Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
รื้อผังเมืองรอบ "สุวรรณภูมิ" ปรับแผนใช้ประโยชน์ที่ดิน 19 จังหวัด |
|
ไม่น่าเชื่อ ผลกระทบจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้จะแผ่ขยายไปถึงพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่ห่างไกลออกไปเป็น 100 กิโลเมตร !
จากเดิมที่เคยมองกันว่าน่าจะมีผลกระทบครอบคลุมพื้นที่รายล้อม แค่อำเภอบางพลี อำเภอบางเสาธง จังหวัดสุมทรปราการ เขตลาดกระบังและเขตประเวศจังหวัดกรุงเทพมหานคร ขนาดพื้นที่ 521 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น หรือมีรัศมีผลกระทบประมาณ 5-10 กิโลเมตรเท่านั้น
ผ่าผังเมือง 6 กลุ่ม 19 จังหวัด
จากข้อมูลของกรมโยธาธิการและผังเมือง ปรากฏว่าภาพรวมของพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ หลังจากสนามบินสุวรรณภูมิเปิดใช้ มีทั้งหมดถึง 19 จังหวัด แบ่งการพัฒนาออกเป็น 6 กลุ่ม ตามศักยภาพของพื้นที่ของแต่ละจังหวัด
ประกอบด้วย 1.กลุ่มผสมผสาน ศูนย์ลอจิสติก กับแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและอุตสาหกรรมบางประเภท มีจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก
2.กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สินค้าอัญมนี การท่องเที่ยวและเกษตรกรรม มีจังหวัดชลบุรีและระยอง
3.กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การแปรรูปอาหาร ผลไม้ สินค้าเกษตรและหัตถกรรม มีจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา และอ่างทอง
4.กลุ่มสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมส่งออก มีจังหวัดสระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี
5.กลุ่มฐานการผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและแปรรูปการเกษตร มีจังหวัดนครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี
6.กลุ่มแปรรูปสินค้า ประมง เกษตร ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี
ส่วนกรุงเทพมหานคร กำหนดให้เป็นพื้นที่ศูนย์กลางทุกอย่าง ทั้งด้านเศรษฐกิจการขนส่ง แหล่งงาน ที่อยู่อาศัย ฯลฯ
"เป็นภาพรวมที่กรมได้ศึกษาไว้ เพื่อดูทิศทางว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะมีอิทธิพลต่อการพัฒนาจังหวัดไหนบ้าง ในด้านเศรษฐกิจ การคมนาคมขนส่ง เพื่อให้แต่ละจังหวัดนำไปปรับปรุงและเพิ่มบทบาทกิจกรรมต่างๆ ให้สอดรับกับการเปิดใช้สนามบิน เป็นการเสริมเข้าไป หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น" แหล่งข่าวจากกรมโยธาธิการและผังเมืองกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ"
"สุวรรณภูมิ" เซ็นเตอร์แห่งการพัฒนา
สอดรับกับ "ฐิระวัตร กุลละวณิชย์" อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า ขณะนี้กรมได้มอบนโยบายเร่งด่วนให้ท้องถิ่นในพื้นที่โดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ รัศมี 100 กิโลเมตร มีพื้นที่ไหนบ้างที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดใช้สนามบินแห่งใหม่นี้ และให้แต่ละพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ปรับปรุงตัวผังเมืองรวม
ทั้งนี้ เพื่อให้เนื้อหาและทิศทางการพัฒนากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น มีรายละเอียดเนื้อหาสอดคล้องกับการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ เช่น มีคนเพิ่มขึ้น ให้ไปดูว่าจะเพิ่มพื้นที่ที่อยู่อาศัยยังไงได้บ้าง เพื่อรองรับการขยายตัว เป็นต้น โดยให้เสนอกลับมาที่กรม เพื่อจะได้นำไปลงลึกรายละเอียดในการวางผังเมืองต่อไป
