|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เปิดตัวน้องเล็ก "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" มือคุมพอร์ตเอสซีตัวจริง |
|
เก็บตัวเงียบมานานกว่า 2 เดือน นับตั้งแต่ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อำลาเก้าอี้กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส จากตึกชินวัตร 1 ย่านพหลโยธิน มานั่งในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเอสซี ในตึกชินวัตร 3 ริมถนนวิภาวดีรังสิต ที่เวลานี้กลายเป็นฐานที่มั่นทางธุรกิจของตระกูล "ชินวัตร" ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2549 ที่ผ่านมา แทนประธานกรรมการบริหารคนเดิม "บุษบา ดามาพงศ์"
ถือเป็นการเข้ามาดูแลธุรกิจของครอบครัว หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจขายหุ้นกลุ่มชินคอร์ปให้กับ "เทมาเส็ก" กลุ่มทุนข้ามชาติจากแดนลอดช่อง แบบ "บิ๊กลอต" และ "บิ๊กเซอร์ไพรส์" มูลค่ากว่า 7.3 หมื่นล้านบาท
เพราะ "ยิ่งลักษณ์" คือคนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานไว้วางใจที่จะให้เข้านั่งบริหารพอร์ตพร็อพเพอร์ตี้มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท
ทำให้ "น้องเล็ก" ตระกูลชินวัตร ถูกจับตามองจากหลายฝ่าย
กระแสข่าววงในเผยว่า ก่อนหน้านี้ "ยิ่งลักษณ์" พยายามเรียนรู้งานใหม่อย่างหนัก ด้วยการออกตรวจไซต์งานด้วยตัวเอง โดยมี "สหัส ตันติคุณ" ซีอีโอ ทำหน้าที่พี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความเป็น "ทีมเวิร์ก" แล้ว วิธีนี้ยังช่วยกลบกระแสข่าวลือการลาออกของ "สหัส" ได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ "น้องเล็ก" ของตระกูล ชินวัตร แถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยถือฤกษ์เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา บนห้องจัดเลี้ยงบนชั้น 14 ตึกชินวัตร 3 พร้อมตอบข้อซักถามละเอียดยิบ จากบรรดาสื่อมวลชนร่วม 100 ชีวิตที่สนใจเข้าร่วมรับฟัง
ภารกิจแรก "ยิ่งลักษณ์" ต้องการจะปรับภาพลักษณ์ (rebranding) ใหม่หลังจากที่ก่อนหน้านี้ "สหัส" ได้ผ่าตัดโครงสร้างองค์กรนำร่องมาแล้ว
โดยจะมีสินค้าที่เป็นแบรนด์ย่อย หรือซับแบรนด์ ในเซ็กเมนต์ของบ้านเดี่ยวราคาขายเกิน 10 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ และคอนโดฯ ราคา 1.5 ล้านบาท เข้ามาเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
ว่ากันว่า...ในการปรับโฉมเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ครั้งนี้ เอสซีทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาข้อมูลในเชิงลึกให้มากที่สุด ไม่ต่างจากค่าย "แสนสิริ" บริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ประสบความสำเร็จจากการลุกขึ้นมา rebranding ตัวเองครั้งใหญ่เมื่อ 3-4 ปีก่อน
หากวิเคราะห์ในเชิงลึก กรณี "ยิ่งลักษณ์" เข้ามานั่งเป็นแชร์แมนของเอสซี นอกจากจะคุมพอร์ตพร็อพเพอร์ตี้ของครอบครัวชินวัตรแล้ว ในแง่มุมการตลาดยังช่วยตอกย้ำและส่งเสริมแบรนด์สินค้าของเอสซีให้เป็นที่รู้จักและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
"สิ้นปีนี้ได้เห็นแน่นอน ตอนนี้เรากำลังทำเซอร์เวย์เพื่อความมั่นใจ อยากให้ใจเย็นๆ ก่อน หากพร้อมเมื่อไรก็จะเปิดเผยให้ทราบ"
ในภาพเชิงนโยบาย "ยิ่งลักษณ์" บอกว่า ไม่ต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่ต้อง การที่จะให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยเอาจุดแข็งของเอสซีในฐานะดีเวลอปเปอร์ที่เป็นผู้นำในการพัฒนาบ้านภายใต้คอนเซ็ปต์ i-home มาบวกกับประสบการณ์ของเธอที่สั่งสมมาตั้งแต่นั่งอยู่ในตำแหน่งซีอีโอ "เอไอเอส"
เป้าหมายก็เพื่อให้เอสซีเป็นผู้นำในการผลิตที่อยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคโลกาภิวัตน์ (globalization)
พร้อมตั้งเป้าหมายตลอดระยะเวลา 5 ปีจากนี้ เอสซีต้องการเติบโตไม่น้อยกว่า 30% ต่อปี แม้ว่าตัวเลขผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ เอสซีจะมีรายได้ลดลง โดยเติบโตเพียง 9% มีสาเหตุมาจากรับรู้รายได้จากยอดขายไม่ทันกับการปิดบัญชี ปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ 850 ล้านบาท และทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 600 ล้านบาท
ส่วนรายละเอียดการลงทุน ในปีนี้เอสซียังให้น้ำหนักรายได้มาจาก 2 ส่วนเช่นเดิม ได้แก่ รายได้ที่มาจากค่าเช่า และรายได้จากการขาย โดยเตรียมงบฯซื้อแลนด์แบงก์ใหม่เข้ามาในพอร์ตเป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท
ถามว่า...เป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำที่ดินที่ "นายหญิง" บ้านจันทร์ส่องหล้า ที่มีอยู่จำนวนมากมาพัฒนาโครงการขาย ?
ประเด็นนี้ "ยิ่งลักษณ์" ตอบทิ้งท้ายว่า ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด เพราะต้องการให้บริษัทมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าการใช้ระบบครอบครัว
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 18-05-2549
|
|
|
|
|
