Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
เมดิคอลฮับ-อาหรับทาวน์-ลองสเตย์ เครือข่ายธุรกิจ "หมอบุญ วนาสิน" |
|
ชื่อ "หมอบุญ วนาสิน" ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทราชธานีกรุ๊ป นอกจากจะเป็นที่รู้จักในวงกว้างฐานะนักลงทุนรายใหญ่ และมีพอร์ตธุรกิจอยู่ภายใต้การบริหารที่หลากหลายจนจดจำแทบไม่หวาดไหวแล้ว บางครั้งยังถูกมองว่าเป็นเจ้าแห่งโปรเจ็กต์คนหนึ่งของเมืองไทย เพราะสิ่งที่ "หมอบุญ" คิดและฝันส่วนใหญ่จะต่างไปจากที่หลายคนคิด
อย่างโปรเจ็กต์ล่าสุดที่กำลังจะกลายเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นโครงการออฟฟิศ-คอนโดฯ อาหรับทาวน์ ธุรกิจลองสเตย์รวมทั้งบ้านริมน้ำเจ้าพระยาที่จะมาต่อยอดธุรกิจหลัก คือธุรกิจโรงพยาบาลภายใต้ แบรนด์ "ปิยะเวท" และ "ธนบุรี" ให้เป็นเมดิ คอลฮับที่สมบูรณ์แบบตามโมเดลการทำธุรกิจแบบเครือข่ายที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้
"สังเกตดูธุรกิจที่ผมทำจะเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกับธุรกิจโรงพยาบาลที่เป็นธุรกิจหลักของ กลุ่ม" หมอบุญ วนาสิน เผยถึงหลักคิดในการทำธุรกิจให้เอื้อประโยชน์กันและกัน
หลังพลิกกลยุทธ์ปั้นรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลทั้ง 2 แบรนด์ คือ โรงพยาบาลปิยะเวท และโรงพยาบาลธนบุรี ที่มีอยู่ในเครือกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ ไม่รวมที่อยู่ระหว่างเจรจาและจะเทกโอเวอร์เข้ามาเพิ่มอีก 1-2 แห่งแล้ว ปีนี้ราชธานีกรุ๊ปจะให้น้ำหนักกับธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์มากขึ้นด้วยการวางแผนผุดโครงการใหม่หลายโครงการด้วยกัน คือ
บ้านราชธานีคลองหลวง เฟสใหม่บนพื้นที่ 100 ไร่ ย่านรังสิต-องครักษ์ คลอง 5 รูปแบบเป็นบ้านพร้อมที่ดิน ราคาไม่เกิน 3 บาท เจาะกลุ่มลูกค้าคณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต และคนทำงานในนิคมอุตสาหกรรมย่านนั้น ส่วนบริเวณใกล้เคียงกันซึ่งมีที่ดินอยู่อีก 82 ไร่ จะมีการพัฒนาอีกโครงการแต่เน้นกลุ่มเป้าหมายในระดับสูงขึ้นไปอีกนิด
โครงการที่พักอาศัยแบบพำนักระยะยาวหรือลองสเตย์ บนพื้นที่ 1,000 กว่าไร่ ก.ม.82 ถนนเพชรเกษม ในจังหวัดราชบุรี รูปแบบบ้านเป็นบ้านชั้นเดียวราคาล้านกว่าบาท มูลค่าการลงทุนทั้งโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่เฟสแรกจะพัฒนาก่อนประมาณ 100 ไร่ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าคนไทยวัยสูงอายุ ตามแผนที่นี่จะมีบริการพยาบาลให้การดูแลพร้อมสรรพ จากนั้นจะทยอยขยายการพัฒนาเฟสอื่นๆ ต่อเนื่อง
อีกโครงการเป็นโปรเจ็กต์บ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนเนื้อที่ 130 กว่าไร่ แถบจังหวัดปทุมธานี โดยโครงการนี้ร่วมทุนกับพันธมิตรพัฒนาขึ้นสำหรับรองรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กลุ่มไฮเอนด์ทั้งไทยและต่างชาติที่ต้องการอยู่อาศัยในบ้านริมน้ำ หรือต้องการพักฟื้นหลังออกจากโรงพยาบาล รูปแบบบ้านเป็นบ้านริมน้ำ ราคาขายเริ่มต้นที่ 40-50 ล้านบาท และบางส่วนจะกันไว้สำหรับปล่อยเช่าด้วย อัตราค่าเช่า 20,000 บาท/วัน
จุดขายนอกจากจะเป็นบ้านริมน้ำแล้ว ทุกหลังจะมีคลองแยกเข้ามาถึงตัวบ้าน สามารถจอดเรือได้ นอกจากนี้จะมีคอนโดฯโลว์ไรส์รองรับลูกค้าอีกส่วนหนึ่งด้วย แต่จะอยู่คนละส่วนกับบ้านราคาแพงที่เจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์
ไม่เฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเท่านั้น ปีนี้กลุ่มราชธานีกรุ๊ปจะร่วมแจมตลาดโครงการแนวสูงด้วย ขณะนี้การออกแบบและวางคอนเซ็ปต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะลงมือก่อสร้างภายใน 1-2 เดือนนี้ รูปแบบจะมีทั้งคอนโดฯ ออฟฟิศบิวดิ้ง และช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ ฯลฯ โดยในส่วนของคอนโดฯลูกค้าเป้าหมายจะเป็นชาวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ "หมอบุญ" ทั้งจากจีน ไต้หวัน
