| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 58 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 25-05-2549    อ่าน 12416
 ไซต์โครงการเหงาลูกค้าลด30% จัดสรรกัดฟันสู้พิษน้ำมัน-ดอกเบี้ย

พิษน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย สถานการณ์ทางการเมืองกระทบชิ่งตลาดบ้านอย่างจัง โครงการหงอย เผยจำนวนลูกค้าแวะเข้าเยี่ยมชมลดลงจากเดิม 20-30% แถมใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้น ดีเวลอปเปอร์กัดฟันสู้มรสุมปัจจัยลบที่รุมกระหน่ำ แต่ใจชื้น 4 เดือนแรกปีนี้ยอดขายยังไม่หลุดเป้า ลุ้นการเมืองนิ่งดึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับคืน เร่งอัดโปรโมชั่นดึงลูกค้าผ่าทางตันตลาด

ปัจจัยลบ ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอน ส่งผลกระทบต่อตลาดบ้านโดยรวมอย่างต่อเนื่อง แม้ผู้บริโภคบางส่วนยังมีความต้องการซื้อบ้าน เห็นได้จากช่วงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ปริมาณลูกค้าที่แวะเข้าเยี่ยมชมไซต์โครงการโดยรวมมีแนวโน้มลดลง ขณะเดียวกันลูกค้าจำนวนมากใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับแผนรับด้วยการเน้นทำการตลาดเจาะลึกถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้การแข่งขันในตลาดบ้านในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือในปีนี้น่าจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ

คนซื้อบ้านผวาปัจจัยลบรุม

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ให้ความเห็น "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ต้องยอมรับว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนรู้สึกวิตกกังวล และระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินมากขึ้น แม้แต่กลุ่มที่ต้องการซื้อบ้านก็ใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้น ผลคือตลาดอสังหาฯโดยรวมชะลอตัวลง ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอมและเริ่มเข้าสู่หน้าฝน ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกค้าแวะเข้าเยี่ยมชมโครงการน้อยกว่าช่วงปกติอยู่แล้ว ทำให้ไซต์โครงการแต่ละแห่งเงียบลงอีก อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่มีความพร้อมและต้องการซื้อบ้านยังมีอีกจำนวนมาก เพียงแต่ผู้ประกอบการจะต้องทำการตลาด หรือจัดโปรโมชั่นเพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อ พร้อมๆ กับระมัดระวังในการก่อสร้าง และศึกษาตลาดให้ละเอียดมากขึ้น

"เรื่องนี้เคยมีการหยิบยกขึ้นหารือในที่ประชุมกรรมการสมาคมอสังหาฯ แต่เนื่องจากมีหลายปัจจัยเป็นปัจจัยภายนอกที่เราไม่สามารถควบคุมได้ อย่างเช่น ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย จึงทำได้เพียงแค่คอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพยายามปรับแผนรับให้ทันต่อสถานการณ์"

ทั้งนี้ นอกจากปัจจัยน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยแล้ว ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นเวลานี้รวมทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจก็มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ผู้บริโภคมีความหวาดวิตก และชะลอการตัดสินใจซื้อบ้านออกไป โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้ประจำจากเงินเดือนจะค่อนข้างอ่อนไหวเป็นพิเศษ ถ้าหากไม่มั่นใจในเรื่องรายได้ก็จะชะลอตัดสินใจออกไปเลย ทำให้กำลังซื้อของลูกค้ากลุ่มนี้หายไปบางส่วน จึงอยากให้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นจบลงโดยเร็ว จากนั้นหากภาครัฐมีมาตรการออกมากระตุ้นตลาด หรือทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจมากขึ้น ตลาดบ้านในภาพรวมก็น่าจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

