|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
|
|
"โฮมเวิร์ค" วางแผนขยาย 3 แห่ง ประเดิมเปิดบริการสาขาพัทยาเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนอีก 2 สาขาเล็งปักหมุดหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด ชี้ปัจจัยน้ำมัน-ดอกเบี้ยกระทบลูกค้าชะลอซื้อ ครึ่งปีหลังอัดงบฯการตลาดเพิ่ม 20 ล้านบาท โหม 3 แคมเปญ ชูกิจกรรมแรก "ช็อปรับแสตมป์" แลกของรางวัลล่อใจ
นายพงศ์ ศกุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีอาร์ซี เพาเวอร์ รีเทล จำกัด ผู้บริหารศูนย์วัสดุตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน "โฮมเวิร์ค" เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจผันผวนเนื่องจากราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกในกลุ่มโมเดิร์นเทรดวัสดุตกแต่งและซ่อมแซมบ้านรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าชะลอการใช้จ่ายลง และปรับพฤติกรรมเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นเท่านั้น ผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อรับมือการแข่งขันและสร้างแรงกระตุ้นในการตัดสินใจซื้อ
สำหรับโฮมเวิร์ค หลังจากทยอยปรับรูปโฉมใหม่ อาทิ สาขาบางนา พระรามที่ 2 ล่าสุดคือสาขารัตนาธิเบศร์ที่ปรับเปลี่ยนเป็นสแตนด์อะโลนเป็นแห่งแรก ส่งผลให้จำนวนลูกค้าและยอดขายโดยรวมในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20%
สำหรับแผนการใช้งบฯครึ่งปีหลัง บริษัทเพิ่มงบประมาณการตลาดขึ้นอีกจำนวน 20 ล้านบาท จากเดิมตั้งงบฯไว้ทั้งปี 50 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบแคมเปญโปรโมชั่นกระ ตุ้นการขายในช่วงเวลาอีกกว่า 6 เดือนที่เหลือให้มากขึ้น ประเดิมแคมเปญแรกคือ โฮมเวิร์ค ซูเปอร์ มิดเยียร์ เซลล์ ในชื่อ "สแตมป์มหัศจรรย์...รางวัลเหลือเชื่อ : HomeWorks Stamp Rewards" ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-30 สิงหาคมนี้ รวมระยะเวลา 3 เดือน จากนั้นในช่วงเดือนสิงหาคมจะจัดแคมเปญ Anniversary Sales และในเดือนธันวาคมจะจัดแคมเปญ Super Annual Sales
ทั้งนี้แคมเปญสแตมป์มหัศจรรย์จะให้สิทธิลูกค้าที่ซื้อของครบทุก 2,000 บาท รับแสตมป์ 1 ดวง เพื่อใช้แทนเงินสด 20 บาท หรือเลือกสะสมครบตามเป้าเพื่อนำไปแลกรับของรางวัล อาทิ สะสมครบ 50 ดวง แลกฟรีบัตรของขวัญ มูลค่า 2,000 บาท สะสมครบ 100 ดวง แลกฟรี บัตรของขวัญมูลค่า 5,000 บาท สะสมครบ 150 ดวง แลกฟรี ทีวีสี LG 29 นิ้ว มูลค่า 12,900 บาท และรางวัลสูงสุด สะสมครบ 3,500 ดวง แลกฟรีรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน มูลค่า 548,000 บาท
"เฉพาะแคมเปญนี้เราใช้งบฯการตลาด 6 ล้านบาท ตั้งเป้าว่าในช่วง 3 เดือนของการจัดแคมเปญจะช่วยเพิ่มยอดขายเพิ่มขึ้นจากปกติอีก 10% หรือทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท"
ส่วนแผนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในช่วงครึ่งปีหลังยังคงเน้นกลยุทธ์แบบบีโลว์เดอะไลน์ คือสื่อสารโดยตรงถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยพุ่งเป้าไปที่การสื่อสารถึงรูปแบบโปรโมชั่นไปยังลูกค้า เบื้องต้นได้ปรับรูปแบบ ดีไซน์ และข้อความโฆษณาภายในโฮมเวิร์คให้ดูน่าสนใจมากขึ้น พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปเชิญชวนลูกค้ามาร่วมงาน เพื่อสร้างสีสันในเชิงการตลาด
นายพงศ์กล่าวถึงแผนการลงทุนขยายสาขาในปีนี้ว่า สำหรับสาขาพัทยาทำเลติดถนนสุขุมวิท ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าแล้วกว่า 70-80% คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้เดือนสิงหาคมนี้ สาขานี้จะมีพื้นที่ขายรวมกว่า 10,000 ตารางเมตร ถือเป็นสาขาแบบสแตนด์อะโลนแห่งที่ 2 ต่อจากสาขารัตนา ธิเบศร์ โดยจะมีการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เช่าด้วย
นอกจากสาขาพัทยาแล้ว บริษัทได้วางแผนลงทุนขยายสาขาโฮมเวิร์คเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง ในหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัดและเน้นสาขาที่เป็นรูปแบบสแตนด์อะโลน โดยอาศัยการขยายสาขาไปกับพันธมิตร อาทิ บิ๊กซี โลตัส คาร์ฟูร์ คาดว่าจะต้องใช้งบฯลงทุนไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท ส่วนสาขาแบบ ดี.ไอ.วาย.ที่เป็นช็อปสำหรับสินค้าตกแต่งซ่อมแซมยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมในปีนี้
"ถ้าเปรียบเทียบสาขาโฮมเวิร์ค ดี.ไอ.วาย. จะเหมาะกับโลเกชั่นที่มีพื้นที่จำกัดมากกว่า เฉลี่ยไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร เปรียบเทียบแล้วจะคล้ายๆ กับช็อปโลตัสเอ็กซ์เพรสที่ย่อส่วนลงมา แต่ก็ต้องยอมรับว่าในแง่ของการสร้างยอดขายต่อตารางเมตรคงสู้สาขาแบบสแตนด์อะโลนไม่ได้"
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 15-06-2549
|
|
|
|
|
