| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 60 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 20-02-2549    อ่าน 11624
 "ปูนอินทรี" กำไร 4 พันล้าน แต่ "กดดัน"

การเปิด "ตัวเลข" ผลประกอบการประจำปี 2548 ของบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือปูนกลาง ต่อกลุ่มนัก วิเคราะห์และสื่อนับร้อยคนเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บรรยากาศค่อนข้างแปลกไปกว่าทุกครั้ง

เนื่องจากสาระสำคัญค่อนข้างซีเรียส เพราะปัจจัยหลัก 2 ประการ นั่นคือ เสถียรภาพทางการเมืองที่เริ่มเข้าสู่ยุคแปรผันและต้นทุนพลังงานน้ำมันที่พุ่งไม่หยุด กำลังกลายเป็น "ตัวเร่ง" ให้ผู้ผลิตปูนซีเมนต์เบอร์สองรายนี้ต้องจูนตัวเองให้รับกับสถานการณ์ใหม่ให้ได้

สังเกตจากเอกสารพาดหัวตัวโตระบุชัดว่า "ผลประกอบการที่มั่นคง ภายใต้ความกดดันที่สูงขึ้น"

เป็นประโยคที่สื่อความหมายได้ดีที่สุด

นายใหญ่จากกลุ่มโฮลซิม สวิตเซอร์แลนด์

"ลีโอ มิทเทลโฮลเซอร์" กรรมการผู้จัดการบริษัท ร่ายยาวเนื้อหาเป็นภาคภาษาอังกฤษเกือบหนึ่งชั่วโมง พร้อมตอบข้อซักถามจากนักวิเคราะห์ละเอียดยิบ

มิทเทลโฮลเซอร์ ได้สรุปภาวะตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศและส่งออกของปี 2548 ว่า ปีที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายสุทธิรวมทั้งกลุ่ม 22,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 8 โดยปริมาณการขายปูนในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 7.1 ล้านตันในปี 2547 เป็น 7.8 ล้านตันในปี 2548

ขณะที่ปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 จาก 3.3 ล้านตันเป็น 5 ล้านตัน กว่าครึ่งหนึ่งส่งออกไปเวียดนาม ที่เหลือจะเป็นการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาและประเทศแถบตะวันออกกลาง

ปี 2548 บริษัทมีกำไรสุทธิ 4,073 ล้านบาท

ลดลงเล็กน้อยจากปี 2547 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 4,141 ล้านบาท เหตุที่กำไรลดลง เนื่องจากปี 2547 มีการขายบริษัท รอยัล ปอร์ชเลน จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือออกไป หากไม่รวมรายการนี้ปี 2548 รายได้สุทธิยังเติบโตกว่าร้อยละ 4 และกำไรสุทธิมากกว่า ร้อยละ 5

ส่วนแนวโน้มตลาดปูนซีเมนต์ในปี 2549 มิท เทลโฮลเซอร์ ให้ความเห็นว่า ตลาดปูนซีเมนต์โดยรวมจะเติบโตประมาณ 5% จาก 28.1 ล้านตันเป็น 30 ล้านตัน ในส่วนของปูนซีเมนต์นครหลวงตั้งเป้าอัตราการขายในประเทศเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ในปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือจาก 7.8 ล้านตันเป็น 8.3 ล้านตัน การส่งออกก็ต้องลดลงโดยปริยายเหลือเพียง 4 ล้านตัน เนื่องจากมีกำลังการผลิต 12.3 ล้านตัน/ปี

แต่ประเด็นสำคัญที่มิทเทลโฮลเซอร์ซีเรียส และย้ำเป็นพิเศษ คือ ปัจจัยการเมืองและปัญหาต้นทุนพลังงาน โดยเอ็มดีปูนกลางให้ความเห็นว่า สถานการณ์ปูนซีเมนต์ในปีนี้ ยังมีแรงกดดันค่อนข้างสูงจากปัจจัยการเมืองในประเทศที่ไม่นิ่งและกรอบการลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ยังไม่ชัดเจน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโครงการลงทุนขนาดใหญ่ให้ล่าช้าออกไป แม้ว่าโครงการเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นแน่ แต่หากเกิดขึ้นในปีนี้ ความต้องการใช้ปูนจะเพิ่มอีก 1-2 ล้านตันต่อปี

แน่นอนย่อมช่วยบรรเทาภาวะการแข่งขันอย่างต่อเนื่องของราคาขายได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากราคาปูนปี 2547 ยังสูงกว่าปี 2549

อีกปัจจัยสำคัญคือ ต้นทุนพลังงานและไฟฟ้าซึ่งคิดเป็นต้นทุนการผลิตถึง 77% หากเทียบต้นทุนพลังงานปลายปี 2548 กับปี 2547 ต้นทุนเพิ่มขึ้น

ถึงร้อยละ 61 และต้นทุนค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 ล่าสุดได้มีการขึ้นค่า Ft หรือต้นทุนผันแปรในการผลิตไฟฟ้าของภาครัฐอีก 19 ส.ต.ต่อหน่วย ในขณะที่ราคาปูนหน้าโรงงาน กระทรวงพาณิชย์ไม่ให้ขึ้นราคามาหลายปีแล้ว

ตอนนี้บริษัทต้องหาทางออก โดยตัดสินใจจัดตั้งสายงานธุรกิจใหม่ชื่อ "อีโคสยาม" เพื่อพัฒนาเชื้อเพลิงและวัตถุดิบทดแทน (เออาร์เอฟ) เพื่อให้บริการด้านการกำจัดกากอุตสาหกรรมในประเทศแบบครบวงจร โดยมีแผนลงทุนเพื่อพัฒนาด้านนี้อีก 400 ล้านบาทในปีนี้ ในการขยายโรงงานที่สระบุรี

"ที่ผ่านมาเราใช้เชื้อเพลิงทดแทนได้ประมาณร้อยละ 1 ที่เราลงทุนเพิ่มด้านนี้มีเป้าหมายที่จะใช้ทดแทนเชื้อเพลิงหลักให้ได้ร้อยละ 5 ซึ่งยังน้อยเมื่อเทียบกับในยุโรปที่ใช้ทดแทนได้ถึงร้อยละ 40" มิทเทลโฮลเซอร์กล่าวในตอนท้าย

ดูเหมือนว่า ปัจจัยการใช้เชื้อเพลิงทดแทนยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี จึงจะเห็นผลที่ชัดเจน ขณะที่ปัจจัยต้นทุนเชื้อเพลิงหลัก ค่าไฟฟ้า และการเมืองยังรุมเร้าต้นทุนการผลิตปูนซีเมนต์อยู่ตลอด

พลันมีเสียงดังฟังชัดจาก "จันทนา สุขุมานนท์ รองประธานบริหารการตลาดและการขาย กล่าวตบท้ายว่า "ที่สุดแล้วคงหนีไม่พ้นที่จะดึงส่วนลดราคาปูนจากเอเย่นต์คืน จากตอนนี้ที่ให้ตันละ

400-450 บาทเหลือเพียง 300 บาทต่อตัน"

แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้น งานนี้เอเย่นต์ปูนอินทรีต้องคอยเงี่ยหูฟัง

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 20-02-2549 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.