|
Link
to us!!!
|
| ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
|
| เช็กเรตติ้ง "อภิรักษ์" พบ "ดีเอสไอ" ความเชื่อมั่น-คะแนนนิยมยังตรึม |
|
"อภิรักษ์... สู้ๆ อภิรักษ์...สู้...สู้ๆ"
เป็นเสียงที่ชาวกรุงเทพมหานครกว่า 1,000 คน ร้องตะโกนเชียร์ "อภิรักษ์ โกษะโยธิน" ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขวัญใจชาว กทม. ในวันที่เดินทางไปรับฟังข้อกล่าวหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ตามที่ได้มีหมายเรียกไปชี้แจงกรณีฮั้วประมูล 16 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท เมื่อวันวาเลนไทน์ (14 กุมภาพันธ์) ที่ผ่านมา
ไม่ใช่แค่เพียงเสียงกู่ร้อง ที่ดังกระหึ่มไปทั่วท้องถนนประชาชื่นเท่านั้น ยังมีป้ายผ้าและกระดาษที่เขียนข้อความต่างๆ และดอกกุหลาบสีแดง ที่เป็นสัญลักษณ์ของความรัก มามอบเป็นแรงเชียร์และกำลังใจให้อย่างเนืองแน่น
ซึ่งบรรยากาศนั้น เริ่มคึกคักตั้งแต่เวลา 08.00 น. หลังจากผู้คนเริ่มทยอยเดินทาง มารวมตัวกันบริเวณหน้าตึกดีเอสไอเพื่อมารอรับ "ผู้ว่าฯ กทม." ก่อนที่จะขึ้นลิฟต์ไปรับฟังข้อกล่าวหาจากดีเอสไอที่ชั้น 25
แม้ว่า "อภิรักษ์" จะเสียรังวัดให้กับพรรคไทยรักไทยไปไม่น้อยกับปัญหาในครั้งนี้ แต่ยังได้ใจของคนกรุงเทพฯ เห็นได้จากฝูงชนมหาศาลหน้าตึกทำการดีเอสไอริมถนนประชาชื่น ย่อมหมายถึงคะแนนนิยม "อภิรักษ์" ยังไม่ตกลงไปง่ายๆ กล่าวได้ว่า
ผู้ว่าฯ กทม.จากพรรคประชาธิปัตย์ยังนั่งอยู่ในใจคน กทม.อย่างเหนียวแน่น
ในวันนั้น นอกจากคนกรุงเทพฯ และข้าราชการ กทม.กว่า 1,000 คน ที่แห่แหนมาให้กำลังใจ
"อภิรักษ์" หล่อเล็กแห่งพรรคประชาธิปัตย์แล้ว
กองหนุนจากพรรคขนกันมาเพียบ ตั้งแต่ระดับบิ๊กๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ว่ากันว่าเป็นทีมดูด้านกฎหมาย พร้อมใจกันเดินทางมาให้กำลังใจอย่างท่วมท้น นำทีมโดย "สุเทพ เทือกสุบรรณ" หรือ "เทพเทือก" เลขาธิการพรรค ไปจนถึง "สุรินทร์ พิศสุวรรณ" "ไตรรงค์ สุวรรณคีรี" "ชำนิ ศักดิเศรษฐ" "นายพิเชษฐ พันธุวิชาติกุล" และอีกเพียบจริงๆ
ทำให้บรรยากาศที่ตึกดีเอสไอวันนั้น "ไม่มีเหงา" พลพรรคประชาธิปัตย์แสดงสปิริตไม่ใช่แค่มาส่งตัว หากแต่ทั้งหมดพร้อมใจกันอยู่รอจนถึงวินาทีสุดท้ายนาน 3 ชั่วโมงเต็ม นับตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนเสร็จสิ้นภารกิจช่วงหลังเที่ยงไปแล้ว
นัยดังกล่าว เป็นการประกาศชัดเจนว่า ตอนนี้ปัญหาพัฒนาเป็นเรื่องของ "การเมือง" ไปโดยปริยายแล้ว ระหว่าง "พรรคประชาธิปัตย์" VS "พรรคไทยรักไทย"
เกมเดินหมากครั้งนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ นับว่าได้ผลทางด้านมวลชน เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นการเพิ่มความมั่นใจ "อภิรักษ์" ในฐานะนัก การเมืองมือใหม่ให้เต็มร้อยมากยิ่งขึ้นในการที่ จะต้องเผชิญหน้ากับดีเอสไอ ขณะเดียวกันยังเป็นการกดดันดีเอสไอได้อีกต่างหาก ด้วยกระแสศรัทธาของฝูงชนที่แสดงพลังยืนเคียงข้างให้กำลังใจผู้ว่าฯ กทม.
