Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
17พฤษภาคมผังเมืองกทม.คลอด "มักกะสัน-สุวรรณภูมิ"ส้มหล่น |
|
คลอดแล้วผังเมืองรวม กทม.ฉบับใหม่ "อภิรักษ์" ย้ำชัด 17 พฤษภาคมนี้มีผลบังคับใช้ เผยของใหม่ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินคุมเข้มละเอียดยิบ เจาะพื้นที่รายบล็อกชัดเจน เพิ่มโบนัสพิเศษสำหรับอาคารที่มีพื้นที่โล่งว่างเพื่อสาธารณะและเพิ่มพื้นที่จอดรถ เล็งปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่ย่านมักกะสัน สุวรรณภูมิ รับแอร์พอร์ตลิงก์และสนามบินแห่งใหม่
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับปรังปรุงครั้งที่ 2 พ.ศ.2549 จะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 16 พฤษภาคม 2549 นี้ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคมเป็นต้นไป เป็นระยะเวลา 5 ปี จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2554 หลังจากที่ใช้เวลาดำเนินการมาเกือบ 2 ปีเต็ม ทั้งนี้ เมื่อประกาศใช้ผังเมืองรวมฉบับใหม่แล้ว จะมีการสำรวจว่ามีพื้นที่ไหนที่จะต้องปรับปรุงเพิ่มเติมบ้าง เพราะผังเมืองรวมฉบับใหม่นี้ จัดทำรายละเอียดมานานแล้ว แต่ด้วยกระบวนการที่ติดขัดทำให้ประกาศล่าช้า อย่างไรก็ตาม สามารถปรับปรุงได้ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด
อย่างเช่น พื้นที่ต่อเชื่อมกับสนามบินสุวรรณภูมิ หรือบริเวณศูนย์มักกะสัน ที่มีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรียลลิงค์ เป็นต้น เนื่องจากปัจจุบันสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินได้เปลี่ยนไปมาก จึงต้องมีการปรับผังเมืองรวมใหม่ให้สอด คล้องกัน นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างแรงจูงใจให้มีผู้เข้าไปพัฒนามากขึ้น
นายอภิรักษ์กล่าวว่า สาระสำคัญของผังเมืองฉบับใหม่ ประกอบด้วยแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนในอนาคต ไม่ให้เติบโตแบบไร้ทิศทาง โดยกำหนดให้มีการอนุรักษ์พื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์ และพื้นที่ต่อเนื่อง กำหนดพื้นที่ระหว่างวงแหวนรัชดาภิเษกเป็นย่านพาณิชย์และที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก พื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษกและวงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลางและหนาแน่นน้อย จัดการพัฒนาพื้นที่นอกวงแหวนกาญจนา ภิเษก กำหนดศูนย์ชุมชนชานเมือง ศูนย์พาณิชย กรรมเพื่อลดความแออัดของพื้นที่ศูนย์ กลางเมือง
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดให้มีศูนย์คมนาคม 3 แห่ง คือ ศูนย์พหลโยธิน ศูนย์มักกะสัน และศูนย์ตากสิน กำหนดเขตอุตสาหกรรมชานเมือง มีการพัฒนาระบบราง ถนนสายหลักสายประธาน ระบบทางพิเศษ เพื่อเป็นโครงข่ายเชื่อมโยงกัน มีการกำหนดพื้นที่โล่งให้เป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับสวนสาธารณะ
ส่วนการใช้ประโยชน์ที่ดิน ผังเมืองรวมฉบับใหม่ มีความแตกต่างจากผังเมืองรวมฉบับปัจจุบันที่ใช้อยู่หลายประเด็น เช่น กำหนดเขตอุตสาหกรรมไว้ในผังเมืองรวม มีบริเวณบางบอน บางขุนเทียน เปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็น 13 ประเภท จากเดิม 10 ประเภท และแบ่งการพัฒนาเป็น 12 กลุ่มโซน และแบ่งเป็นบล็อกใหม่จาก 473 บริเวณ เป็น 660 บริเวณ
ขณะเดียวกันได้เพิ่มมาตรการทางด้านผังเมืองในการควบคุมความหนาแน่นการใช้ประโยชน์ที่ดิน มีการนำอัตราส่วนของพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน (FAR) และอัตราส่วนของที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวม (OSR) ระยะถอยร่น มาใช้เป็นตัวกำหนดในการพัฒนาที่ดินในเรื่องของที่ว่างและความสูง กำหนดสิทธิพิเศษเพิ่มเติมเฉพาะพื้นที่ มี 2 ลักษณะ คือ การใช้ที่ดินโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าระยะ 500 เมตร และการกำหนดให้มีระบบรางวัล (โบนัส) สำหรับการใช้ที่ดินประเภทต่างๆ เช่น พื้นที่โล่งว่างเพื่อ สาธารณะเพิ่มขึ้น และกำหนดเพิ่มพื้นที่ที่จอดรถ
"เป็นครั้งแรกที่นำสิ่งเหล่านี้มาใช้กับผังเมืองรวม กทม. เพื่อต้องการกระจายการพัฒนาไปยังรอบนอกมากขึ้น และป้องกันไม่ให้มีประชากรและความแออัดของอาคารมากเกินไป"
ยอมรับว่าผังเมืองรวมฉบับใหม่นี้มีผลกระทบบ้างในบางกลุ่ม เช่น ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ต้นทุนการก่อสร้างอาจจะสูงขึ้นในบางพื้นที่ แต่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมและคุณภาพชีวิต หลังจากจัดสัมมนาให้กับข้าราชการของ กทม.เข้าในทางปฏิบัติแล้ว เร็วๆ นี้จะจัดสัมมนากับผู้มีส่วนได้เสียมาทำความเข้าใจร่วมกันด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับอาคารที่จะมาขออนุญาตก่อสร้างหลังวันที่ 16 พฤษภาคมเป็นต้นไป จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของผังเมืองรวมฉบับใหม่
นางสาวเดือนเต็ม อมรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กทม. กล่าวว่า หลังจากที่ผังเมืองรวม กทม.ฉบับใหม่ประกาศใช้ คาดว่าจะมีปัญหาพอสมควรในทางปฏิบัติ เพราะต่อไปอาจจะต้องมีการกระจายอำนาจให้กับสำนักงานเขตพิจารณาอนุญาตในการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ จะต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งก่อนที่จะมีการอนุญาตจะต้องมีการตรวจสอบตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งผังเมืองรวมนี้เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ทั้งด้านโยธา ระบายน้ำ ระบบขนส่ง สิ่งแวดล้อม เป็นต้น ดังนั้นจะต้องกำหนดทิศทางการพัฒนาให้เป็นไปตามผังเมืองรวม
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 11-05-2549
|
|
|
|
|