|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เคเอ็มซีเดินหน้าเคลียร์หนี้แบงก์ ลดพาร์หุ้นล้างขาดทุนสะสม |
|
กฤษดามหานครเดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ ล่าสุดโอนที่ดินโครงการ "กฤษดาซิตี้ กอล์ฟ ฮิลล์" ย่านปิ่นเกล้า ให้แบงก์กรุงเทพล้างหนี้ 1.5 พันล้าน ส่วนหนี้ที่เหลืออีก 4 พันล้านจะเร่งเคลียร์ให้จบ พร้อมตั้งเป้าล้างขาดทุนสะสมให้หมดในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ เล็งใช้วิธีลดมูลค่าพาร์หุ้นไม่ให้กระทบนักลงทุนรายย่อย มั่นใจปีนี้มีกำไรสะสมจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นได้
รายงานข่าวจากบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายที่จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้และโครงสร้างทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มทุน ลดทุน โดยลดหุ้นบุริมสิทธิลง ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2548 บริษัทก็ได้ขอปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อีกครั้งหนึ่ง เพื่อปรับสถานะทางการเงินในระยะยาวให้ดีขึ้น โดยจะโอนทรัพย์เป็นที่ดินในโครงการกฤษดาซิตี้กอล์ฟ ฮิลล์ บริเวณถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรีทั้งหมดชำระหนี้ ยกเว้นสนามกอล์ฟที่ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัท ผลจากการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งนี้จะสามารถลดหนี้ได้ทั้งสิ้นประมาณ 1,500 ล้านบาท ทำให้หนี้สินรวมของบริษัทเหลือประมาณ 4,000 ล้านบาท
สำหรับเงื่อนไขการโอนทรัพย์ชำระหนี้ ทางบริษัทยังมีสิทธิทางด้านการขายและบริหารโครงการเหมือนเดิม ขณะที่ไม่ต้องมีภาระในการจ่ายดอกเบี้ยรายเดือน ภายหลังจากนี้ ถ้าขายบ้านในโครงการดังกล่าวได้ บริษัทก็สามารถไปปลอดจำนองในราคาโอนทรัพย์บวกกับดอกเบี้ยเฉพาะรายแปลง ซึ่งจะทำให้โครงสร้างรายได้กับรายจ่ายของบริษัทมีความสมดุลกันมากขึ้น
ในรายการดังกล่าวทำให้บริษัทขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้ประมาณ 920 ล้านบาท และการตั้งสำรองการเสื่อมค่าของที่ดินที่เป็นสินทรัพย์ของบริษัท ได้มอบหมายให้บริษัทไนท์แฟรงค์ ประเมินมูลค่าสินทรัพย์ใหม่ เพื่อปรับราคาที่ดินให้สอดคล้องกับราคาตลาดในปัจจุบัน โดยรายการนี้บริษัทขาดทุนจากการตั้งสำรองอีก 1,400 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรายการจะส่งผลดีกับบริษัทในระยะยาว ทำให้สามารถขายและรับรู้กำไรจากการขายได้ในระยะยาวต่อไป และหากบริษัทมีความประสงค์ที่จะหานักลงทุนหรือผู้ร่วมทุนใหม่ นโยบายการดำเนินการดังกล่าวก็จะส่งผลดีต่อการหาผู้ร่วมทุนในระยะต่อไปด้วย
ผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2549 บริษัทจะมียอดรับรู้รายได้จากการขายโครงการเดอะคริส คอนโดมิเนียมใจกลางเมือง รัชดา-สุทธิสาร ประมาณ 320 ล้านบาท และโครงการอื่นๆ ทั้งโครงการเก่าและโครงการใหม่ คาดว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 จะมีกำไรอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันผลประกอบการในไตรมาสที่ 2-4 ก็คาดว่าน่าจะมีกำไรเช่นกัน เนื่องจากมีบ้านพร้อมขายอยู่ในมือ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวโครงการใหม่ เช่น โครงการกฤษดานคร วงแหวน-อ่อนนุช ที่เริ่มขายแล้ว
ส่วนโครงการเดอะคริสก็เปิดขายอาคารที่ 2 มียอดขายประมาณ 80-90% คาดว่าคงรับรู้รายได้ได้ทันในปีนี้ และยังมีโครงการกฤษดา ลากูน บริเวณพระรามที่ 5 และโครงการกฤษดา รอยัลพาร์ค บริเวณถนนพหลโยธิน รังสิต ซึ่งมียอดขายเข้ามาเรื่อยๆ โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 2549 ไว้ประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยผลประกอบการทั้งปี 2549 จะทำให้บริษัทสามารถรับรู้ผลกำไรได้เช่นกัน
สำหรับการขาดทุนสะสมสิ้นสุดในปี 2548 บริษัทขาดทุนสะสม 3,101.19 ล้านบาท แต่มีนโยบายที่จะล้างขาดทุนสะสมให้หมดภายในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ โดยอาจจะใช้วิธีการลดมูลค่าพาร์ลง เพื่อล้างขาดทุนสะสมให้หมด เนื่องจากปัจจุบันมูลค่าพาร์ของบริษัทอยู่ที่ 8.8 บาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าทางบัญชีอยู่แล้ว โดยวิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดและไม่กระทบต่อนักลงทุนรายย่อยเลย เมื่อบริษัทมีการรับรู้กำไรในปี 2549 และมีกำไรสะสมแล้ว ก็จะสามารถพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นบริษัทได้ในปี 2549 โดยกระบวนการดังกล่าวจะนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทและให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติต่อไป
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 30-03-2549
|
|
|
|
|