นายสมเชาว์กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าตลาดบ้านในขณะนี้ดีมานด์และซัพพลายอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน ทำให้การแข่งขันไม่เกิดขึ้นรุนแรงมากนัก และการแข่งขันในเรื่องของราคาคงไม่มีให้เห็น เช่นเดียวกับที่สภาพโอเวอร์ซัพพลายก็คงจะไม่เกิด เพียงแต่ผู้บริโภคบางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป ขณะที่การแวะเข้าเยี่ยมชมไซต์โครงการก็มีปริมาณลดลง อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่สถานการณ์ต่างๆ ชัดเจนขึ้น ลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านก็จะกล้าตัดสินใจและทำให้ตลาดบ้านในภาพรวมดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้

เยี่ยมไซต์โครงการยอดหด 30%

นางธัญญา สิริปูชกะ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ในแง่ของปริมาณลูกค้าที่แวะเยี่ยมชมโครงการมีจำนวนลดลงประมาณ 30% เมื่อเทียบกับช่วงปลายปีก่อน โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมชัดเจนว่าดรอปลง สาเหตุน่าจะมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจากราคาน้ำมัน ดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะไซต์งานโครงการสิรีนเฮ้าส์ และชวนชื่นบางนา ก.ม.29 ที่อยู่ค่อนข้างไกลออกไปจากตัวเมือง ปริมาณลูกค้าที่แวะชมลดลงมากกว่าโครงการที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯชั้นใน

"เป็นไปได้ว่าน้ำมันแพงก็มีส่วนทำให้ลูกค้าแวะชมโครงการลดลง คือตอนนี้ถ้าไม่ใช่คนที่พร้อมจะซื้อบ้านภายใน 3 เดือน ก็คงพักไว้ก่อน จากเดิมอาจจะตั้งใจแวะเข้าไปขอโบรชัวร์รายละเอียดไว้"

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่เปิดขายอยู่ประมาณ 10 กว่าโปรเจ็กต์ เฉลี่ยมีลูกค้าเข้าชมเดือนละ 50-80 คนต่อไซต์ต่อเดือน ลดลงจากช่วงปลายปีก่อนที่มีคนเข้าชมประมาณ 80-100 คนเศษต่อไซต์ต่อเดือน และในภาพรวมเป็นเหมือนกันหมดทุกโครงการไม่ใช่เฉพาะโครงการบ้านระดับราคาแพงเท่านั้น ในช่วงนี้จึงพยายามลงสื่อโฆษณาและออกบูทแนะนำโครงการเพื่อสื่อสารกับลูกค้าให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทประเมินว่าในช่วงปลายครึ่งปีหลังสถานการณ์น่าจะดีขึ้นหรืออย่างน้อยก็ไม่น่าจะแย่ไปกว่านี้ เพราะขณะนี้ถือได้ว่าผ่านจุดวิกฤตมาแล้ว เห็นได้จากในเดือนพฤษภาคมกำลังซื้อเริ่มกลับมา ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังถ้าสถานการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดการณ์ก็อาจจะมีการทำแคมเปญแรงๆ ออกมาเพื่อกระตุ้นกำลังซื้ออีกครั้ง

4 เดือนแรกยอดขายยังตรงเป้า

นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวในทำนองเดียวกันว่า ในแง่ของปริมาณลูกค้าที่แวะเยี่ยมชมโครงการในช่วงที่ผ่านมามีจำนวนลดลงประมาณ 10-20% เหตุผลหลักน่าจะมาจาก 2 ส่วน คือ 1)ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และ 2)บริษัทอยู่ระหว่างรอการเปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนมิถุนายนนี้ ทำให้ขณะนี้มีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขายเพียง 3 โครงการ คือ โครงการปริญลักษณ์ และปริญดา พระรามที่ 2 รวมถึงโครงการปริญดาวงแหวน-เทพารักษ์ ซึ่งแต่ละโครงการก็มีบ้านเหลือขายไม่มากประมาณ 20 ยูนิตเศษต่อโครงการเท่านั้น

ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมายอดขายบ้านของปริญสิริยังคงเป็นไปตามเป้า ยกเว้นในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ดรอปลง แต่ขณะนี้ยังคงไม่มีนโยบายปรับเป้ายอดขายจากที่ตั้งไว้ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากได้เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ในเดือนหน้านี้อีก 2-3 โครงการ และน่าจะช่วยให้ปริมาณลูกค้าที่แวะชมโครงการรวมถึงยอดขายบ้านเพิ่มขึ้น

ลูกค้าระดับล่างห่วงอัตราดอกเบี้ยพุ่ง

นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดาเคหะ จำกัด ให้ความเห็นว่า ปัจจัยลบที่เข้ามากระทบตลาดบ้านตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 3-4 ปี 2548 จนถึงต้นปีนี้ทำให้ลูกค้าบางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้อลง โดยเฉพาะบ้านกลุ่มระดับราคา 6-5 ล้านบาทได้รับผลกระทบมาก ส่วนบ้านราคา 1 ล้านกว่าบาทจนถึง 2-3 ล้านบาท และบ้านราคาแพงแม้จะได้รับผลกระทบแต่ไม่มากนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านราคาล้านต้นๆ และ 2-3 ล้านบาทยังมีความต้องการซื้อบ้านอีกมาก ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านราคาแพงซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจหรือประกอบธุรกิจส่วนตัวได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อย

"อย่างบ้านกานดา ริมคลอง ของบริษัท ยังมีลูกค้าแวะเข้าเยี่ยมชมโครงการสม่ำเสมอ เพียงแต่ใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้น เนื่องจากกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น ส่วนกลุ่มที่ซื้อบ้านราคาแพงจะเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและปัญหาการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงมากกว่ากังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ย" นายอิสระกล่าว

ด้านนายทรงยศ เอื้อวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ที.แลนด์ จำกัด เจ้าของโครงการนนท์ ณิชา ย่านรัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า จากที่น้ำมันและอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบทำให้ลูกค้าที่แวะเยี่ยมชมไซต์โครงการลดลงประมาณ 20-30% โดยแนวโน้มดังกล่าวเริ่มมีให้เห็นตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเท่าที่สังเกตดูพบว่าลูกค่าใช้เวลาตัดสินใจซื้อนานขึ้นด้วย สำหรับยอดขายบ้านในส่วนของบริษัทจากเดิมที่มียอดขายเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 5 ยูนิต ก็ลดลงเหลือ 3 ยูนิต ซึ่งจากที่ได้สอบถามโครงการอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงก็พบว่ามีปัญหาคล้ายๆ กัน จึงคิดว่าตลาดบ้านในภาพรวมน่าจะชะลอตัวจากปัจจับลบทั้งราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอนสูง

แสนสิริ-ลลิลฯ สวนกระแส

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จำนวนผู้เข้าชมบ้านตัวอย่างในโครง การของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเติบโตจากไตรมาสแรกปี 2548 ประมาณ 10% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น จะกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีผู้บริโภคบางกลุ่มต้องการซื้อบ้านอยู่อาศัยเป็น ของตนเอง

"ยอมรับว่าเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเหตุการณ์ด้านการเมืองทำให้ตลาดช็อกไปบ้าง แต่ตอนนี้ ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น" นายไชยยันต์กล่าว

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า มีจำนวนลูกค้าเข้าโครงการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการเศรษฐสิริ ประชาชื่น มีลูกค้าเข้าชมบ้านตัวอย่างไม่ต่ำกว่า 400-500 ราย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าเชื่อมั่นใจแบรนด์ของบริษัท ดังนั้น เมื่อเปิดโครงการที่ในทำเลที่ต้องการก็จะให้ความสนใจซื้อ

"ยอดขายบริษัทไปได้ดีมากๆ ประมาณ 50-60 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา เรามียอดขายถึง 150 ล้านบาท" นายเศรษฐากล่าว

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 25-05-2549 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.