ย่านพระราม 9 ราชธานีกรุ๊ปยังมีที่ดินอีก 30 ไร่เศษ ตามแผนจะนำที่ดินไปรวมแปลงกับที่ดินของพันธมิตร คือ "บุญนำ บุญนำทรัพย์" เจ้าพ่อวงการธุรกิจสิ่งทอไทยอีก 30 ไร่ จะพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับกลุ่ม "บุญนำทรัพย์" เกี่ยวกับคอนเซ็ปต์และรูปแบบโครงการที่จะดำเนินการ เพราะมองว่าในอนาคตทำเลพระราม 9 จะเป็นเมนโรดเชื่อมโครงการแอร์พอร์ตลิงก์สู่สนามบินสุวรรณภูมิ
สำหรับโปรเจ็กต์ไฮไลต์ที่เป็นอีกหนึ่งความฝันของ "หมอบุญ" คือ "อาหรับทาวน์" บนที่ดิน 50 ไร่ ด้านหลังโรงพยาบาลปิยะเวท พระราม 9 ที่จะร่วมทุนกับนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เนรมิตที่ดินผืนงามให้เป็นคอมิวนิตี้รองรับทาร์เก็ตกรุ๊ปที่เป็นกลุ่มลูกค้าระดับบนจากประเทศตะวันออกกลาง เป้าหมายหลัก คือ กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์
ภายในโครงการจะมีที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน ร้านค้า แหล่งสันทนาการ รวมทั้งสุเหร่า มูลค่าการพัฒนารวมเบ็ดเสร็จประมาณ 10,000 ล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่รองรับลูกค้าชาวตะวันออกกลางได้สมบูรณ์แบบ และ "อาหรับทาวน์" ถือเป็นโครงการแรกในโลกก็ว่าได้ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าชาวตะวัน ออกกลางโดยเฉพาะและมีทุกอย่างครบวงจร
เนื่องจากนักธุรกิจนักลงทุนสนใจจะเข้ามาลงทุนแถบเอเชียมากขึ้น ไม่ใช่เข้ามาเพียงแค่พักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น สำหรับโครงการนี้จะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นไม่เกินปลายปีนี้แน่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบในรายละเอียด
"ผมทำธุรกิจส่วนใหญ่จะเน้นเจาะตลาดนิช มาร์เก็ต และมุ่งไปที่ลูกค้าชาวต่างชาติเป็นหลัก ส่วนตลาดในประเทศไม่ใช่ไม่สนใจแต่เห็นว่าแข่งขันกันเยอะและมีกำไรน้อยไม่ค่อยเน้น" หมอบุญกล่าวและว่า
ปัจจุบันราชธานีกรุ๊ปมีที่ดินอยู่ในมือพอสมควร ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด อย่างที่เชียงใหม่ ภูเก็ต พังงา รวมทั้งที่เกาะสมุยคือโครงการเดอะพีกที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังขณะนี้ ซึ่งที่ดินบางส่วนเท่านั้นที่มีปัญหาและอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของทางการ ส่วนภูเก็ตก็มีโครงการบ้านจัดสรร บ้านพักตากอากาศ ซึ่งกลุ่มลูกค้ามีทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งคนในพื้นที่โดยเฉพาะภูเก็ตและพังงานั้นราชธานีกรุ๊ปยังมีที่ดินรอการพัฒนาอีกหลายพันไร่
นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มนี้ยังมีธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเวลานี้มีงานใหญ่ในมือคือการก่อสร้างบ้านเอื้ออาทรปีละประมาณ 10,000 ยูนิต ร่วมทั้งงานโครงการสาธารณูปโภคที่อาจจะจับมือกับพันธมิตรต่างชาติร่วมประมูลธุรกิจลอจิสติกที่ร่วมทุนกับกลุ่มพันธมิตร บนที่ดิน 350 ไร่ บริเวณ ก.ม.19 ถนนบางนา-ตราด เพื่อรองรับสนามบินสุวรรณภูมิ ธุรกิจอสังหาฯ โรงพยาบาล และอุตสาหกรรมในต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ร่วมทุนกับนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในจีน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายความฝันที่ "หมอบุญ วนาสิน" ต้องการจะทำให้เป็นจริง
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 24-08-2549
|
|
|
|
|