|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| "โบรกเกอร์ต่างชาติ" บุกไทย กินรวบบ้านหรู-รีสอร์ตพรีเมี่ยม |
|
ทุนต่างชาติยังรุกเข้ามาลงทุนธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ในประเทศไทยต่อเนื่อง สถานการณ์ทาง การเมืองที่กำลังร้อนแรงเวลานี้ไม่ได้สร้างความหวั่นไหวให้แม้แต่น้อย เนื่องจากนักลงทุนยังมีความมั่นใจ และมองว่าปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองน่าจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ แต่ในระยะยาวการลงทุนในธุรกิจนี้ยังมีแนวโน้มสดใส เห็นได้จากกลุ่มทุนรวมทั้งบริษัทโบรกเกอร์และบริษัทที่ปรึกษาทางด้านอสังหาฯ ครบวงจรจากต่างชาติ ฯลฯ พากันขยายฐานเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ สร้างความคึกคักให้กับตลาดได้ไม่น้อย พร้อมๆ กับที่การแข่งขันก็เริ่มรุนแรงขึ้นตามลำดับ
ทุนต่างชาติควงโบรกเกอร์บุกไทย
ในส่วนของบริษัทตัวแทนนายหน้าและที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ นั้น ส่วนใหญ่จะเข้ามาโดยการชักนำของกลุ่มทุน ที่เข้ามาร่วมทุนกับผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินไทย ซึ่งมีทั้งกลุ่มนายหน้าจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย เยอรมนี ฯลฯ เนื่องจากเมื่อกลุ่มทุนเข้ามาก็จะดึงพันธมิตรบริษัทนายหน้าหรือบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาด้วย บริษัทตัวแทนนายหน้าและที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ ไทยจึงตกอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบ เพราะต้องแข่งขันกับนายหน้าข้ามชาติที่เชี่ยวชาญและมีเครือข่ายระดับโลก
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า โบรกเกอร์และบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ ครบวงจรข้ามชาติที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยขณะนี้มีหลายรายด้วยกัน อาทิ ทเวนตี้เซ็นจูรี่ จากสหรัฐ อเมริกา แองเจิลวอคเกอร์ จากเยอรมนี เรย์ไวท์ จากออสเตรเลีย และล่าสุดคือ กลุ่มนิวมาร์ค จากสหรัฐอเมริกา ที่ร่วมทุนกับบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ถือเป็นการเข้ามาเขย่าบัลลังก์บริษัทตัวแทน นายหน้าและที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ ทั้งไทยและ "ต่างชาติ" ที่ปัจจุบันครองตลาดในกลุ่มบ้าน
คอนโดฯ ระพับพรีเมี่ยมอยู่ เช่น บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน), บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท แอนดรูพาร์ค จำกัด, บริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นต้น
เจาะตลาดบ้าน-รีสอร์ตพรีเมี่ยม
แหล่งข่าวจากวงการตัวแทนนายหน้าอสังหาฯ กล่าวว่าบริษัทตัวแทนนายหน้าและที่ปรึกษาไทยและต่างชาติที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่จะเน้นรับงานบริหารด้านการตลาดและการขาย และเป็นที่ปรึกษาครบวงจรให้กับโครงการอสังหาฯ ประเภทอาคารสูง คือคอนโดฯ ออฟฟิศบิวดิ้ง บ้านจัดสรร รีสอร์ต เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ระดับบนเป็นหลัก กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนหรือทำงานในประเทศไทย
ยิ่งธุรกิจอสังหาฯ บูมหลังวิกฤตเศรษฐกิจ มีนักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ ระดับราคาแพงเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนและชาวต่างชาติมากขึ้น นายหน้าเหล่านี้ก็ยิ่งมีงานเข้ามาในมือมาก เรียกได้ว่าเป็นช่วงรับทรัพย์ มีงานล้นมือ
