| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 61 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 16-02-2549    อ่าน 12140
 "สหพัฒน์" ยุคใหม่ทั้งรุกทั้งรับ บุกธุรกิจใหม่-เน้นสินค้ามาร์จิ้นสูง

ความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยลบรอบข้างที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินงานของภาคธุรกิจที่ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ในปัจจุบัน และทำให้ทุกคนต่างอยู่ในสภาพการเตรียมพร้อม "ตั้งรับ" กับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ไม่พ้นแม้กระทั่งยักษ์ใหญ่ "สหพัฒนพิบูล" บริษัทเก่าแก่ที่อยู่คู่คนไทยมาเนิ่นนานกับบทบาทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปัจจุบันได้ขยายและแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย

"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสได้พูดคุยกับ "บุญชัย โชควัฒนา" กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้รับผิดชอบกับส่วนงานสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้บริโภคระดับรากหญ้าโดยตรง ถึงมุมมองเกี่ยวกับสภาพการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น

- สถานการณ์ตอนนี้หนักใจไหม

แน่นอนว่าความเชื่อมั่นของประชาชนตกลง เพราะเรื่องของความเชื่อมั่นสามารถตกได้ทุกกรณีเมื่อมีปัจจัยอะไรเข้ามากระทบ ตอนนี้ก็ยอมรับว่าปัจจัยหลักเป็นเรื่องการเมือง แต่ก็ยังมั่นใจว่าสินค้าอุปโภคบริโภคจะไม่กระทบอย่างแน่นอน ยังโตได้อีกแต่คงโตไม่มาก แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ดี กำลังซื้อจริงๆ แล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร อย่างสถานการณ์ภาคใต้ที่ใครๆ คิดว่ากำลังซื้อจะตก แต่จริงๆ แล้วก็ยังไปได้ดีอยู่

- สหพัฒน์ปรับตัวอย่างไร

ปรับหลายด้านมาก อย่างเรื่องลอจิสติกก็ปรับมาโดยตลอด ปีนี้เป็นปีที่เราใช้ไอทีเข้ามาช่วยเรื่องนี้มากขึ้น และตั้งเป้าหมายเรื่องการบริหารลอจิสติก มากแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ต้องยอมรับว่ามาจากเหตุผลเรื่องน้ำมันเป็นหลัก โจทย์หลักของเราก็คือ ทำอย่างไรให้ส่งได้เร็วขึ้น และส่งได้มากขึ้นในเวลาและต้นทุนที่เท่าเดิม ตอนนี้การปรับปรุงก็เรียกได้ว่า 80-90% แล้ว แต่อย่างไรก็คงไม่ถึง 100% เพราะลอจิสติกถ้าให้สมบูรณ์ 100% จะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

- กับการควบคุมราคาของภาครัฐ

ผมว่ายุคนี้การควบคุมราคาไม่ค่อยมีแล้ว เพราะขัดต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ถามว่าผู้ผลิตจะยอมผลิตไหม เหมือนน้ำตาลที่ในที่สุดก็ขาดตลาด แต่ยังไงนโยบายของเราก็ยังยืนยันว่าจะเป็นรายสุดท้ายที่ขึ้นราคา ยกตัวอย่าง สบู่ ผงซักฟอก เป็นสินค้าที่ต้นทุนสูงมากจนเราต้องนำเข้าวัตถุดิบที่ผลิตสบู่มาจากอินโดนีเซีย เพราะถูกกว่า ผมว่าในที่สุดการแข่งขันเสรีย่อมจะดีกว่า และจะทำให้ราคาลดลงมาเอง ถ้าเป็นการแข่งขันอย่างสมบูรณ์

- เป้าหมายเน้นยอดขายหรือกำไร

มองทั้ง 2 อย่างเพราะยอดขายก็นำมาซึ่งกำไร แต่แนวทางหนึ่งของสหพัฒนพิบูลหลังจากนี้คือต้องหาสินค้าที่ไฮมาร์จิ้น คือมีกำไรสูงมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสินค้าที่เรามีส่วนใหญ่จะเป็นโลว์มาร์จิ้น และมีต้นทุนการดำเนินการ หรือขนส่งสูง คือพวกสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องใช้พื้นที่ในการขนส่งมาก แต่ราคาต่ำ แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเราถนัดสินค้าแบบนี้มากกว่า แต่อนาคตเราจะค่อยๆ ปรับ ปุ๊บปั๊บไม่ได้ อนาคตออกสินค้าใหม่ก็ต้องนึกถึงเรื่องนี้มากขึ้น พวกสินค้าที่เป็นไฮเอนด์พรีเมี่ยม แต่อย่างไรก็คงต้องเป็นการผสมผสานกันไประหว่างไฮมาร์จิ้นและโลว์มาร์จิ้นด้วย

ที่ผ่านมาผมจึงไม่แปลกใจที่คอลเกต-ปาล์ม โอลีฟต้องขายผงซักฟอกแฟ้บให้กับพีแอนด์จี เพราะค่าดำเนินการไม่คุ้มเนื่องจากเป็นสินค้าที่โลว์มาร์จิ้นที่ต้องเน้นเรื่องวอลุ่มที่สูง แต่สินค้าคอนซูเมอร์บางตัวก็ยังได้อยู่ เช่น ยาสีฟัน ที่ใช้พื้นที่ไม่มากและมาร์จิ้นใช้ได้

