|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "ทรท." รับเละพลิกเกมรถไฟฟ้า รับเหมา-อสังหาฯไม่เชื่อน้ำยา |
|
ท่ามกลางวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่มีแนวโน้มจะยุติลงได้ง่ายๆ รัฐบาลรักษาการพรรคไทยรักไทยใช้วิธีสร้างคะแนนนิยมด้วยการจุดประกายฝันให้คนกรุงเทพฯ ปริมณฑลอีกครั้ง โดยประกาศจะเร่งรัดก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 3 สายทางคือ สายสีแดง จากสนามบินสุวรรณภูมิ-มักกะสัน-ดอนเมือง-เชียงราก สายสีน้ำเงินจากบางซื่อ-ท่าพระ หัวลำโพง-บางแค และสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ รวมมูลค่านับแสนล้านบาท
โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 ที่ผ่านมา มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบคือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เดินหน้าเปิดประกวดราคาโครงการดังกล่าว เป้าหมายก็เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมให้กระเตื้องขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการแก้ปัญหาและหาการขาดแคลนงานของผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ปลุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑลที่ชะลอตัวมาระยะหนึ่งแล้วให้คึกคักขึ้น
"เพ้ง" ประกวดราคารถไฟฟ้า 3 สาย
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า โครงการรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายทางเป็นโครงการที่ได้รับการจัดสรร งบประมาณปี 2549 อยู่แล้ว อีกทั้งยังมีการออกแบบรายละเอียดไว้เรียบร้อยหมดแล้ว จึงไม่มีปัญหาที่จะเร่งรัดดำเนินการเปิดประกวดราคา แม้รัฐบาลชุดนี้จะเป็นรัฐบาลรักษาการ ที่สำคัญไม่เป็นการเสียมารยาทที่จะเปิดประมูลก่อสร้าง เพราะโครงการมีงบประมาณอยู่แล้วไม่ได้มีการขออนุมัติงบประมาณใหม่
อย่างไรก็ตาม รมว.คมนาคมย้ำว่าจะพยายามทำให้ทุกอย่างแล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้ แต่ถ้าไม่เป็นไปตามแผนจะต้องเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่มาดำเนินการต่อไป
ขณะที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ก็ออกมาขานรับนโยบายที่จะดึงรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายมาดำเนินการแยกออกจากโครงการเมกะโปรเจ็กต์ที่สะดุดลงกะทันหันหลังมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจนทำให้แผนดึงพันธมิตรต่างชาติเข้ามาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่หลากหลายสาขา ภายใต้โครงการ "โมเดิร์นไนเซชั่น ไทยแลนด์" ที่ภาครัฐเตรียมการไว้ต้องหยุดเดินหน้าลงกลางคัน
สายสีม่วงเปิดหวูดก่อน
นายไมตรี ศรีนราวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 เดือนในการเตรียมการทั้งหมด จากนั้นจะจัดทำทีโออาร์และเปิดประกวดราคา ซึ่งทั้ง 3 สายทางนี้จะประกาศทีโออาร์พร้อมๆ กัน แต่การเปิดใช้บริการอาจจะไม่พร้อมกัน เพราะบางสายต้องใช้เวลานาน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแบบและเวลาที่จะใช้ในการก่อสร้าง
คาดว่าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่จะเริ่มก่อสร้างได้ก่อน เนื่องจากมีความพร้อมมากที่สุด โดยรถไฟฟ้าสายนี้ใช้งบฯลงทุนประมาณ 46,599 ล้านบาท
สำหรับมูลค่าการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งจะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ไปเชียงราก อยู่ในระดับประมาณ 71,847 ล้านบาท ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินงบประมาณในการก่อสร้างตกประมาณ 74,579 ล้านบาท
รับเหมาไม่เชื่อน้ำยา
