| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 203 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 27-03-2549    อ่าน 11683
 ภารกิจเร่งด่วนผู้ว่าการ กทพ. "เผชิญ ไพโรจน์ศักดิ์" ท่ามกลางวิกฤตการเมือง

ขณะที่โครงการเมกะโปรเจ็กต์ต้องเลื่อนการเปิดยื่นซองประกวดราคาออกไปอีก 1 เดือน เพราะพิษทางการเมืองที่ปะทุเดือดขณะนี้ และยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ

แต่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยังเดินหน้าภารกิจต่างๆ ต่อไปตามแผนงานที่ได้วางไว้ แม้สถานการณ์ทางการเมืองจะยังร้อนแรง

"เผชิญ ไพโรจน์ศักดิ์" ผู้ว่าการ กทพ.เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจต่างๆ ทั้งการเปิดประมูลโครงการทางด่วนสายใหม่ ผลประกอบการ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาภาระหนี้สิน

- โครงการเร่งด่วนที่จะเปิดประมูลปีนี้

มีหลายโครงการ มูลค่าเป็นหมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราจะประมูลด้วยระบบอิเล็ก ทรอนิกส์ หรืออีออกชั่น เช่น ทางด่วนรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก ค่าก่อสร้าง 6,582 ล้านบาท ระบบเก็บเงินโครงการวงแหวนด้านใต้ ค่าก่อสร้าง 2,636 ล้านบาท ทางเชื่อมโครงการวงแหวนอุตสาหกรรมกับวงแหวนด้านใต้ ค่าก่อสร้าง 1,993 ล้านบาท ทางเชื่อมวงแหวนด้านใต้กับทางด่วนบางนา-ชลบุรี ค่าก่อสร้าง 1,907 ล้านบาท ทางเชื่อมบางนา-ชลบุรีกับสนามบินสุวรรณภูมิ ค่าก่อสร้าง 2,236 ล้านบาท

ที่จะต้องเร่งคืองานขยายทางด่วนช่วง อาจณรงค์-ท่าเรือ เพิ่มอีก 2 เลน ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เพราะปัจจุบันรถติดมาก ภายในเดือนเมษายนนี้ผมจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด ก่อนหน้านี้ก็เคยเสนอบอร์ดแล้ว ขอขยายเพิ่ม 1 เลน บอร์ดบอกว่า ไม่คุ้ม เพราะใช้เงินเป็นพันล้านบาท และยังต้องเวนคืนที่ดินอีก เลยให้ไปศึกษาขยายเป็น 2 เลนแทน ยังไม่รู้ว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ ค่าก่อสร้างไม่มาก แต่แพงค่าเวนคืน

- โครงการไหนจะเปิดประมูลก่อน

ติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทางและระบบความปลอดภัยด้านการจราจรโครงการวงแหวนด้านใต้ ประกาศเชิญชวนเมื่อวันที่ 16-24 มีนาคมที่ผ่านมา ยื่นซองวันที่ 11 เมษายน ได้ตัวผู้รับเหมาวันที่ 16 พฤษภาคม จากนั้นเริ่มดำเนินการได้ หลังจากประกาศในเว็บไซต์ให้มีการวิจารณ์ทีโออาร์ ปรากฏว่ามีผู้วิจารณ์เข้ามา 4 ราย ทุกรายบอกว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะใช้เวลาติดตั้ง 10 เดือน จะขอขยายเป็น 18 เดือน แต่เราให้ได้แค่ 12 เดือน ซึ่งเป็นงานหลักๆ ส่วนงานเฟอร์นิเจอร์ขยายให้อีกเป็น 480 วัน

จากนั้นเป็นด่วนรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก จะประกาศเชิญชวนวันที่ 27 มีนาคมถึง 4 เมษายนนี้ แบ่งเป็น 4 สัญญา มีงานโยธาฯ 3 สัญญา และงานติดตั้งระบบเก็บเงินอีก 1 สัญญา ให้ยื่นเอกสารทุกสัญญาวันที่ 18 เมษายนนี้ โดยระบุให้มีผลงาน 30% ของมูลค่าโครงการ หรือจากที่ในระเบียบกำหนดไว้ 50% เพราะถ้ากำหนดสูงเกรงว่าจะมีข้อกังขาว่าเอื้อให้กับผู้รับเหมารายใหญ่ เลยปรับลดลงมาเปิดกว้างให้กับรายกลางและเล็กมากขึ้น โดยให้มีผลงาน 600 ล้านบาทต่อ 1 โครงการ ใน 10 ปีย้อนหลัง และเว้นช่วงประมูลแต่ละสัญญา 25 วัน

