Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ สะท้อนปัญหาพัฒนา "สุวรรณภูมิ" |
|
กำหนดการเปิดใช้สนามบิน "สุวรรณภูมิ" สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ยิ่งใกล้เข้ามา ก็ยิ่งทำให้เจ้าของที่ดินรวมทั้งนักธุรกิจ นักลงทุนที่เข้าไปจับจองพื้นที่ทำเลทองแห่งใหม่มีความหวังมากขึ้นเท่านั้น แต่ฝันจะกลายเป็นจริงหรือไม่เวลาคงเป็นเครื่องพิสูจน์
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่ามกลางความคาดหวังของหลายๆ คน ส่วนหนึ่งก็ยังมีความวิตกกังวลซ่อนอยู่เพราะที่ดินที่ถูกมองว่าเป็นทำเลทองในเวลานี้มีข้อมูลการศึกษาสำรวจทางวิชาการหลายสำนักระบุตรงกันว่า สภาพเนื้อดินมีลักษณะพิเศษและมีข้อด้อยในเชิงคุณภาพแตกต่างจากดินในทำเลอื่นทั่วไปที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และ ปริมณฑล การเข้าไปพัฒนาหรือลงทุนโครงการต่างๆ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
"ผศ.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์" อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้างใต้ดินติดอันดับต้นๆ ของ เมืองไทยที่ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาให้กับงานหลายๆ โครงการในสนามบินสุวรรณภูมิ และโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินให้ข้อมูลในเชิงวิชาการ ข้อคิด ข้อแนะนำเกี่ยวกับสภาพที่ดินและแนวทางในการพัฒนาพื้นที่บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ และพื้นที่ใกล้เคียง
- มุมมองเกี่ยวกับแนวคิดจัดตั้งสุวรรณภูมิมหานคร
ถ้าในแง่ของการจัดรูปแบบองค์กรการปกครองก็คิดว่าเหมาะสม เพราะปัจจุบันพื้นที่สุวรรณภูมิองค์กรปกครองท้องถิ่นหลายรูปแบบดูแลอยู่ เพราะถ้าสนามบินเปิดให้บริการ มีชุมชน มีคนเคลื่อนย้ายเข้ามา การบริหารจัดการจะต้องมีความเป็นเอกภาพ แต่เมื่อจัดตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบใหม่เข้ามาดูแลจะต้องไม่เน้นในเรื่องของการพัฒนาเพียงอย่างเดียว
ที่ต้องทำควบคู่ไปด้วย คือ การป้องกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาจราจร ปัญหาขยะ นอกจากนั้นจะต้องคิดถึงชุมชนหรือคนที่อาศัยอยู่เดิมด้วย ไม่ใช่ให้ความสำคัญเฉพาะด้านเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะปัญหาการจราจรขณะนี้คนในชุมชนรวมทั้งนิสิต อาจารย์ในเทคโนโลยีลาดกระบังฯกังวลมากเพราะดูเหมือนภาครัฐยังไม่มีมาตรการรองรับมากนัก
ในแง่ของการพัฒนาก็เช่นเดียวกัน อย่าลืมว่าพื้นที่สุวรรณภูมิบางส่วนเป็นพื้นที่รับน้ำ และสภาพโดยทั่วไปเป็นดินโคลน การก่อสร้างอาคาร การพัฒนาโครงการจึงต้องใช้หลักวิชาการ ใช้เทคนิคการก่อสร้างเข้ามาช่วยอย่างมาก
- สภาพดินในสุวรรณภูมิเป็นอย่างไร