นายวัลลภ รุ่งกิจวรเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทพร้อมจะเข้าประมูลงานโครงการนี้เพราะเตรียมการมานานแล้ว มีความพร้อมอยู่แล้ว แต่อยากดูหลักเกณฑ์ วิธีการ และรายละเอียดให้แน่ชัดก่อน เพราะแม้รัฐบาลจะมีนโยบายเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายนี้ก่อน แต่ยังไม่ค่อยมั่นใจว่ารัฐบาลจะผลักดันให้เป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหน เพราะพูดมาหลายหนแล้วเรื่องนี้ ในส่วนของบริษัท ตอนนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ขอรอดูความชัดเจนก่อน
"ตอนนี้บริษัทมีงานอยู่ในมือจำนวนมากมูลค่า 38,000 ล้านบาท ปีนี้จะรับรู้รายได้ 15,000 ล้านบาท ที่เหลืออีก 23,000 ล้านบาทเป็นงานที่เพียงพอในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ถามว่าโครงการจะเกิดมั้ย เกิดแต่ไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไร และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แน่นอน ในส่วนของผู้รับเหมาไม่แน่ใจว่าจะช่วยได้มากแค่ไหน เพราะดูแล้วการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าต้องเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ๆ และมีประสบการณ์มาก่อน"
ที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องของค่าก่อสร้าง เพราะราคาที่ประเมินไว้นั้นนานแล้ว ปัจจุบันราคาน้ำมันแพงขึ้น ต้นทุนค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น ไม่รู้ว่ารัฐบาลประเมินในจุดนี้ด้วยหรือเปล่า เพราะถ้าคำนวณแบบดูแล้วรับราคาไม่ไหวก็ไม่อยากฝืน เหมือนกับโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงค์ที่ราคาตึงมาก
เช่นเดียวกันกับความเห็นของ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่บอกว่า บริษัทกำลังดูอยู่แต่ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรมาก ขอดูท่าทีรัฐบาลก่อนเพราะไม่ค่อยแน่ใจนโยบายว่าจะทำจริงจังแค่ไหน ยังไงบริษัทเข้าร่วมประมูลแน่นอน ซึ่งเราเตรียมตัวตั้งแต่ที่บรรจุไว้เป็นโครงการเมกะโปรเจ็กต์แล้ว โดยจะร่วมกับบริษัทซิติกจากประเทศจีน อย่างไรก็ตามคาดว่าถ้ามีการเปิดประมูลจะช่วยผู้รับเหมาให้มีโอกาสรับงานได้มากขึ้นทั้งรายกลางและรายใหญ่ๆ
อสังหาฯฟันธงต้องรอรัฐบาลใหม่
สำหรับความเคลื่อนไหวของวงการอสังหาฯ นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็น "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ถ้าโครงการรถไฟฟ้าเกิดขึ้นจริงในระยะยาวจะเป็นผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯและภาพเศรษฐกิจโดยรวมทั้งระบบ แต่คิดว่ากว่าโครงการจะเป็นรูปธรรมคงต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลรักษาการ การอนุมัติงบฯจำนวนมากๆ คงทำไม่ได้
ที่ทำล่วงหน้าได้คงเป็นเรื่องการจัดเตรียมเอกสารหรือรายละเอียดต่างๆ มากกว่า จากนั้นเมื่อรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาก็สามารถสานต่อโครงการได้เร็ว
"ผมว่าอย่างเร็วการฟอร์ม ครม.ชุดใหม่เสร็จเรียบร้อยคงประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีนี้ ถึงตอนนั้นจะเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าอย่างไร คงชัดเจนขึ้น"
ด้าน นายทรงยศ เอื้อวัฒนา กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เค.ที.แลนด์ จำกัด เจ้าของโครงการนนท์ณิชา ทำเลรัตนาธิเบศร์เชิงสะพานพระนั่งเกล้า เปิดเผยว่า ช่วงที่รัฐบาลประกาศจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ลูกค้าจำนวนมากให้ความสนใจบ้านจัดสรรในทำเลรัตนาธิเบศร์ เมืองนนท์ ถนนราชพฤกษ์ บางบัวทอง แสดงว่ารถไฟฟ้าช่วยปลุกกระแสตลาดบ้านในย่านนี้ได้อย่างมาก ขณะเดียวกันผู้ประกอบการทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าก็เข้ามาพัฒนาโครงการมากขึ้นด้วย เมื่อโครงการถูกชะลอไปความคึกคักทั้งตลาดและการลงทุนก็ลดลงไปด้วย หากภาครัฐจะเร่งดำเนินการโครงการนี้ใหม่เชื่อว่าจะส่งผลดีแน่แต่คงต้องรอดูว่าโครงการจะเกิดขึ้นเร็วและเป็นไปตามที่รัฐวางแผนไว้หรือไม่
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 29-05-2549
|
|
|
|
|