ท่ามกลางฝูงชนนับพันคน เหตุการณ์ไม่ได้ รุนแรงอย่างที่หลายคนคาดไว้ ทุกอย่างดำเนินการไปอย่างเรียบร้อย ผู้ว่าฯอภิรักษ์ให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทีมั่นใจตนเองเต็มเปี่ยม ยืนยัน "ท่าที" ต่อ "ประเด็นการเมือง" ครั้งนี้ว่า ตนเองเป็นแค่ "ผู้ถูกกล่าวหา" ยังไม่ใช่ "ผู้ต้องหา" อย่างที่ดีเอสไอเข้าใจ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ว่าฯ กทม.เดินทางมาดีเอสไอเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่ทางดีเอสไอแจ้งว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ในมาตรา 10 และ 13
"ผมได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและยืนยันถึงความบริสุทธิ์ จะมีการรวบรวมตอบคำถามเป็นลายลักษณ์อักษรตามที่ดีเอสไอตั้งคำถามมาให้อีกครั้ง ภายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนที่ดีเอสไอจะสรุปสำนวนส่งให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป" คำกล่าวของ "อภิรักษ์"
ดูเหมือนว่า การมารับทราบข้อกล่าวหาจากดีเอสไอครั้งนี้ ทั้ง กทม.และดีเอสไอ ต่างก็ตระหนักดีว่าเป็นเพียง "พิธีการ" ที่น่าจะหวังผลทางการเมืองเป็นด้านหลัก เพราะในทางปฏิบัติ ขั้นตอนการทำงานกว่าคดีนี้จะมีคำตัดสิน ต้องผ่านกระบวน การคือ ดีเอสไอจะสรุปผลสอบสวนผู้ว่าฯ กทม. นำส่งต่อไปยัง ป.ป.ช.(คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) รับไปดำเนินการต่อ
สิ่งที่น่าติดตามต่อจากนี้ก็คือ ยังไม่มีใครรู้ว่า
จะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าผลตัดสินจะออกมา เนื่องจากปัจจุบันยังไม่ได้มีการสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.ช. และถึงแม้จะสรรหาครบหมดแล้ว กว่า ป.ป.ช.จะทำหน้าที่ตรวจสอบก็ต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร พิจารณาจากองค์ประกอบเหล่านี้ แหล่งข่าววงในบางคนถึงกับประเมินว่า ดีไม่ดีต้องรอจนถึง "อภิรักษ์" ทำหน้าที่พ่อเมืองครบวาระ 4 ปี หรือรอจนคดีขาดอายุความไปเลย มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น
เมื่อฟังน้ำเสียงจากดีเอสไอ "พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์" อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยอมรับเองว่า ดีเอสไอมีหน้าที่แค่รวบรวมหลักฐานและ
ชี้มูลส่งให้ ป.ป.ช.เท่านั้น ส่วนผลตัดสินจะออกมา
รูปแบบไหน ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในอนาคต
คดีนี้จึงเป็นหนัง (การเมือง) เรื่องยาวที่ต้องติดตามดูกันต่อไปด้วยประการฉะนี้...
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 20-02-2549
|
|
|
|
|