พูดถึงตัวพื้นที่จะเห็นว่าอยู่ห่างจากอ่าวไทยไม่เท่าไร ดินไม่ได้มีการทับถมมานานมากนัก และไม่เคยมีการพัฒนาหรือมีการถมมาก่อน ทำให้สภาพดินยังเป็นธรรมชาติมากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นที่นา หนองน้ำ ที่มีน้ำขัง หรือทางน้ำ ต่างจากดินในเขตเมืองหรือในกรุงเทพฯที่ดินมีการถมซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทำให้เนื้อดินมีคุณภาพดี รับน้ำหนักได้มากกว่า
สำหรับสุวรรณภูมิและพื้นที่ใกล้เคียง มีข้อมูลจากการศึกษาจำนวนมากระบุชัดเจนว่าเป็นดินโคลน จากหน้าดินลึกลงไป 15 เมตรเป็นดินเหนียวอ่อนมาก จาก 15-12 เมตรเป็นดินเหนียวแข็ง ถัดจาก 25 เมตรลงไปจึงเป็นดินทราย เทียบกับดินกรุงเทพฯแล้วคุณสมบัติในเชิงวิศวกรรมของดินที่นี่แย่กว่าประมาณ 40%
- การรับน้ำหนักรับได้น้อยกว่าดินกรุงเทพฯ
เท่าที่มีการศึกษาสำรวจ รวมทั้งลงพื้นที่คิดว่าเป็นอย่างนั้น เช่น อาคาร 3-4 ชั้นเหมือนกัน กรุงเทพฯใช้เข็ม 21 เมตร สุวรรณภูมิต้องใช้เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 50%
- พัฒนาโครงการขนาดใหญ่ได้หรือเปล่า
ในทางวิศวกรรมทำได้ สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด และไม่ได้เป็นเรื่องยากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้วิธีปรับปรุงดิน หรือใช้เข็มเจาะให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ความยาวมากขึ้น เพราะสภาพดินสุวรรณภูมิซึ่งครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯบางส่วน รวมทั้งบางพลี บางเสาธง และบริเวณใกล้เคียงมีความอ่อนตัวมาก รับน้ำหนักได้น้อย การทรุดตัวมีมาก
โดยเฉพาะบริเวณบางพลี บางบ่อ ส่วนลาดกระบัง ประเวศอาจพัฒนาได้มากกว่าบางพลี บางเสาธง แต่ปัจจุบันมีโครงการต่างๆ เข้าไปมากแล้ว
- พัฒนาได้แต่ต้องลงทุนเพิ่ม
ใช่ครับ โดยเฉพาะในส่วนของฐานรากหรือโครงสร้างใต้ดินต้องลงทุนเพิ่มมากเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น รวมทั้งต้องมีการปรับปรุงดินโดยใช้วิธีนำดินที่มีคุณภาพหรือดินแข็งมาถมซ้ำๆ แล้วบดอัดให้แน่น ถ้าเอาดินร่วนดินเลนที่อ่อนตัวเหมือนๆ กันมาถม ตัวมันเองก็จะเป็นปัญหาด้วย วิธีบดอัดก็จะต้องอัดโดยใช้แรงอัดที่มีน้ำหนักมากกว่าน้ำหนักที่จะต้องรับในอนาคต ถ้าน้อยกว่าดินก็จะมีการทรุดตัวต่ออีก
- ปรับปรุงดินแล้วพัฒนาได้เลยหรือเปล่า
ปกติควรปล่อยทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 2 ปีเพื่อให้ดินมีการทรุดตัว เพราะเวลาที่ล่วงเลยไป 2 ปีจะทำให้สภาพดินดีขึ้น รับน้ำหนักได้มากขึ้น และมีการทรุดตัวน้อยลง
- แสดงความต้องการวางแผนระยะยาว
