|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| โพลหนุนรถไฟฟ้า "สายสีแดง" คนใช้รถเก๋งประหยัดทันที 37% |
|
เมื่อเดือนเมษายน 2549 ที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร (สนข.) ได้จัดทำแบบสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อรถไฟฟ้า 10 สายทาง จำนวน 5 แสนชุด แจกตามแนวเส้นทางรถเมล์ ทางด่วน สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และใต้ดิน
วัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความต้องการที่แท้จริงของประชาชนที่ใช้บริการต่อรถไฟฟ้าว่ามีมากน้อยแค่ไหน เพื่อนำมาประมวลผลในการลงทุนต่อไปในอนาคต
ผลลัพธ์คือได้รับการตอบกลับมาจำนวนทั้งสิ้น 21,487 ชุด จากที่แจกไป 5 แสนชุด
จากการประมวลผลแบบสอบถามที่ตอบกลับมาทั้งหมด เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 ที่ผ่านมา
โดยแบ่งเป็นประเด็นสำคัญ 5 ประเด็น คือ ระยะเวลาในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ราคาค่าโดยสาร ราคาตั๋ววัน และลำดับเส้นทางรถไฟฟ้าที่ควรเร่งดำเนินการ
ซึ่งในการทำแบบสอบถามครั้งนี้ สนข.ได้จำแนก "ผู้เดินทาง" ออกเป็นประเภทต่างๆ จากจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 21,487 ชุด ผลปรากฏว่าเป็นผู้เดินทางโดยรถโดยสารประจำทางมากที่สุด 50% รถยนต์ 18% รถไฟฟ้า 18% และรถไฟ 3%
จากตรงนี้ ทำให้สามารถประเมินได้ว่า โดยรวมแล้วผู้ที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และมีการกระจายตัวตามพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึง จึงสามารถใช้เป็นตัวแทนของกลุ่มตัวอย่างได้อย่างเหมาะสม
ส่วน "ระยะเวลาการเดินทาง" ในปัจจุบัน ของผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 73% ใช้เวลา ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งนี้ การเดินทางไม่ว่าจะเป็นโดยรถยนต์ รถไฟ รถไฟฟ้า รถประจำทาง ฯลฯ ใช้เวลาใกล้เคียงกัน เนื่องจากการเดินทางทุกรูปแบบมีส่วนประสานสัมพันธ์ส่งผลกระทบถึงกันทั้งโครงข่าย อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่าการใช้ระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้า) มีแนวโน้มที่จะลดเวลาที่ใช้ในการเดินทาง
ประเด็น "ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเดินทาง" ต่อวัน เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย ได้ดังนี้ ค่าใช้จ่ายสูงสุดคือ รถยนต์ 132 บาท รถไฟ 114 บาท รถไฟฟ้า 83 บาท รถประจำทางหรือรถเมล์ 68 บาท อื่นๆ 97 บาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น โพลยังบอกด้วยว่า ถ้าหากผู้ใช้รถยนต์เปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ จะทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 37% และหากผู้ใช้รถประจำทางเปลี่ยนมาใช้ระบบ ขนส่งมวลชนหรือรถไฟฟ้า จะทำให้มีค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น 22% ซึ่งจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเฉลี่ย 83 บาทต่อวัน
ที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็น "ราคาค่าโดยสาร" คือ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากเห็นว่า ค่าโดยสารเริ่มต้นที่เหมาะสม ควรจะเป็นราคา 10-15 บาท ซึ่งผู้ที่ใช้รถไฟอยู่ในปัจจุบันยินดีจ่ายค่าโดยสาร ในราคาที่สูงกว่าผู้ที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะแบบอื่น เพื่อให้ได้มาซึ่งการเดินทางที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
สำหรับค่าโดยสารสูงสุด ผู้โดยสารส่วนใหญ่มีความเห็นใกล้เคียงกันว่าควรจะอยู่ที่ 25-35 บาท และ "ราคาตั๋ววัน" ที่เหมาะสมควรจะตั้งราคา อยู่ที่ 62 บาท
ไฮไลต์ของแบบสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้บริการ ยังรวมถึง "การเรียงลำดับการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้า" ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนมากเห็นว่า ควรสร้าง 5 อันดับแรก
คือ สายสีแดงเข้ม (รังสิต-มหาชัย) สายสีแดงอ่อน (ตลิ่งชัน-สนามบินสุวรรณภูมิ) สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สายสีน้ำเงิน (บางซื่อท่าพระและหัวลำโพง-บางแค) และสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) และต้องการให้เร่งก่อสร้าง (ตอกเสาเข็ม) ระบบรถไฟฟ้าทั้ง 10 สาย ภายในปี 2550 ที่จะถึงนี้
โดย 69% เห็นว่าควรให้แล้วเสร็จในปี 2555 และอีก 24% เห็นควรให้แล้วเสร็จในปี 2560
ดูเหมือนความต้องการของคนกรุงเทพฯ กำลังจะเป็นจริง เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติ อนุมัติก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า 3 สายทางนำร่องไปก่อน
โดยเป็นของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จำนวน 2 สายทาง
คือ สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และ ช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 103,136 ล้านบาท และของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จำนวน 1 สายทาง คือ สายสีแดง ช่วงพญาไท-บางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 32 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 40,670 ล้านบาท
ขณะที่ นายไมตรี ศรีนราวัฒน์ ผู้อำนวยการ สนข. กล่าวว่า รถไฟฟ้าทั้ง 3 สายทางจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี หรือเปิดให้บริการได้ในปี 2553 ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการเปิดประกวดราคา ซึ่งจะประกาศเชิญชวนให้ผู้รับเหมาที่สนใจเข้ามาประมูลภายในสิงหาคมนี้
หลังจากนั้นจะพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น (พีคิว) และเปิดขายแบบได้ในช่วงต้นเดือนกันยายน และให้ผู้สนใจเข้ามายื่นเอกสารประกวดราคาปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้น เดือนธันวาคม คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณต้นปี 2550
ถ้าไม่มีอะไรพลิก ทำให้โครงการสะดุดไปเสียก่อน...
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 07-08-2549
|
|
|
|
|