- ได้ยินว่าปีนี้สหพัฒน์จะรุกหนัก

ครับ ปีนี้เราตั้งเป้าโต 15% ในปีนี้ จากปีที่แล้วโต 10% คาดว่าจะมียอดขายที่ 16,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 14,000 ล้านบาท แนวทางปีนี้ที่จะทำมี 2 เรื่องคือ ขยายไลน์ธุรกิจสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายเต็มตัว รวมทั้งขยายช่องทางจำหน่ายของเราเองคือ 108 shop ให้มีจำนวนสาขาที่มากขึ้น

- แนวคิดการขยายสู่ผู้จัดจำหน่าย

ที่จริงเราเป็นบริษัทจัดจำหน่ายอยู่แล้ว แต่ทิศทางจากนี้คือการเปิดตัวรับจำหน่ายสินค้าจากค่ายอื่นๆ ที่ไม่ใช่ของเราด้วย เพราะปัจจุบันเรายังมีศักยภาพเหลือที่จะทำได้ ทั้งคลังสินค้า หน่วยรถ ทีมขาย ฯลฯ ตอนนี้เรามีสินค้าข้างนอกประมาณ 4-5 ตัว อาทิ กะทิอร่อยดี มิตรผล โกลด์ น้ำมันพืชทิพ ซิมดีแทค ส่วนปีนี้ก็คาดว่าจะเพิ่มอีก 2-3 ตัว

ผมมีชื่อเรียกหน่วยงานนี้ว่า MDL (Marketing Distribution and Logistics) โดยผู้ที่มาให้เราจัดจำหน่ายนั้นจะใช้บริการครบวงจรทั้ง 3 เรื่องก็ได้คือ ทั้งวางแผนการตลาด กระจายสินค้า รวมทั้งดูแลเรื่องลอจิสติกหรือจะเลือกอันใดอันหนึ่งก็ได้ โดยจะเน้นสินค้าที่ดีมีคุณภาพและตรงกับช่องทางจำหน่ายที่เราแข็งแกร่ง ความตั้งใจคือต้องการให้ยอดขายในส่วนนี้เพิ่มเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมดของเรา

- จุดแข็งของสหพัฒน์กับธุรกิจนี้

ผมมั่นใจว่าเราสามารถจัดจำหน่ายและครอบคลุมช่องทางได้ครบถ้วนมากที่สุดในประเทศไทย ทั้งโมเดิร์นเทรดและเทรดิชันนอลเทรด รวมทั้งช่องทางที่เป็นอุตสาหกรรม โรงแรม ร้านอาหาร แต่ก็ยอมรับว่ายังมีบางช่องทางที่เราไม่ถนัด เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีสินค้าประเภทนี้มากนัก เช่น ร้านขายยา โรงพยาบาล ซึ่งปีนี้เราก็จะเน้นหนักมากขึ้น โดยมีการตั้งทีมขายขึ้นมาโดยเฉพาะ รวมทั้งหน่วยรถหลายสิบหน่วย ต่อไปสินค้าในเครือและนอกเครือก็จะมาเข้าช่องทางนี้มากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพของเรา

- ความคืบหน้าของ 108 shop

ไปได้เรื่อยๆ ตอนนี้มีทั้งหมด 600 แห่ง ปีนี้ตั้งใจจะให้ได้ 1,000 แห่ง จริงๆ 108 shop เป็นโปรเจ็กต์ของทั้งเครือสหพัฒน์ เป็นงบฯรวมของเครือที่ช่วยกันขยายคนละส่วน ทั้งไอ.ซี.ซี.ฯ และสหพัฒนพิบูล รวมถึงไลอ้อน ซึ่งการขยาย 108 shop ก็เป็นแนวทางหนึ่งในการสร้างการเติบโตให้กับบริษัท เพราะที่ผ่านมาเรามีการผลิตสินค้าประเภทเครื่องใช้ในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพื่อเป็นสินค้าเฮาส์แบรนด์ 108 shop วางจำหน่ายในร้าน ปีนี้ก็น่าจะเพิ่มสัก 1-2 รายการ เน้นสินค้าที่ผู้บริโภคไม่เน้นแบรนด์มากนัก คอนเซ็ปต์คือเน้นราคาถูกเพราะเป็นสินค้าที่ส่งตรงจากโรงงาน เหมาะกับยุคที่น้ำมันแพงยุคนี้

- มุมมองการสร้างแบรนด์ยุคนี้

เรามีแบรนด์ที่หลากหลายมาก สิ่งที่จะเน้นคือรักษาความดีของแบรนด์ที่เรามีอยู่ไว้ คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก แต่ที่ผ่านมาเราก็มีการรีแบรนดิ้งหลายตัวให้มีความทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นเปา มาม่า ฯลฯ ซึ่ง 2 ตัวนี้ก็ยังเป็นยอดขายหลักของเรา ส่วนเรื่องการออกสินค้าใหม่ๆ แต่ละสินค้าก็ต้องมีนวัตกรรมใหม่อย่างน้อยแบรนด์ละ 1-2 ตัว ซึ่งปีที่แล้วเราก็ทำมาโดยตลอด

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 16-02-2549 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.