กระจกมีหลายชนิดแน่นอน แต่หากเราจะแบ่งความแข็งแรงของกระจกเพื่อการใช้งานให้ถูกที่
และไม่บินลงมา ทำอันตราย ก็น่าจะแบ่งออกได้เป็น
4 ชนิด คือ :
1. กระจกธรรมดา หรือที่เรียกภาษาเทคนิคว่า
Anneal Glass เวลาแตกจะเป็นปากปลาฉลาม
ซึ่งอันตราย แต่ยังโชคดี ที่รอยแตกจะวิ่งเข้าสู่กรอบ
ทำให้ส่วนใหญ่ ยังไม่หล่นลงมาโดยทันทีทันใด
มองจากภายนอกไม่เป็นลอนดูเรียบสวยงาม
2. กระจก Tempered คือเอากระจกธรรมดามาทำให้ร้อนเกือบหลอมละลายใหม่
แล้วทำให้เย็น จะเป็นการ เพิ่มความแข็งแรง
เวลาแตกจะแตกกระจายเป็นเม็ดเล็ก ๆ
ไม่เป็นอันตรายมาก แต่จะไม่มีรอยแยกวิ่งเข้ากรอบ
ทำให้เมื่อแตกแล้วจะร่วงหล่นลงมาทันที
ดูจากภายนอกจะเป็นลอนเล็กน้อย จึงดูหลอกตา
ในบางมุมมอง
3. กระจก Heat Strengthen จะคล้ายกับกระจกสองอย่างแรกปนกัน
โดยนำกระจกธรรมดามาให้ความร้อน (แต่ไม่ถึงขนาด
Tempered Glass) จึงมีความแข็งแรงมากขึ้น
(ไม่เท่ากับ Tempered) เวลาแตกจะแตกแบบ
Float มองดูภายนอกเป็นลอนบ้างบางครั้ง
แต่ไม่มาก
4. กระจก Laminated ซึ่งความจริงไม่น่าจะนำมาเปรียบเทียบกับกระจกทั้ง
3 อย่างแรก เพราะไม่ใช่แตกต่างกัน
ที่วิธีการผลิต แต่เป็นการเอากระจก
(อะไรก็ได้) มารีด ประกบติดกัน ด้วยแผ่นฟิล์ม
ทำให้เกิด ความแข็งแรงมากขึ้น เวลาแตก..
แผ่นฟิล์มจะทำหน้าที่ยึดติด ไม่ให้ร่วงหล่นลงมาได้
จากกระจกที่แบ่งตามความแข็งแรงในการใช้ดังกล่าวข้างต้น
ก็อาจจะแยกกระจก ออกเป็นไปตาม ความสวยงาม
หรือผ่านวิธีกรรมอื่น ๆ ได้อีกต่อไป
เช่นทำให้ออกมา เป็นกระจกกรองแสง
กระจก สะท้อนแสง กระจกเงา ฯลฯ
.
แต่นั่นคงไม่ใช่ ความสำคัญประการแรก
เนื่องจากเราสามารถ นำกระจก Float,
Tempered, Heat Strengthen, หรือ
Laminated มาทำเป็นกระจกตัดแสง กระจกสะท้อนแสง
หรือกระจกเงาได้ไม่ยากนัก |
|