Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
"โนเบิล"ทวนกระแสบุกหนัก ดึงทุนนอก-รุกธุรกิจค้าปลีก |
|
"โนเบิลฯ" ไม่สนปัจจัยการเมืองเตรียมดึงทุนนอก ยุโรป-ญี่ปุ่น เข้าเสริมทัพธุรกิจค้าปลีก-คอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทมูลค่าลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท ล่าสุดเดินหน้าเปิด 2 คอนโดมิเนียมไซซ์เล็กทำเลใจ กลางเมืองเจาะกำลังซื้อคนรุ่น ใหม่กว่า 1 พันล้านบาท เคาะราคาขายเริ่มต้นที่ 3.9 ล้านบาท ตั้งเป้าปี"49 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ส่วนผลประกอบการปี"48 มีกำไรสุทธิ 456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.4%
นายกิตติ ธนากิจอำนวย ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวล ลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มทุนจากยุโรปและญี่ปุ่น ร่วมทุนเพื่อพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกแห่งใหม่ย่านเอกมัย คาดว่าจะมีพื้นที่ขายมากกว่า 10,000 ตารางเมตร และใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท พัฒนาในรูปแบบผสมผสานระหว่างพื้นที่ค้าปลีกและคอนโดมิเนียม จึงจำเป็นจะต้องหาทุนใหม่เข้ามาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความได้เปรียบด้านธุรกิจโดยอาศัยเครือข่ายพันธมิตรในต่างประเทศ
"หากมีการร่วมทุนก็จะต้องตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมารองรับ โดยที่โนเบิลฯ เป็นบริษัทที่เข้าไปถือหุ้น เพื่อความชัดเจนในการบริหารงาน" นายกิตติกล่าว และว่า
สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยที่บริษัทดำเนินการอยู่ในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดึงเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาร่วมทุนในขณะนี้ เนื่องจากบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ส่วนสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ตนอยากให้ทุกฝ่ายหาแนวทางแก้ปัญหาโดยมองในระยะยาวมากกว่าทำเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น
ที่สำคัญคือการเมืองต้องเป็นเอกเทศไม่อยู่ภายใต้อำนาจทุน รวมทั้งต้องทำให้การเมืองเป็นของประชาชนทุกคน
นายธงชัย บุศราพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ารับรู้รายได้ 2,700 ล้านบาท จากโครงการที่เปิดขายทั้งสิ้น 12 โครงการ รวมมูลค่า 7 พันล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3,500 ล้านบาท คิดเป็น 300 ยูนิต และคอนโดมิเนียม 3,500 ล้านบาท 700 ยูนิต คิดเป็นอัตราเติบโต 15-20% และมีรายได้ที่รอรับรู้ในมือ (แบล็กล็อก) ประมาณ 350 ล้านบาท
"การที่บริษัทมีบ้านสร้างเสร็จก่อนขายในสต๊อกในมือขณะนี้ถือเป็นจุดแข็ง ไม่ถือว่าเป็นภาระมากนักเนื่องจากบริษัทมีต้นทุนทางการเงินและสัดส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำมากเมื่อเทียบกับบริษัทในตลาดด้วยกัน"
นายธงชัยกล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในปี 2548 มีกำไรสุทธิ 456.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.4% เมื่อเทียบกับปี 2547 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 334.61 ล้านบาท โดยแหล่งรายได้หลักมาจาก 1.การพัฒนาธุรกิจอสังหา
ริมทรัพย์เพื่อขายจำนวน 2,457.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.9% จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 1,770.22 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 39.5% 2.รายได้จากธุรกิจขายปลีกและรายได้จากการให้เช่าและบริการ 48.02 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 46.4%
3.ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในปี 2548 จำนวน 418.09 ล้านบาท คิดเป็น 16.7% ของรายได้จากการขายลดลงจากปี 2547 ที่สัดส่วนอยู่ที่ 24% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและส่งเสริมการขาย ซึ่งลดลงจาก 7.9% เป็น 2% ในปี 2548 และ 4.มีกำไรสุทธิก่อนหักภาษีเงินได้คิดเป็น 22.7% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2547 ที่อยู่ในระดับ 18.2%
สำหรับแผนการลงทุนในปี 2549 บริษัทมีแผนเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,600 ล้านบาท ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม
1,035 ล้านบาท ได้แก่ โครงการโนเบิล แอมเบียนส์ สารสิน มูลค่าโครงการ 395 ล้านบาท เนื้อที่ 1 ไร่ คิดเป็นพื้นที่ขาย 3,982 ตารางเมตร เป็น
อาคารสูง 8 ชั้นรูปตัวยู จำนวน 79 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.9 ล้านบาท พัฒนาภายใต้แนวคิด "perfect contrast"
โครงการโนเบิล แอมเบียนส์ ซอยร่วมฤดี มูลค่าโครงการ 640 ล้านบาท เนื้อที่ 2 ไร่ คิดเป็นพื้นที่ขาย 7,500 ตารางเมตร เป็นอาคารสูง 8 ชั้น 2 อาคาร 108 ยูนิต พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ "perfect contrast" หรือการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบของคนเมือง มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 45 ตารางเมตรขึ้นไป ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.9 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 7.5-8.5 หมื่นบาทต่อตารางเมตร ซึ่งทั้งสองโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3/2550
"ในช่วงครึ่งปีหลังมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการ มูลค่า 2,600 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 1 โครงการ และบ้านเดี่ยวในย่านวัชรพล 1 โครงการ เนื้อที่ 30 ไร่ จำนวน 70 กว่ายูนิต นอกจากนี้ยังได้เตรียมงบประมาณเพื่อซื้อที่ดินเพื่อมารองรับการพัฒนาโครงการอีก 1,000 ล้านบาท" นายธงชัยกล่าว
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 27-03-2549
|
|
|
|
|