น่าจะมีการวางแผนการล่วงหน้า ไม่ใช่ซื้อที่ดินมาแล้วปรับปรุงโดยการถมแล้วพัฒนาทันที ถ้าทำอย่างนั้นมีปัญหาแน่ มีตัวอย่างให้เห็นในโครงการบ้านจัดสรรหลายๆ แห่ง อาคารพาณิชย์ ตึกแถวก็มี เวลาล่วงเลยไปไม่นานก็มีการทรุดตัว ใครจะเข้ามาพัฒนาโครงการจึงน่าจะวางแผนล่วงหน้าปี 2 ปี จากนั้นหาซื้อที่ ปรับปรุงดินแล้วค่อยลงมือพัฒนาโครงการ
- ต้องปรับปรุงดิน-เพิ่มฐานรากทั้งโครงการ
ควรจะเป็นอย่างนั้น ถ้าลงเข็มเฉพาะตัวอาคาร รั้วบ้าน ที่จอดรถก็จะทรุด ถนน ทางเท้า เสาไฟฟ้าก็จะทรุดตัว
- ต้องจ่ายค่าต้นทุนพัฒนาเพิ่มขึ้น
ค่าก่อสร้าง ลงเข็ม ปรับปรุงดิน จะเพิ่มขึ้นจากค่าก่อสร้างรวมไม่ต่ำกว่า 20% แต่ก็ถือว่ายังคุ้มเพราะราคาที่ดินหลายจุดในสุวรรณภูมิยังมีราคาถูก พูดง่ายๆ บวกค่าปรับปรุงสิ่งเหล่านี้เข้าไปแม้ทำให้ต้นทุนแพงขึ้น แต่ก็ทำให้เจ้าของโครงการรวมทั้งผู้ซื้อมีความมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าตัวอาคารหรือบ้านถ้าจะมีการทรุดตัวก็คงทรุดอีกไม่มาก แต่ถ้าซื้อที่ดินมาแพงก็คงไม่คุ้ม
- มีการร้องเรียนบ้านทรุดมากน้อยแค่ไหน
แถวบางพลี บางเสา มีเจ้าของบ้านร้องเรียนเยอะมากโดยผ่านทาง วสท. (วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์) เข้ามาขอคำแนะนำปรึกษาที่คณะวิศวฯ ลาดกระบังก็มี
- แสดงว่าน่าเป็นห่วง
ครับ โดยเฉพาะบ้านจัดสรร เพราะถ้าเจ้าของโครงการไม่ให้ความสำคัญในจุดนี้จะมีปัญหา ตัวอย่างมีให้เห็นอยู่แล้ว การซื้อบ้านจึงควรซื้อในโครงการที่ตัวผู้ประกอบการมีความน่าเชื่อถือหรือที่มั่นใจได้ว่ามีการลงฐานรากบ้าน ถนน รวมทั้งสาธารณูปโภคต่างๆ เพียงพอไม่เกิดปัญหาในอนาคต
ส่วนโครงการความสูง 4-5 ชั้นขึ้นไปที่ไม่ค่อยห่วงเป็นเพราะในการออกแบบ วิศวะ สถาปนิกผู้ออกแบบจะระมัดระวังในจุดนี้อยู่แล้ว เพราะรู้ว่าเป็นพื้นที่พิเศษ สภาพดินไม่เหมือนกับที่อื่นๆ
- แนะนำผู้ประกอบการอย่างไรบ้าง
ต้องวางแผนพัฒนาโครงการล่วงหน้า ศึกษาสภาพดิน หาข้อมูลต่างๆ ให้รอบด้าน นอกจากนี้จะต้องยอมลงทุนในส่วนของเทคนิคการก่อสร้าง และมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลหรือให้คำปรึกษา
- ข้อแนะนำคนซื้อบ้าน
เลือกบ้านที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะได้เห็นตัวบ้าน ต้องติดตามการก่อสร้าง เช่น ไปดูระหว่างก่อสร้าง ดูขนาดเข็มว่าต้องมีขนาดตั้งแต่ 21 เมตรขึ้นไป นอกจากตัวบ้านแล้วที่จอดรถหน้าบ้าน รั้ว ถนน ทางเท้า ฯลฯ ต้องดูด้วยว่าโครงการลงเข็มหรือเปล่า เพราะอาจมีปัญหาทรุดตัว
พื้นที่พัฒนาโครงการก็ต้องสังเกตดูว่าสูงกว่าระดับพื้นดิน ระดับถนนหรือเปล่า เพราะเมื่อดินทรุดตัวถนนอาจสูงกว่าตัวบ้าน ดูระบบระบายน้ำ ขอแบบแปลนก่อสร้างบ้าน เผื่อมีปัญหาหรือมีการต่อเติมจะต้องใช้แบบในการปรับปรุงแก้ไข
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 20-07-2549
|
|
|
|
|