Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ม้ามืดดอดเทกฯโปรเจ็กต์หมื่นล้าน ฟื้น"คันทรี่มารีน่า"รับสุวรรณภูมิ |
|
ทุนอสังหาฯ เมืองกรุงฯ รุกเงียบ ควงพันธมิตรต่างชาติดอดเทกโอเวอร์โปรเจ็กต์หมื่นล้าน "คันทรี่ มารีน่า ซิตี้ บางปะกง" จากกลุ่ม "เอเวอร์แลนด์" ส่งทีมรับเหมาะลุยสานต่องานก่อสร้างค้าง ปรับโฉมคอนโดฯ และริเวอร์เฮาส์เฟสแรกจนใกล้เสร็จสมบูรณ์ 100% แล้ว พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "มารีน่า ลากูน สุวรรณภูมิ" หวังบูมรับสนามบินแห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดใช้พอดี
การเคลื่อนย้ายและขยายฐานการลงทุนของกลุ่มทุนทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าเข้าไปลงทุนใน
ทำเลยอดฮิตอย่าง "สุวรรณภูมิ" ที่กำลังบูมรับการเปิดให้บริการของสนามบินแห่งใหม่คือ สนามบินสุวรรณภูมิ ยังเป็นที่สนใจและถูกจับตามองจากหลายฝ่าย ส่งผลให้พื้นที่บริเวณใกล้เคียงทั้งบางนา-ตราด บางปะกง เรื่อยไปจนถึงชลบุรี เมืองพัทยาได้รับอานิสงส์และคึกคักตามไปด้วย
นอกจากโครงการที่อยู่อาศัย ออฟฟิศ อาคารพาณิชย์ ธุรกิจค้าปลีก ฯลฯ ที่เกิดใหม่แล้ว หลายโปรเจ็กต์ที่เคยถูกทิ้งร้างจนกลายเป็นโครงการก่อสร้างค้างตั้งแต่ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจก็กำลังถูกนำกลับมาปัดฝุ่นพัฒนาใหม่อีกครั้ง หนึ่งในจำนวนนั้นคือ โครงการคันทรี่ มารีน่า ซิตี้ ของบริษัท คันทรี่(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่รายหนึ่งของวงการพัฒนาที่ดินในอดีต
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานผลการสำรวจพื้นที่ในทำเลสุวรรณภูมิและบริเวณใกล้เคียง ว่า แม้จะยังไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโครงการนี้ออกมา หลังตระกูล "โลจายะ" ร่วมกับพันธมิตรเข้าลงทุนใน บมจ.คันทรีฯ และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อจาก บมจ.คันทรี่ฯ เป็นบมจ.เอเวอร์แลนด์ โดยนำโครงการบ้านเดี่ยว คอนโดฯ หลายโครงการที่ค้างอยู่มาพัฒนาต่อ แต่ล่าสุดพบว่ามีการเข้าไปก่อสร้างและปรับปรุงโครงการดังกล่าวแล้ว และขณะนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้างมากกว่าช่วงก่อนหน้านี้มาก
โดยบริษัทที่เข้าไปดำเนินการคือ บริษัท คิว พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท วัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมีกลุ่มของนายปรัชญา อวัสดานนท์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และต่างจังหวัด ถือหุ้นหลัก ธุรกิจที่กลุ่มนายปรัชญาลงทุนในช่วงที่ผ่านมา อาทิ บ้านจัดสรร โรงแรม บ้านพักตากอากาศ รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น โดยบางส่วนร่วมทุนกับนักลงทุนต่างชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มนายปรัชญา ซื้อโครงการคันทรี่ มารีนา ซิตี้ โครงการจัดสรรขนาด 143 ไร่เศษ ริมแม่น้ำบางปะกง บริเวณ ก.ม. 50 ถนนบางนา-ตราด เข้าไปอยู่ภายใต้การดำเนินการของบริษัท บริษัทคิวพีอาร์ฯ และบริษัท วัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ฯ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2548 โดยตัวเลขวงเงินที่มีการซื้อขายไม่เป็นที่เปิดเผย แต่วงในคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่าหลัก 1 พันล้านบาท ซึ่งหลังการปรับปรุงจะเปลี่ยนชื่อเป็น "มารีน่า ลากูน สุวรรณภูมิ"