ถ้ารายไหนได้งานไปแล้ว จะไม่มีสิทธิในสัญญาต่อไป เพราะผลงานแค่ 600 ล้านบาท จะมารับงานอีกไม่ได้ งานเราจะมีปัญหาได้ ไม่อยากให้ผู้รับเหมารับงานเยอะๆ แล้วไปตายดาบหน้า ให้เอาเป้าหมายของงานมากกว่า ส่วนสัญญาที่ 4 งานติดตั้งระบบ ผู้ที่จะยื่นประมูลต้องมีผลงานติดตั้งอุปกรณ์เก็บค่าผ่านทาง และผลงานติดตั้งอุปกรณ์จราจรไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นบริษัทต่างประเทศก็ได้

โครงการทางขึ้นลงสนามบินสุวรรณภูมิจะประกาศเชิญชวนวันที่ 13 มิถุนายน ยื่นเอกสารวันที่ 7 กรกฎาคม ทราบผลวันที่ 11 สิงหาคมนี้ ผู้ยื่นจะต้องมีผลงาน 1,200 ล้านบาทต่อ 1 สัญญา ย้อนหลัง 10 ปี ถ้ารายไหนที่ได้งานรามอินทรา-วงแหวนรอบนอกแล้ว ถ้ามีผลงานถึงก็สามารถมายื่นประมูลได้ ส่วนโครงการที่เหลือจะทยอยดำเนินการ เพราะมีบางโครงการต้องออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน และจัดจ้างที่ปรึกษามาจัดทำรายละเอียดอีก

- ถือว่าเป็นลอตสุดท้ายแล้วใช่ไหม

ก็คิดว่าจะเป็นแบบนั้น ถ้าประมูลเสร็จปีนี้ทั้งหมด เพราะตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เราจะต้องดำเนินการตามแผนแม่บทใหม่ ที่กำลังปรับอยู่ ขณะนี้เรื่องอยู่ที่ สนข.ในการพิจารณาโครงการ ซึ่ง มีทั้งหมด 10 โครงการ หลังจากที่ตัดโครงการทางด่วนศรีนครินทร์-บางนา-สมุทรปราการ ออกไปแล้ว อันนี้เป็นแผน 10 ปี (2550-2560) อาทิ ทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ด่วนศรีรัช-ดาวคะนอง ด่วนซีดีโรด ด่วนเอส 2 ด่วนบางพูน-ธัญบุรี-วงแหวนรอบนอก ด่วนสายเหนือตอน 1, 2 และ 3 ด่วน M-1 จากพระรามที่ 4-สุวรรณภูมิ ด่วนขั้นที่ 5 ด่วนพระรามที่ 4-วงแหวนรอบนอกและด่วนดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก

- ความคืบหน้าโครงการเมกะโปรเจ็กต์

ของเรามี 1 โครงการ คือ ทางด่วนศรีนครินทร์-บางนา-สมุทรปราการ ร่างทีโออาร์เสร็จแล้ว รอประชุมคณะกรรมการ กนค.ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร คงต้องรอรัฐบาลใหม่มา และกำหนดยื่นเอกสารวันที่ 29 พฤษภาคมนี้

- ผลประกอบการปีที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง

กำไร 685 ล้านบาท แต่ลดลงจากปี 2547 ที่มีกำไร 1,300 ล้านบาท เพราะเราตัดบัญชีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนให้เสร็จภายในปี 2548 คือ 687 ล้านบาท ปัจจุบันขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเราหมดแล้ว ปี 2549 นี้ เราคาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นมากถึง 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นมา 4% และจากอัตราแลกเปลี่ยน และในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 5,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว มาจากค่าผ่านทางที่ได้ปีละ 5,300 ล้านบาท และค่าพัฒนาพื้นที่ใต้ทางด่วนที่ปีที่ผ่านมาได้ 96 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะได้ 100 ล้านบาท

