| freesplans.com | ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
: : g o  t o  m a i n p a g e : :
สถาปัตยกรรม | ตกแต่งภายใน | ดีไซน์-แกลอรี่ | แบบบ้านสวย | แนะนำ-ติชม | ถาม-ตอบ เรื่องบ้าน | ติดต่อเรา 
ขณะนี้มีผู้ชมอยู่ 89 ท่าน 
FreeSplanS MENU
Profession Search
+ งานสถาปัตยกรรม
+ งานวิศวกรรม
+ งานรับเหมาก่อสร้าง
+ งานรับเหมาเฉพาะด้าน
+ งานออกแบบ
+ งานอสังหาริมทรัพย์
+ งานบริการอาคาร
C a l c u l a t o r . . .
+ คำนวณปริมาณคอนกรีต
+ คำนวณปริมาณการใช้สี
+ คำนวณปริมาณกระเบี้องปูพื้นและผนัง
+ คำนวณปริมาณวอลเปเปอร์
+ คำนวณปริมาณ BTU แอร์
D o w n l o a d s . . .
+ Agreement & Forms
+ Program Utilities
+ Windows Font

 

Link to us!!!
Link to US!!!






ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง
 
กด Like เป็นกำลังใจให้เว็บด้วยนะค่ะ
| ข่าวทั้งหมด |

 fp 26-01-2549    อ่าน 11539
 คนซื้อช็อกดบ.บ้านขย่มตลาดปีจอ แบงก์เข้มเพดานกู้บีบลูกค้าดาวน์

ดอกเบี้ยขาขึ้นถล่มอสังหาฯแต่หัววัน แบงก์พาณิชย์-แบงก์รัฐดาหน้าขยับดอกเบี้ยเพิ่ม เหตุจากต้นทุนพุ่งหลังแข่งระดมเงินเสริมสภาพคล่อง คนซื้อบ้านช็อก ธอส.อั้นไม่ไหว ขึ้นดอกเบี้ยระลอกใหม่อีก 0.25-0.50% ต่อปี อ้างคลังบี้ทำยอดปล่อยกู้ให้ได้ 1.3 แสนล้าน วิ่งวุ่นขอออกพันธบัตร-เพิ่มทุน-ระดมเงินฝากจากรายย่อย ด้านจัดสรร หวั่นกำลังซื้อหด แบงก์ร่อนจดหมายจำกัดเพดาน ชี้บ้านผ่อนดาวน์กลับมาแน่

แม้หลายฝ่ายจะมองว่าปัจจัยลบที่จะมากระทบตลาดบ้านในปี 2549 คงไม่เลวร้ายไปกว่าปีที่ผ่านมา แต่การเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณา

สินเชื่อที่อยู่อาศัยของผู้กู้รายย่อยของสถาบันการเงิน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) บวกกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ส่งสัญญาณชัดเจนว่าปีนี้น่าจะมีการปรับขึ้นอีกหลายระลอก จากที่ต้นทุนทางการเงินของสถาบันการเงินสูงขึ้น หลังสภาพคล่องในตลาดรวมเริ่มหดหาย ทำให้ต่างต้องเร่งแข่งขันกันระดมเงินในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันสถาบันการเงินหลายแห่งเริ่มส่งสัญญาณการจำกัดเพดานเงินกู้ โดยกำหนดให้ลูกค้าที่ต้อง การซื้อบ้านต้องวางเงินดาวน์แทนการปล่อยกู้เต็มวงเงินเหมือนที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า หลังจากสถาบันการเงินหลายแห่งทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน พร้อมๆ กับปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด โดยหันมาปล่อยกู้ซื้อบ้านโดยใช้อัตราดอกเบี้ยกึ่งลอยตัวและลอยตัวแทนตั้งแต่ปลายปี 2548 ที่ผ่านมาแล้ว

ล่าสุด สถาบันการเงินทั้งของรัฐและธนาคารพาณิชย์เริ่มเคลื่อนไหวปรับอัตราดอกเบี้ยอีก ครั้งหนึ่งเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการเงินที่