ตลาด กทม.แข่งเดือด ตจว.สะเทือน
เมื่อมีคู่แข่งเข้ามาบุกตลาดมากขึ้น ทั้งเป็นบริษัทข้ามชาติที่เชี่ยวชาญในการเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มชาวต่างชาติ บริษัทนายหน้าและที่ปรึกษาที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ขณะนี้น่าจะได้รับผลกระทบ และถูกแย่งลูกค้าไปบางส่วนแน่ โดยเฉพาะในกรุงเทพ มหานคร (กทม.) ส่วนตลาดต่างจังหวัดกระทบน้อยกว่า
โดยเฉพาะตัวแทนนายหน้ารายกลางและ
รายเล็กในหัวเมืองหลักในภูมิภาค และเมืองท่องเที่ยว หากเน้นลูกค้ารายย่อย หรือเจาะตลาดบ้าน
คอนโดฯ และรีสอร์ตระดับปานกลางจะได้รับผลกระทบน้อย แต่ถ้าเป็นบ้าน คอนโดฯหรือรีสอร์ต ระดับราคาแพงที่เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะอาจต้องแข่งขันหนัก
ฟันธงต้องปรับกลยุทธ์สู้
แหล่งข่าวกล่าวว่าทางแก้คือผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดในปัจจุบันต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ พร้อมกับสร้างแรงดึงดูดใจให้กับเจ้าของโครงการ เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจและว่าจ้างให้เป็นผู้วางแผนการตลาดและบริหารงานขายให้ เช่นการนำโครงการไปโรดโชว์ต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ยุโรป ฯลฯ โดยสินค้าที่นำไปโชว์ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยหรือรีสอร์ตระดับพรีเมี่ยมในเมืองท่องเที่ยวต่างชาติสนใจ ไม่ว่าจะเป็นพัทยา ภูเก็ต หัวหิน สมุย ฯลฯ
สอดคล้องกับความเห็นของ "วรเดช ศิวเตชานนท์" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีอาร์เอ (ประเทศไทย) จำกัด ที่มองว่าแม้กรณีดังกล่าวจะทำให้การแข่งขันของธุรกิจตัวแทนนายหน้ารุนแรงขึ้น สวนทางกับจำนวนดีเวลอปเปอร์ในตลาดก็เหลือน้อยรายลง และที่เหลือจะเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าเมืองไทยกำลังจะก้าวไปสู่ความเป็นสากล
นายหน้าไทยไม่หวั่นต่างชาติ
ขณะที่ "วิศิษฐ์ คุณาทรกุล" ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด เห็นว่าการปรับโครงสร้างองค์กรให้ชัดเจน จะทำให้ตัวแทนนายหน้าไทยสามารถแข่งขันได้ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเข้าไปรับบริหารงานขายบ้านจัดสรร หรือคอนโดฯ จากเดิมที่เป็นนายหน้าอสังหาฯ เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังเป็นแรงผลักดันให้องค์กรเติบโดได้ ในส่วนของบริษัทพร้อมจะแข่งขันโดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเติบโตจากปีที่ผ่านมา 40% คิดเป็นยอดขายกว่า 3,800 ล้านบาท
ชี้พวกบุกไทยส่วนใหญ่โนเนม
ด้าน "พนม กาญจนเทียมเท่า" กรรมการ
ผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ฯ ให้ความเห็นว่าโบรกเกอร์ต่างชาติที่เป็นอินเตอร์เฟิร์ม และเข้ามาทำตลาดในไทยยังมีน้อยรายมากที่เป็นที่รู้จักของผู้ประกอบการและผู้บริโภคเป็นอย่างดี และบางกลุ่มเป็นรายเล็กเข้ามาในลักษณะของแฟรนไชส์ จึงเห็นว่าสภาพตลาดนายหน้าอสังหาฯ ยังไม่มีอะไรที่ส่งสัญญาณว่าผิดปกติ
"ผมว่าปีนี้ตลาดไม่มีเปลี่ยนแปลงจากปีที่ผ่านมามากนัก ในแง่ของการทำตลาดเป็นไปได้ที่โบรกเกอร์ต้องปรับตัวเองรับการแข่งขันถือเป็นเรื่องธรรมดามาก" พนมกล่าวและว่า
สำหรับการทำตลาดของบริษัทในปีนี้จะเน้นตลาดที่อยู่อาศัยในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ อย่างภูเก็ต หัวหิน พัทยา และสมุย เนื่องจากมีอัตรา
การขยายตัวสูงกว่าในพื้นที่ กทม. และแนวโน้มยังสดใสมาก
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 06-03-2549
|
|
|
|
|