- ปริมาณรถเพิ่มขึ้นเพราะอะไร ทั้งที่น้ำมันราคาแพง

ผมเองยังแปลกใจเหมือนกัน เมื่อเห็นรายงานตัวเลข ปีนี้ปริมาณรถเพิ่มขึ้น 4% หรืออยู่ที่ 1,100,000 คันต่อวัน จากปี 2548 ที่เพิ่มขึ้น 3.7% หรือ 1,030,000 คันต่อวัน อาจจะเป็นเพราะรถใหม่เพิ่มขึ้นวันละ 400-500 คัน และอาจจะเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจ แต่ปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นก็ใช่ว่าจะดีนะ เพราะจะทำให้รถติดบนทางด่วนมากขึ้น เพราะรถเยอะขึ้นแต่ทางยังเท่าเดิม ซึ่งผมพยายามแก้ไขปัญหาจุดนี้อยู่ เช่น ติดป้ายบอกทางเพิ่มขึ้น ทำทางขึ้น-ลงเพิ่ม ทางเชื่อมต่อต่างๆ เท่าที่จะทำได้

- ภาระหนี้ปัจจุบัน

ตัวเลขหนี้ เมื่อสิ้นเดือนกันยายน 2548 อยู่ที่ 86,899 ล้านบาท จากสินทรัพย์รวม 1.6 แสนล้านบาท หนี้สินต่อทุน 1.34 เราชำระหนี้ได้ โดยผมจัดลำดับว่าต้องจ่ายก่อน ทำให้สภาพคล่องเราพอไปไหว มีเงินหมุนเวียนปีละ 4,000 ล้านบาท แต่ปี 2549 นี้ภาระหนี้จะเพิ่มขึ้น เพราะต้องกู้เงินมาลงทุนก่อสร้างโครงการใหม่ๆ เช่น รามอินทรา-วงแหวนรอบนอก เป็นต้น มูลค่าเป็น 10,000 ล้านบาท เพราะงบประมาณไม่มี ทำให้ภาระหนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 90,000 กว่าล้านบาท แต่ถือว่ายังไม่หนักเท่าไหร่ ล่าสุดได้กู้เงินมาอีก 2,000 ล้านบาท โดยออกพันธบัตร ระยะเวลาชำระ 7-8 ปี เพื่อนำมาชำระหนี้เดิมที่ถึงกำหนดเวลาต้องชำระ นอกจากนี้เรายังต้องมารับภาระแวตอีกปีละ 750 ล้านบาท จนถึงปัจจุบันตัวเลขอยู่ที่ 7,036 ล้านบาท

- การชะลอแผนแปรรูปมีผลกระทบอะไรไหม

ไม่มี ทุกอย่างยังเหมือนเดิมอยู่ คงต้องรอดูนโยบายใหม่ด้วยว่าจะให้ กทพ.ทำยังไงต่อไป

- การพัฒนาพื้นที่หน้าด่าน 30 ด่าน ที่ไม่มีคนมายื่นข้อเสนอ

กำลังจะนำเรื่องเข้าคณะอนุกรรมการจัดหาประโยชน์อีกรอบ จะเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่ เพราะมีคอมเมนต์มาว่าเอกชนจะเลือกจุดที่ดีๆ ไม่ยอมเอาเหมาโหลทั้ง 30 ด่าน กำลังดูว่าจะตัดด่านไหนออกบ้าง และจะมีการเพิ่มค่าเช่า เพราะมีการตัดบางด่านออกแล้ว เร็วๆ นี้คงจะประกาศได้อีกครั้ง

- หลังจากจ้างบริษัท พี.อาร์.ข้างนอกมาช่วย ผลตอบรับเป็นยังไงบ้าง

ได้ผลบ้างนิดหน่อย เพราะเพิ่งจ้าง ยังไม่ได้ประเมินผล แต่อย่างน้อยทำให้รู้ว่าเราได้ทำอะไรกลับไปบ้าง เป็นการตลาดที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นไหม ผมยังไม่ได้ประเมิน

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 27-03-2549 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.