Link
to us!!!
|
ข่าวเศรษฐกิจ / วงการก่อสร้าง |
|
|
|
ตลาดบ้านหรูภูเก็ตปี"49 "สิงคโปร์-ฮ่องกง" แห่ช็อปมากสุด (จบ) |
|
รายงานจากผลการวิจัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
เมื่อบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้การนำทัพของ "พนม กาญจนเทียมเท่า" ชี้ถึงภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในมุมมองของสายตาตัวเองว่า "ยังไปได้ดี" ในปีนี้
"สตีเฟ่น โอ ไบรอัน" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกก็ขอพื้นที่แสดงความคิดเห็นในอีกมุมหนึ่ง แต่เป็นอสังหาริมทรัพย์ "ภูเก็ต" โดยเฉพาะซึ่งมีความน่าสนใจ
เขาฟันธงว่า "ตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตยังคงขยายตัวต่อเนื่องและเริ่มจะไปได้ดี โดยได้รับแรงขับเคลื่อนสำคัญจากการแสวงหาอสังหา ริมทรัพย์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้ซื้อนั่นเอง"
"ฉะนั้น ภาพรวมในปี 2549 ผมคาดว่าตลาดการลงทุนจะยังคงสถานการณ์เดิมจนกว่าจะมีการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น"
จากตัวเลขล่าสุดของผู้เดินทางเข้ามาที่สนามบิน พบว่าสถิติของนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่เข้ามาภูเก็ตลดลง 38% จากปีที่แล้ว
ในขณะที่นักท่องเที่ยวภายในประเทศลดลงเพียง 22% และจำนวนเที่ยวบินของสายการบินลดลง 41% เมื่อเปรียบกับปีที่แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าไตรมาส 3 ของปี 2549 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่บินตรงจากเมืองสำคัญๆ ของยุโรปเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกับก่อนช่วงเหตุการณ์สึนามิ
สำหรับเหตุการณ์สึนามินั้น ถือว่าส่งผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่บ้าง แต่ไม่มากเท่าที่มีการ วิพากษ์วิจารณ์
เพราะผลการวิจัยพบว่า การซื้อขายอสังหาริม ทรัพย์ลดลงเพียง 31% เท่านั้น ในขณะที่ระดับราคาตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สึนามิเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 7%
จากรายงานพบอีกว่า โครงการส่วนใหญ่มียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการที่มีความแข็งแกร่ง เปี่ยมด้วยประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์และการบริการ รวมถึงมีผลงานที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพจะยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
เท่ากับว่าผู้ประกอบการในภูเก็ตที่เป็น "มืออาชีพ" จริงๆ สามารถฝ่าด่านกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น
นอกจากนั้น เรายังพบว่าแม้อุปทานของตลาด อพาร์ตเมนต์จะล้นตลาด แต่ยอดการทำสัญญาซื้อขายยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง (ดูจากยอดขายปัจจุบัน) จนถึงอีก 4-5 ปีข้างหน้า
สำหรับตลาดของ "วิลล่า" อุปสงค์และอุปทานยังมีความสมดุลกัน ทั้งนี้ดูจากโครงการวิลล่าที่ขายไปแล้ว และที่กำลังก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง สตีเฟ่นให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ผู้ซื้อชาวฮ่องกงจะยังคงเป็นผู้ซื้อกลุ่มใหญ่ของตลาดดังกล่าว
ที่สำคัญทุกค่ายจึงพยายามเจาะตลาดกลุ่มผู้ซื้อประเทศอื่นๆ ให้เข้ามาช็อปปิ้งสินค้าที่อยู่อาศัยในประเทศไทยให้มากขึ้น อย่างไนท์แฟรงค์ฯเองก็พยายามหาลูกค้าจากประเทศอังกฤษ และประเทศสำคัญๆ ในยุโรปที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ตนเองในระดับราคาตั้งแต่ 20-40 ล้านบาท
ในขณะที่ชาวสิงคโปร์ยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2
อย่างไรก็ตาม ด้วยค่าเงินยูโรและเงินปอนด์ สเตอร์ลิงที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเงินบาทเราอาจจะได้เห็นตลาดของชาวยุโรปกลายเป็นตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตในอีก 3-5 ปีข้างหน้าก็เป็นได้
โดยภาพรวมแล้วเราเชื่อมั่นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตจะยังคงดำเนินไปด้วยดีอย่างต่อเนื่องและจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ของปี 2549
|
ที่มา [ ประชาชาติธุรกิจ ] วันที่ 26-01-2549
|
|
|
|
|