เพิ่มขึ้น

อาทิ ธนาคารออมสินประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2549 เป็นต้นไป โดยอัตราเงินกู้ปรับเพิ่มขึ้น 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เอ็มแอลอาร์อยู่ที่ 6.75% ต่อปี และเอ็มโออาร์อยู่ที่ 7.00% ต่อปี ธนาคารธนชาติจำกัด (มหาชน) ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.25-0.50% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อีก 0.25%

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2549 โดยยกเลิกอัตราดอกเบี้ยคงที่เหลือเพียงอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอิงกับอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ที่ 6.5% เป็นต้น

ธอส.ปรับดอกเบี้ยขึ้นระลอก 2

ที่ช็อกลูกค้าคนซื้อบ้านสุดๆ คือการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านระลอก 2 ในปีนี้ ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ภายในช่วงระยะเวลาห่างกันเพียงแค่ 20 วัน โดยก่อนหน้านี้ ธอส.ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2549 รวม 0.25% ต่อปี

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส.เปิดเผยว่า ธอส.ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อบ้านคงที่ 3 ปี และ 5 ปี อีก 0.25-0.50% เพื่อให้ใกล้เคียงภาวะตลาดที่แท้จริง และให้แข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ได้ แต่ยังมีส่วนต่างจากธนาคารอื่น 1% และคาดว่าภายในปีนี้อาจต้องปรับดอกเบี้ยอีก 1% อย่างไรก็ตามต้องรอดูสถานการณ์ตลาดโดยรวม และนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย (อาร์/พี) อีกหรือไม่

คลังบี้ทำยอด 1.3 แสนล้าน

นายขรรค์ระบุว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยมาจาก ธอส.จำเป็นต้องเร่งระดมแหล่งเงินปล่อยกู้ให้กับลูกค้าในปีนี้ตามเป้าที่กระทรวงการคลัง ตั้งไว้ที่ 1.3 แสนล้านบาท สูงขึ้นจากปี 2548

ที่ปล่อยได้ 1.2 แสนล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีเม็ดเงินเพียงพอรองรับการปล่อยกู้ได้ไม่เกิน 1 แสนล้านบาท จึงจำเป็นต้องระดมทุนจากแหล่งอื่นมาเสริม ซึ่งเป็นไปได้ที่จะต้องเพิ่มทุน

ธอส.อยู่ระหว่างเจรจาต่อรองกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ เพราะเห็นว่า ธอส.คงทำตามเป้าที่ตั้งไว้ลำบาก เนื่องจากปีนี้เพิ่งนำระบบไอที หรือระบบ core banking เข้ามาใช้ เพื่อปรับระบบการให้บริการใหม่

เล็งออกพันธบัตร-ซิเคียวริไทเซชั่น

"ใน 3-5 ปีข้างหน้า กระทรวงการคลังต้องการให้ ธอส.หาแหล่งเงินทุนให้ได้ 3 แสนล้านบาท วิธีการหาแหล่งทุนมีหลายแนวทาง ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือออกพันธบัตร และแปลงสินทรัพย์เป็น หลักทรัพย์ (ซิเคียวรีไทเซชั่น) ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งน่าจะได้เม็ดเงินเข้ามา 2 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้มีแหล่งเงินทุนที่น่าสนใจ เช่น ปิโต ดอลลาห์ ซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากอิหร่าน ที่มีแผนจะเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากยุโรปและอเมริกา มายังภูมิภาคเอเชีย เพราะเห็นว่าเป็นตลาดที่น่าลงทุน และปลอดภัยสูงกว่า นอกจากนี้อาจจะกู้เงินจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี รวมทั้งธนาคารโลกด้วย"

สำหรับผลประกอบการ ธอส.ในปี 2548 มีกำไร 4,673 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 0.62% จากปี 2547 มีการปล่อยสินเชื่อใหม่ 129,635 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 99,000 ล้านบาท ปี 2549 ตั้งเป้ากำไรไว้ที่ 3,500-3,600 ล้านบาท โดยจะเน้นขยายฐานปล่อยสินเชื่อรายย่อยใหม่ให้มากขึ้น

