้องมีการกำหนดระยะคร่าวๆ ในการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญและจัดการเลือกตั้งใหม่เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจกลับมา

"ถ้ามองในภาพธุรกิจซีเมนต์ภายใต้สถาน การณ์ก่อนมีการปฏิวัติก็ไม่ดีอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เราประเมินว่าสำหรับปีหน้าคงไม่มีโครงการอินฟราสตรักเจอร์เกิดขึ้น และตลาดซีเมนต์คงหดตัวลง 2% แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน อาจทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นก็ได้"

นายศักดา โควิสุทธิ์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงต้องรอดูให้แน่ชัดอีกระยะ ว่าทุกอย่างจะจบลงโดยสงบ 100% หรือไม่ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นต้องยอมรับในช่วงเวลาที่เหลืออีกประมาณ 3 เดือนนับจากนี้ในภาคธุรกิจคงหยุดการลงทุนทั้งหมด โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนจากต่างชาติน่าจะเห็นการชะลอที่ชัดเจน

สำหรับภาคธุรกิจรับสร้างบ้านคงต้องมองใน 2 ส่วน ส่วนแรกคือลูกค้าที่ตัดสินใจจองสร้างบ้านไปแล้ว เชื่อว่ากลุ่มนี้คงไม่มีผล ส่วนที่สองคือกลุ่มที่กำลังคิดจะสร้างบ้านหรือเซ็นสัญญาเร็วๆ นี้คิดว่าคงชะลอออกไปช่วงหนึ่ง เพราะยังช็อกกับเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้น แต่ถือว่าธุรกิจรับสร้างบ้านค่อนข้างโชคดีที่มีการจัดงานใหญ่ไปก่อนหน้านี้ และแต่ละบริษัทก็มียอดจองมากพอสมควร

นายวิทวัส พรกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์คอนกรีตไทย กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนนี้สมาคมเพิ่งเชิญนักวิชาการจากกระทรวงการคลังมาวิเคราะห์ถึงแนวโน้มตลาดคอนกรีตในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าจะเป็นช่วงซบเซาของธุรกิจ แต่ภายหลังเกิดการปฏิวัติมองว่าน่าจะเกิดผลกระทบในเชิงบวกมากกว่า เพราะหลังจากมีการแต่งตั้งรัฐบาลกลางเข้ามาบริหารประเทศระหว่างรอการจัดเลือกตั้งใหญ่ ตามหลักสามารถอนุมัติงบประมาณการบริหารประเทศได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในระดับหนึ่ง และหากได้คนเก่งเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศมากขึ้น

"ถ้ามองในเชิงผลกระทบต่อธุรกิจคงมีแน่ แต่คิดว่าเป็นช่วงสั้นไม่เกิน 15 วัน เพราะทุกวันนี้สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีนัก ไม่แน่ว่าเมื่อเกิดการปฏิวัติจากที่วิเคราะห์ว่าธุรกิจคอนกรีตรวมถึงวัสดุก่อสร้างอาจไม่ซบเซานานอย่างที่คิดก็ได้"

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-09-2549 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.