Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
โรงปูนแบรนด์ "ราชสีห์" จิ๊กซอว์ใหม่ "อิตาเลียนไทยฯ" |
|
เป็นครั้งแรกของกลุ่ม "อิตาเลียนไทยฯ" บิ๊กธุรกิจรับเหมาที่ลงทุนจัดทริปพานักข่าวไปจังหวัดสระบุรี เพื่อร่วมงานเปิดตัวโรงงานปูนซีเมนต์ในชื่อ "ภูมิใจไทยซีเมนต์"
หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสออกมาเป็นระยะว่า "เปรมชัย กรรณสูต" ในฐานะซีอีโอของ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ นึกสนุกอยากกลับมาทำธุรกิจปูนซีเมนต์อีกครั้ง
งานวันนั้นเต็มไปด้วยแขก วี.ไอ.พี.หน้าตาคุ้นเคยในแวดวงวัสดุและอสังหาฯ อาทิ ชวน ตั้งมติธรรม จากมั่นคงเคหะการ นภดล รมยะรูป เอ็มดีปูนซีเมนต์เอเซีย ภายใต้บรรยากาศที่เรียบง่ายแต่ดูมีพลัง
"เราลงทุนโรงงานไปทั้งหมดกว่า 3,000 ล้านบาท และได้รับสัมปทานเหมืองหินปูน 5 แปลง รวมเกือบ 1,500 ไร่ คิดเป็นปริมาณหินสำรองในการผลิตปูนได้ 700 ล้านตัน" เปรมชัย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย ซึ่งอาจเป็นเพราะในวันนั้นมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาทรงทำพิธีเปิดโรงปูน
ว่ากันว่าในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ กลุ่มอิตาเลียนไทยฯจำต้องตัดใจขายโรงปูนให้กับกลุ่มซีเมกซ์ ครั้งนี้เขาจึงมุ่งมั่นมากเป็นพิเศษ และเริ่มก่อตั้งบริษัทขึ้นเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน ด้วยทุนจดทะเบียน 1,200 ล้านบาท โดยมี "วรายุทธ เสริมศักดิ์สกุล" ลูกหม้อของบริษัทรับหน้าที่เป็นเอ็มดีดูแลธุรกิจปูนซีเมนต์
เมื่อเข้ามาภายในโรงงานที่โอบล้อมด้วยภูเขาบนเนื้อที่กว่า 360 ไร่ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี แต่ภายในกลับสะอาดสะอ้านเอามากๆ เห็นได้ชัดว่ามีระบบการจัดการที่ดี
ส่วนตัวโรงงานเกิดขึ้นจากการผสมผสานกันระหว่างเครื่องจักรจากต่างประเทศ เช่น เตาเผาจากประเทศเยอรมนี เครื่องบดจากประเทศจีน และเครื่องจักรบางส่วนจากประเทศอิตาลีและญี่ปุ่น
ปัจจุบันมีกำลังผลิตปูนเม็ด 2,500 ตันต่อวัน และสามารถผลิตปูนซีเมนต์ได้ 3,000 ตันต่อวัน หรือคิดเป็นกำลังผลิตรวม 1 ล้านตันต่อปี เริ่มผลิตปูนออกวางตลาดในเดือนสิงหาคม 2548 ที่ผ่านมา ภายใต้แบรนด์ "ราชสีห์" อันเป็นสัญลักษณ์ของความมีพลัง
"ตอนนี้เรามีลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้รับเหมาและเอเย่นต์หลักรวมกว่า 80 รายทั่วประเทศ กระจายอยู่ในภาคกลาง ตะวันออก ตะวันตก รวมถึงกรุงเทพฯ และเรายังมีแผนจะขยายกำลังผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านตันต่อปี แต่ขอรอดูสถานการณ์อีกระยะ" เปรมชัยบอกพร้อมกับยืนยันว่า ข้อสรุปทั้งหมดจะชัดเจนภายในปีนี้แน่
และถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เขาจะต้องใส่เม็ดเงินลงทุนในการขยายโรงงานใหม่อีก 4,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะมาจากการออกบอนด์และการเพิ่มทุน
นับเป็นเกมการต่อยอดธุรกิจที่แหลมคม เพราะปัจจุบันกลุ่มอิตาเลียนไทยฯและเนาวรัตน์ บริษัทรับเหมาที่เป็นเครือญาติกัน มีปริมาณงานรับเหมาก่อสร้างที่รันอยู่ในมือรวมกันสูงถึงปีละกว่า 1.25 แสนล้านบาท
การมีโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ของตัวเองจึงเท่ากับเป็นการเซฟต้นทุนได้อย่างมหาศาล ! เพราะแค่งานก่อสร้างบ้านเอื้ออาทรอิตาเลียนไทยฯมี สต๊อกรออยู่ในมือถึงปีละกว่า 50,000 ยูนิต
อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้อิตาเลียนไทยฯในฐานะผู้ถือหุ้น 100% ในภูมิใจไทยซีเมนต์ยังคงสั่งซื้อปูนจากบริษัทในเครือเพียง 1 ใน 3 และส่วนที่เหลืออาศัยการทำตลาดผ่านตัวแทนจำหน่าย เพื่อเป็นการ keep connection กับผู้ผลิตปูนรายอื่นๆ เอาไว้ เพื่อไม่ให้รายได้ทั้งหมดต้องผูกติดกับบริษัทแม่
หากมองไปถึงเรื่องการต่อยอดธุรกิจ ล่าสุดยักษ์รับเหมารายนี้ยังจับมือกับเนาวรัตน์ ในฐานะบริษัทเครือญาติออกไปลุยรับงานในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นดูไบ อินเดีย แน่นอนว่าในอนาคตเราจะได้เห็นการส่งออกปูนซีเมนต์ไปใช้ในต่างประเทศด้วย
การเข้ามารุกธุรกิจปูนซีเมนต์ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ "เปรมชัย" จึงมองว่าไม่มีความเสี่ยงเลย เพราะอ่านเกมแล้วว่าธุรกิจปูนซีเมนต์สามารถสร้างรายได้แบบยั่งยืนและมั่นคงกว่าธุรกิจรับเหมา
วันนี้สิ่งที่อิตาเลียนไทยฯกำลังทำอยู่จึงเป็นการวางหมากเพื่อต่อยอดธุรกิจแบบเชื่อมโยงถึงกัน เหมือนกับที่บริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีแบงก์เป็นของตัวเอง
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 15-05-2549
|
|
|
|
|