"เท่าที่ดูมีหลายจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ไม่ใช่แค่ 2 เขตใน กทม.และสมุทรปราการเท่านั้น แต่รวมไปถึงพื้นที่ของจังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปทุมธานี รังสิต องครักษ์ ลำลูกกา บางปะกง ชลบุรี เป็นต้น หรือแม้แต่ กทม.เองมีผลกระทบทั้งหมด" นายฐิระวัตรกล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม แต่ละผังมีทั้งกำลังจะหมดอายุและอยู่ระหว่างจัดทำร่างใหม่ ส่วนผัง กทม.นั้นได้มีการปรับปรุงไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกับการประกาศใช้กฎกระทรวงสุวรรณภูมิที่กำลังจะออกมาบังคับใช้ในเร็วๆ นี้
ด้วยอิทธิพลของสนามบินหนองงูเห่า เป็นตัวบ่งชี้ว่าทิศทางการพัฒนาแต่ละจังหวัดนั้น จะเดินไปทางไหน
"เมืองใหม่นครนายก" ยังไม่ล้ม
อย่างเช่น "ชลบุรี" ตามผังเมืองรวมที่กำลังปรับปรุงนี้ จะเป็นเมืองท่องเที่ยวอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม มีการเสนอให้รัฐบาลสร้างรถไฟขนส่งมวลชนจากสนามบิน-ชลบุรี เพื่อขนคนที่เป็นนักท่องเที่ยวและคนทั่วไป เพราะระยะทางไม่ไกล แค่ 50 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น และสร้างรถไฟรางคู่ เพื่อขนส่งสินค้าที่เป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับการบิน มายังนิคมแหลมฉบังและมาบตาพุด ที่มีแนวโน้มจะขยายตัวมากขึ้นหลังจากเปิดใช้สนามบินแห่งใหม่นี้
"นครนายก" จะผลักดันให้มีการตั้งเมืองใหม่ขึ้นมารองรับในพื้นที่เขตอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอวังน้ำเปรี้ยว อำเภอองครักษ์และอำเภอบ้านนา ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาว่าแต่ละเมืองนี้จะมีการพัฒนากิจกรรมอะไรบ้าง เพื่อมารองรับ
"ฉะเชิงเทรา" ปัจจุบันเตรียมจัดทำรายละเอียดรองรับการขยายตัวของเมือง เมื่อสนามบินเปิดใช้เช่นกัน จะเน้นการพัฒนาไปที่พื้นที่เขตอำเภอบางปะกง อำเภอบ้านโพธิ์และตัวเมืองฉะเชิงเทรา เป็นด้านที่อยู่อาศัย เพราะเขตพื้นที่อยู่ใกล้กับสนามบิน เชื่อว่าจะมีประชากรแฝงเข้ามาอยู่อาศัยจำนวนมาก ด้วยการสร้างชุมชนใหม่ขึ้นมา เช่น ชุมชนสุวินทวงศ์ เป็นต้น และเน้นกิจกรรมอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นมลพิษ เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์
"สมุทรปราการ" ได้พิจารณาการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดรับกับสนามบินสุวรรณภูมิ จากผังเมืองเดิมจะเป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่รับน้ำ จะมีการเปิดพื้นที่เพื่อลอจิสติก เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจประเภทนี้ โดยเฉพาะย่านบางพลี มีการกำหนดให้เป็นโซนอุตสาหกรรม ศูนย์ราชการ และเป็นโซนที่อยู่อาศัยชั้นดีเพื่อไม่ให้เกิดความแออัดมากเกินไป
"กรุงเทพมหานคร" มีการปรับเปลี่ยนไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกี่ยวเนื่อง เช่น พื้นที่ด้านตะวันออก ในเขตลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก ร่มเกล้า ประเวศ เป็นต้น มีการเปิดพื้นที่ให้มีการพัฒนาได้มากขึ้น เช่น เพิ่มพื้นที่อุตสาหกรรม เพิ่มพื้นที่สีเหลืองบางส่วน เป็นต้น แต่ยังคงพื้นที่รับน้ำไว้เหมือนเดิม
ดูในภาพรวมแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและลึกซึ้ง ถึงผลกระทบที่จะตามมาภายหลัง
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 16-03-2549
|
|
|
|
|