นอกจากนี้ยังจะเป็นปีที่ต้องปล่อยกู้ให้กับบ้านในโครงการรัฐบาลจำนวนมาก ได้แก่ บ้านเอื้ออาทร บ้านธนารักษ์ และบ้านมั่นคง วงเงิน 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ เดือนธันวาคม 2548 ธอส.มีสินเชื่อ คงค้าง 489,411 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 531,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.38% ส่วนเอ็นพีแอล 28,562 ล้านบาท หรือ 6.06%

นางสาวชมพูนุท สุมนเศรณี รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการเงินและบัญชี ธอส. กล่าวว่า หากรัฐบาลต้องการให้ ธอส.ปล่อยกู้สูงถึง 1.3 แสนล้านบาท อาจต้องระดมทุนโดยออกพันธบัตรในตลาดต่างประเทศประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท ซึ่งธนาคารอิสลามจากประเทศตะวันออกกลางสนใจจะให้กู้

แต่รัฐบาลไม่ต้องการให้ออกพันธบัตร ธอส.จึงต้องหันมาใช้วิธีระดมทุนจากรายย่อยในประเทศแทน วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท หรืออาจต้องเพิ่มทุนอีก 2-3 พันล้านบาท จากปัจจุบันทุน 1.7 หมื่นล้านบาท หากไม่อนุมัติก็อาจต้องของดส่งรายได้ 30-40% ของกำไรสุทธิเข้าคลัง ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ ธอส.อยู่ได้โดยไม่ต้องหาแหล่งเงินทุนเพิ่มอีกอย่างน้อย 3 ปี

"ยอมรับตรงๆ ว่าตอนนี้สถานภาพการเงินค่อนข้างตึงตัว และมีศักยภาพในการปล่อยกู้ได้แค่ 1 แสนล้านเท่านั้น แต่หากจะให้เราปล่อยได้มากกว่านี้ ก็ต้องให้ทางเลือกที่เหมาะสมตามที่เสนอขอ" นางชมพูนุทกล่าว

แบงก์บีบดาวน์บ้าน 5-10%

ด้านนายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปีนี้ตนมองว่าสถาบันการเงินจะเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อบ้านมากขึ้น เห็นได้จากหลายธนาคารเริ่มส่งจดหมายเวียน ว่าจะจำกัดเพดานวงเงินกู้ให้กับลูกค้า โดยจะไม่ปล่อยกู้เต็มวงเงินเหมือนที่ผ่านมา แต่จะปล่อยกู้สูงสุด 95% ของราคาหลักประกัน พร้อมกับกำหนดเงื่อนไขให้ลูกค้าวางเงินดาวน์ 5-10% คนซื้อบ้านจึงต้องเตรียมเงินก้อนไว้ผ่อนดาวน์บ้าน ซึ่งคาดว่าจากนี้ไปบ้านผ่อนดาวน์จะกลับมา

"การผ่อนดาวน์บ้านกลับมาตั้งแต่ปีที่แล้วบางส่วน เพราะบางคนไม่พร้อมจะโอนหรือจะเข้าอยู่ทันที และเริ่มสบายใจมากขึ้นจากความกังวลใจเรื่องซื้อบ้านแล้วไม่ได้บ้าน เพราะผู้ประกอบการเริ่มแข็งแรงขึ้น สถาบันการเงินสกรีนดีขึ้น ยิ่งนโยบายสินเชื่อออกมาอย่างนี้ ที่ต้องมีเงินดาวน์ 5-10% ก็น่าจะชี้นำให้เห็นว่าบ้านผ่อนดาวน์กำลังจะกลับมา ในสัดส่วนที่อาจจะใกล้เคียง หรือมากกว่าบ้านสร้างเสร็จก่อนขายด้วยซ้ำ" นายอธิปกล่าว

  
ที่มา
[ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 26-01-2549 

ค้นหาข่าวด้วยรหัส

รหัส








webmaster คลิกที่นี่

Copyright 2002 freesplans Design solution, Inc.