โดยซื้อโครงการดังกล่าวมาจาก บมจ.เอเวอร์ แลนด์ หรือ บมจ.คันทรี ฯ เดิม ที่ใช้สิทธิซื้อคืนจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เมื่อปี 2547 จากนั้นจึงให้บริษัทคิวพีอาร์ฯ เป็นผู้ถือโฉนดกรรมสิทธิ์ที่ดินบางส่วน ขณะที่โฉนดที่ดินอีกบางส่วนถือโดยบริษัท วัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ฯ
จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทคิวพีอาร์ฯ จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 8 สิงหาคม 2548 ทุน 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจซื้อ จัดหารับ เช่า เช่าซื้อ ถือกรรมสิทธิ์ ครอบครอง ปรับปรุง และจัดการโดยประการอื่นซึ่งทรัพย์สินใดๆ ผู้มีอำนาจประกอบด้วยนายปรัชญา นางสาวลักษณา จริยวัฒน์สกุล นายโทมัส วู้ด พูลลี่ ขณะที่บริษัท วัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ฯ จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2545 ทุน 550 ล้านบาท เป็นผู้จัดการและดูแลผลประโยชน์เก็บผลประโยชน์และจัดการทรัพย์สินให้บุคคลอื่น พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้มีอำนาจคือนายปรัชญา และนายโทมัส วู้ด พูลลี่
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่าปัจจุบันงานก่อสร้างในโครงการคันทรี่ มารีน่า ซิตี้ คืบหน้าไปมาก คอนโดฯ 2 อาคาร สูง 30 ชั้น เกือบเสร็จสมบูรณ์ แล้ว เหลือเพียงงานตกแต่ง ขณะที่อาคารที่เป็นที่พักอาศัยริเวอร์เฮาส์ ทั้งบ้านเดี่ยว และกรุ๊ปเฮาส์ ก็ใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน
สาเหตุที่นักลงทุนกลุ่มใหม่จะเปลี่ยนชื่อตัวโครงการ จาก "คันทรี่ มารีน่า ซิตี้" เป็น "มารีน่า ลากูน สุวรรณภูมิ" นอกจากจะสอดรับกับการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแล้ว การที่ตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่อยู่ไม่ห่างจากสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ยังถือเป็นจุดขายได้เป็นอย่างดี
ภายใต้คอนเซ็ปต์ของโครงการที่อยู่อาศัยในรูปอนึ่ง โครงการ "คันทรี่ มารีน่า ซิตี้" เดิมพัฒนาขึ้นโดย บมจ.คันทรี ฯ ของนายสดาวุธ เตชะอุบล ในรูปแบบของชุมชนขนาดใหญ่ริมน้ำครบวงจร แบ่งการพัฒนาออกเป็นเฟสๆ อาทิ บ้านริมทะเลสาบ คอนโดฯ ริมน้ำ ริเวอร์วิวคอนโดฯ โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ต เมนต์ คลับเฮาส์ สปอร์ต คอมเพล็กซ์ คอมเมอร์เชี่ยลคอมเพล็กซ์ ฯลฯ มูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในปี 2535 บังเอิญเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้โครงการหยุดชะงัก
ต่อมา บมจ.คันทรี่ฯ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในศาลล้มละลายกลาง และโอนทรัพย์สินให้ บสท. จากนั้นปี 2547 บริษัทได้ใช้สิทธิ์ซื้อโครงการคืนจาก บสท. ซึ่งหลังกลุ่ม "โลจายะ" เข้ามาถือหุ้นใหญ่ใน บมจ.คันทรีฯ ก็เคยมีแผนจะนำโครงการนี้มาปัดฝุ่นพัฒนาใหม่ แต่สุดท้ายก็ขายให้กับกลุ่มนักลงทุนรายใหม่แทน
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 18-05-2549
|
|
|
|
|